Perfumers' Journey | รู้จักกับน้ำหอมฝีมือคนไทย ที่คิดกลิ่นขึ้นมาจากความทรงจำของการเดินทาง

ทุกคนต่างรู้ดีว่าในปัจจุบันมีน้ำหอมแบรนด์ไทยเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งในแต่ละแบรนด์ก็มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป และแบรนด์ Perfumers' Journey ก็เป็นหนึ่งในน้ำหอมแบรนด์ไทยที่มีคอนเซ็ปต์คือ "กลิ่นหอมที่คิดค้นมาจากความทรงจำในการเดินทางของคนปรุงน้ำหอม"

Perfumers' Journey คือแบรนด์น้ำหอมไทยที่ตั้งใจถ่ายทอด “การเดินทางผ่านกลิ่น” ให้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผู้ใช้ โดยหยิบแรงบันดาลใจจากความทรงจำ สถานที่ และอารมณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น บ้านสวนยามเช้า หรือกลิ่นที่เป็นนิยามของคำว่าฉ่ำ แล้วตีความออกมาเป็นกลิ่นที่อบอุ่น ละเมียดละไม และเข้าถึงได้ง่าย ทุกขวดถูกออกแบบให้เล่าเรื่องราวที่ต่างออกไป ทั้งสดชื่น เบาสบาย หรืออบอวลด้วยเสน่ห์ไม่มีเหมือนใครสะท้อนความเชื่อว่า “น้ำหอมไม่ใช่แค่กลิ่น แต่คือเส้นทางที่พาเรากลับไปหาความรู้สึกที่อยากจำ” และนี่เองที่ทำให้ Perfumers' Journey กลายเป็นหนึ่งในชื่อที่น่าจับตาในโลกของน้ำหอมสัญชาติไทย.

เมื่อไม่นานมานี้โว้กบิวตี้ได้มีโอกาสที่ได้พูดคุยถึงเรื่องราวของแบรนด์ Perfumers' Journey กับผู้ก่อตั้งแบรนด์ทั้ง 3 ท่่าน คุณสกุล คุณเอก และคุณสสิตา ทั้งสามท่านจะมาบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ ทั้งความพิถีพิถันในการสร้างกลิ่นหอมไปจนถึงกลิ่นที่น่าสนใจให้ทุกคนได้รอติดตามกันในอนาคตอีกด้วย

แบรนด์ Perfumers’ Journey เกิดขึ้นได้อย่างไร

แบรนด์ Perfumers’ Journey เกิดจากความหลงใหลใน “กลิ่น” ที่สามารถเล่าเรื่องราวได้ จึงอยากถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากการเดินทาง ศิลปะ และวัฒนธรรม ผ่านน้ำหอมที่เก็บรักษาความทรงจำและอารมณ์ไว้ในขวด

กลิ่นไหนที่เป็นแรงบันดาลใจทำให้เกิดแบรนด์ Perfumers’ Journey ออกมา

แรงบันดาลใจในการสร้างน้ำหอมแต่ละกลิ่นมาจากประสบการณ์และภาพความทรงจำที่เราพบเจอจริง

สกุล: กลิ่น Cuzco ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางไปเมืองโบราณในประเทศเปรู ในห้องพิธีกรรมของชาวอินคา มีกลิ่นควัน Palo Santo ลอยอบอวล ผสมกับกลีบกุหลาบแห้งที่วางอยู่ บรรยากาศทั้งสงบ ลึกลับ จนอยากเก็บความรู้สึกนั้นมาเป็นน้ำหอม

เอก: เป็นกลิ่นน้ำหอมของคุณพ่อ และการไป road trip ของครอบครัวผ่านชายฝั่งอันดามันไปถึงภูเก็ต ทำให้เกิดเป็นน้ำหอม Classic Cologne Style อย่าง Cape Andaman

สสิตา: กลิ่น Monday Morning ที่สาวออฟฟิศได้กลั่นเอาความขี้เกียจของเช้าวันจันทร์ออกมา

แต่ละกลิ่นจึงไม่ใช่แค่ความหอม แต่เป็นการเดินทางและอารมณ์ที่ผู้สวมใส่สามารถสัมผัสและเล่าเรื่องต่อได้ด้วยตัวเอง

ปัจจุบันมีน้ำหอมแบรนด์ไทยเยอะมาก คิดว่า Perfumers’ Journey เป็นน้ำหอมที่แตกต่างจากแบรนด์ไทยอื่นๆ อย่างไร

เอกลักษณ์ของ Perfumers’ Journey คือการสร้างกลิ่นที่เล่าเรื่องราวได้อย่างแท้จริง ทุกกลิ่นเป็นงาน Artisanal ที่ไม่ได้ใช้ Base สำเร็จรูป แต่ถูก Crafted from scratch ด้วยการศึกษาและสัมผัสวัตถุดิบจริง ๆ จากนั้นจึงคัดเลือก Aroma chemicals คุณภาพสูงจากแหล่งมาตรฐานสากลมาผสมผสานอย่างพิถีพิถัน ทำให้ได้กลิ่นที่สมจริง มีชีวิต และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล (IFRA และ EU safety)

