การสระผมเป็นกิจวัตรประจำวันที่หลายคนทำเป็นประจำ แต่บางครั้งเราอาจล้างแชมพูออกไม่หมด ทำให้เกิดความกังวลว่า อาจส่งผลเสียต่อหนังศีรษะ เช่น ทำให้เกิดอาการอักเสบ แพ้ หรือปัญหาผิวหนังอื่นๆ จริงหรือไม่? ในบทความนี้ โว้กบิวตี้พามาเจาะลึกถึงความสำคัญของการล้างแชมพูให้สะอาด ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการล้างไม่หมด รวมถึงวิธีดูแลหนังศีรษะให้สุขภาพดี
-
ทำไมต้องล้างแชมพูให้หมดจด?
‘แชมพู’ มีส่วนผสมของสารทำความสะอาด (Surfactants) ที่ช่วยขจัดน้ำมัน สิ่งสกปรก และสารเคมีบนหนังศีรษะและเส้นผม หากล้างไม่หมด สารเหล่านี้จะตกค้างอยู่บนหนังศีรษะและเส้นผม อาจก่อให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรก ไขมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้หนังศีรษะเกิดความมันส่วนเกินหรือแห้งกร้านผิดปกติ และเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งส่งผลต่อความสมดุลของหนังศีรษะได้
-
ล้างแชมพูไม่หมด เสี่ยงต่อการอักเสบหนังศีรษะจริงหรือ?
คำตอบคือ ‘ใช่’ แต่ต้องเข้าใจว่าอาการอักเสบไม่ได้เกิดขึ้นทันทีเสมอไป แชมพูที่ล้างไม่หมดจะทำให้เกิดการระคายเคืองและสะสมสิ่งตกค้างที่กระตุ้นการอักเสบ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวหนังศีรษะแพ้ง่าย หรือมีปัญหาผิวหนังอยู่ก่อนแล้ว เช่น ผิวหนังอักเสบ, โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคผิวหนังอื่นๆ สารตกค้างอาจทำให้รุนแรงขึ้น และเกิดอาการระคายเคือง คัน แดง ลอก และบวมได้

ภาพ: istock
-
อาการของหนังศีรษะอักเสบจากแชมพูตกค้าง
หนังศีรษะอักเสบจากแชมพูที่ล้างไม่หมด มักแสดงอาการดังนี้ คันหนังศีรษะเรื้อรัง, ระคายเคืองหรือแสบผิวหนังศีรษะ, ผิวลอกเป็นขุยขาวหรือเหลือง เช่น รังแค, หนังศีรษะแดงหรือบวมเล็กน้อย หรือบางรายอาจมีตุ่มหรือแผลผิวหนัง ถ้าไม่รีบดูแล อาการเหล่านี้อาจลุกลามกลายเป็นการติดเชื้อและส่งผลต่อเส้นผม
-
ผลเสียอื่นๆ จากการล้างแชมพูไม่สะอาด
นอกจากอักเสบหนังศีรษะแล้ว การล้างแชมพูไม่หมดอาจส่งผลอื่นๆ เช่น เส้นผมมันเยิ้ม หยาบกระด้าง และพันกันง่าย, ผมร่วงมากขึ้น เนื่องจากหนังศีรษะไม่แข็งแรง รวมถึงเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพราะเชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตบนหนังศีรษะ ทำให้สภาพผิวหนังศีรษะไม่สมดุล จนเกิดความแห้งกร้านหรือมันเกินไป ตามแต่สภาพผิวของแต่ละคน

ภาพ: istock
-
วิธีป้องกันไม่ให้ล้างแชมพูไม่หมด
- ใช้แชมพูในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป
- ล้างด้วยน้ำสะอาดและอุณหภูมิปกติ ไม่ใช่น้ำร้อนจัด
- ล้างแชมพูซ้ำครั้งที่สองถ้าจำเป็น โดยเฉพาะถ้ามีการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม
- นวดหนังศีรษะอย่างนุ่มนวล เพื่อให้แชมพูละลายสิ่งสกปรกได้ดีและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
- ล้างออกให้หมดจดและตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีคราบแชมพูตกค้าง
- ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารระคายเคือง
- ดูแลสุขภาพหนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอ เช่น การมาส์กผม หรือใช้ทรีตเมนต์บำรุงหนังศีรษะ
-
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?
ถ้าคุณมีอาการหนังศีรษะอักเสบเรื้อรัง แดง ลอก หรือมีแผล ไม่ดีขึ้นแม้จะดูแลด้วยตัวเอง หรือมีอาการรุนแรง เช่น ปวด บวม หรือมีหนอง ควรพบแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม เพราะอาการเหล่านี้อาจต้องใช้ยาหรือการรักษาโดยเฉพาะ