อยากให้เล่าโมเมนต์ที่ได้ไปออกงาน Scent Fair ที่ LA ให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ

งาน Scent Fair LA จัดขึ้นโดย The Institute of Art and Olfaction ในฐานะ Marketplace ของงานประกวดน้ำหอม Art and Olfaction Awards หรือที่คนในวงการเรียกว่า ลูกแพร์ทองคำ ผู้เข้าร่วมงานมีทั้งคนรักน้ำหอม นักสะสม และนักสร้างสรรค์จากทั่วโลกที่มารวมตัวกัน เราเองก็ได้ส่งผลงานเข้าประกวด แม้จะไม่ได้รางวัล แต่ทางผู้จัดได้คัดเลือก Perfumers’ Journey ให้ไปออกร้าน ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ได้แสดงตัวตนของแบรนด์ไทยบนเวทีนานาชาติ แบรนด์ที่มาร่วมงานมีตั้งแต่ Niche Brands จากยุโรป อเมริกา จนถึงเอเชีย แต่ละเจ้าเต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้งานนี้เป็นเหมือน Melting pot ของวัฒนธรรมกลิ่นจากทั่วโลก

สำหรับ Feedback ที่เราได้รับ หลายคนบอกว่าประทับใจในความ “จริง” ของกลิ่นที่เล่าเรื่องจากประสบการณ์จริงจนสัมผัสได้ถึงความเป็น artisanal และมุมมองใหม่ๆ ที่เราถ่ายทอดผ่านน้ำหอม เช่น Baan Suan - กลิ่นมะม่วงเขียวเสวยดิบ ดอกมะลิ และดินชื้นๆที่บ้านสวนของคุณย่า, Tea Industry - กลิ่นหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชาอันหลากหลายทั่วโลก วิธีการแปรรูป, การบ่มชา และการ Infuse ด้วยเครื่องเทศและผลไม้ หรือ Midnight Whisper - กลิ่นกุหลาบอันเย้ายวนผสมผสานกับความหอมละมุนจากควันยาสูบ

1 / 3

มีสถานที่ไหนที่อยากเดินทางไปแล้วสร้างกลิ่นหอมใหม่ๆ ออกมาอีก

เอก: อยากลองสร้างกลิ่นที่มีแรงบันดาลใจจากสถานที่ที่สามารถเดินทางไปด้วยจินตนาการเท่านั้นดูบ้าง อย่างกลิ่นของดาวพฤหัส กลิ่นของสวนลอยบาบิโลเนียน กลิ่นของโรงงานขนมของวิลลี่วองก้า อะไรอย่างนั้น

สกุล: ป่าอเมซอนของอาเซียน หรือป่าฮาลา–บาลา (จังหวัดยะลา–นราธิวาส) เป็นผืนป่าที่ฝนตกชุกตลอดปีจนเต็มไปด้วยความชุ่มชื้น กลิ่นดินหมัก มอส เฟิร์น และไม้ใหญ่ก่อให้เกิดบรรยากาศเฉพาะตัว ดอกไม้ป่าและพืชท้องถิ่นค่อย ๆ เติมชั้นกลิ่นที่ซับซ้อน จนกลายเป็นแรงบันดาลใจที่อยากถ่ายทอดออกมาเป็นน้ำหอมจากป่าดิบชื้นไทย

สสิตา: Wadi Rum จอร์แดนค่ะ สัมผัสกลิ่นทะเลทราย แสงแดด และสายลม เป็นความเวิ้งว้างที่เราสามารถยืนท่ามกลางสายลมและแสงแดดใต้ผืนฟ้ากว้างใหญ่ค่ะ

ในอนาคตต่อไปเห็นแบรนด์ Perfumers’ Journey ไปอยู่ที่จุดไหน

อนาคตอยากเห็นน้ำหอมของแบรนด์ไปอยู่ในคอลเล็กชั่นสะสมของผู้ที่ชื่นชอบน้ำหอมที่มีเอกลักษณ์ทั่วโลก ซึ่งเราพยายามที่จะมี distributor ในหลากหลายประเทศ เพื่อที่จะสามารถทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักนอกเหนือไปจากการทำการตลาดในไทย

ได้เรียนรู้อะไรบ้าง ตั้งแต่เริ่มต้นทำแบรนด์ขึ้นมาจนถึงตอนนี้

เราได้เรียนรู้ว่าน้ำหอมไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่มันคือความอดทน ความพิถีพิถัน และการเดินทางของหัวใจ มันคือการสร้างสมดุลระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับวินัย และที่สำคัญคือการซื่อสัตย์ต่อวิสัยทัศน์ของตัวเอง

ภาพ : Courtesy of Brands
สัมภาษณ์และเรียบเรียง : สรัลชนา มีมาก