พักหลังมานี้กระแสของ Thai Beauty หรือ Thai Brand กำลังได้รับเสียงตอบรับที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และควบคู่ไปกับคนไทยที่หันกลับมาสนับสนุนเลือกใช้สินค้าจากแบรนด์ไทยมากขึ้นกว่าก่อน ทำให้วงการบิวตี้ของไทยคึกคักมากขึ้นด้วย
สำหรับสินค้าบิวตี้แบรนด์ไทยขึ้นชื่อเรื่องของเครื่องหอมมาเนิ่นนานแล้ว ทำให้สินค้าที่ได้รับความสนใจและเป็นไวรัลอยู่ในโซเชียลตอนนี้ก็คือ น้ำหอมแบรนด์ไทย เมื่อสำรวจแล้วพบว่าจริง ๆ ประเทศไทยมีแบรนด์น้ำหอมจากคนไทยอยู่มากมายและน้ำหอมของแต่ละแบรนด์ต่างบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไทยที่แตกต่างกันออกไป มีเอกลักษณ์ทั้งกลิ่นหอมและดีไซน์ วันนี้โว้กบิวตี้จึงรวบรวม 6 น้ำหอมแบรนด์ไทยจากที่ได้สัมผัสเองและจากคำบอกเล่าของกูรูด้านน้ำหอมในประเทศไทยว่านี่แหล่ะ คือน้ำหอมแบรนด์ไทยที่ดีจริงจนอยากให้ลอง
5 น้ำหอมแบรนด์ไทย ดีจริงไม่ใช่แค่กระแส
1 / 6
1.Copenn Eau De Parfum (3,200 บาท) จาก Copenn.
น้ำหอมแบรนด์ไทยที่ถ่ายทอดเสน่ห์ของคนรุ่นใหม่ ผ่านขวดแก้วดีไซน์เรียบเก๋ และกลิ่นหอมที่ผสานความลึกลับกับความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว เป็นแบรนด์จากคนไทยที่เหล่าผู้บริหารของแบรนด์มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการดีไซน์ การบอกเล่าเรื่องราวผ่านกลิ่น รูปแบบขวด รวมถึงร้านน้ำหอม copenn. มีสไตล์การตกแต่งร้านที่ไม่ว่าใครได้เดินเข้าไปจะต้องได้สัมผัสกับดีไซน์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครแน่นอน
2 / 6
2.Cashmere Unnamed Private Collection (9,900 บาท) จาก Borom
น้ำหอมสุดพรีเมียมที่ก่อตั้งโดยกูรูน้ำหอมชาวไทยชื่อดัง ไปป์-บรม วิชญะเดชา (@boromv) โดยคอลเล็กชัน Cashmere Unnamed โดดเด่นทั้งในด้านการเลือกวัตถุดิบชั้นเลิศและการปรุงกลิ่นที่ซับซ้อน กลิ่นนี้จึงให้ความรู้สึกหรูหรา อบอุ่น และทรงพลัง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการน้ำหอมที่สะท้อนภาพลักษณ์ระดับไฮเอนด์และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นอีกหนึ่งคอลเล็กชั่นน้ำหอมที่เหล่าอินฟลูต่างออกมารีวิวว่าดีจริง
3 / 6
3.Hinode (2,890 บาท) จาก THE O.B.A
น้ำหอมที่ผสมผสานแนวคิด “Organic Botanical Aroma” ของแบรนด์ไทยซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างน้ำหอมที่สะท้อนความเป็นธรรมชาติในแบบร่วมสมัยอย่างกลิ่นที่โด่งดัง Hinode โดดเด่นด้วยกลิ่นอโรม่าแนวสดชื่นและสะอาด แต่แฝงความโมเดิร์นที่ทำให้ใช้ง่ายในทุกโอกาส จุดเด่นของ THE O.B.A คือการเลือกใช้วัตถุดิบออร์แกนิกที่เป็นมิตรต่อผิวและสิ่งแวดล้อม พร้อมปรับโทนกลิ่นให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความบาลานซ์ระหว่างธรรมชาติและความทันสมัย
4 / 6
4.Oriental Collection Musk (9,566 บาท) จาก Ameenah
น้ำหอมสาย Niche ที่ใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอน โดยกลิ่น Oriental Collection Musk ใช้ไม้ Oud จากไทยเองเป็นส่วนประกอบสำคัญ ถ่ายทอดความลุ่มลึกแบบตะวันออกกลางแต่ยังคงความนุ่มนวลไม่ฉุนจนเกินไป ทำให้ได้กลิ่นที่หรูหรา แปลกใหม่ และมีมิติ ที่สำคัญอีกหนึ่งจุดเด่นคือดีไซน์ลวดลายของขวดที่มีแรงบันดาลใจมาจากลายกนกของไทยอีกด้วย
5 / 6
5.Baan Suan Intense (3,100 บาท) จาก Perfumers' Journey
แบรนด์ไทยที่เล่าเรื่องผ่านกลิ่นหอมได้อย่างชัดเจน Baan Suan Intense ถ่ายทอดบรรยากาศอบอุ่นและธรรมชาติแบบไทย ๆ ด้วยการเลือกวัตถุดิบที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ กลิ่นนี้ให้ความรู้สึกเหมือนการได้กลับบ้านที่มีสวนกว้าง อบอุ่นแต่แฝงความเข้มข้น จึงเหมาะกับคนที่ชื่นชอบกลิ่นน้ำหอมแบบสบาย ๆ สดชื่นแบบฟลอรัล ที่สำคัญคีย์หลักของแบรนด์นี้อยู่ที่การใช้นักปรุงน้ำหอมจากไทยและการเล่าเรื่องราวการเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ ผ่านกลิ่นหอมแต่ละกลิ่น
6 / 6
6.Reunrom Perfume Wiang Phing (1,990 บาท) จาก Reunrom
แบรนด์ที่โด่งดังมากจาก Diffuser ก้านปล่อยกลิ่นหอมที่มักได้กลิ่นอยู่ตามห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมบางแห่ง ขึ้นชื่อเรื่องการดึงแรงบันดาลใจจากสถานที่และวัฒนธรรมไทยมาถ่ายทอดผ่านกลิ่นพร้อมกับตั้งชื่อตามสถานที่นั้น ๆ มีการนำเอาส่วนผสมท้องถิ่นมาเบลนด์อย่างมีเอกลักษณ์ จนได้ความหอมสดชื่น แปลกใหม่ และไม่ซ้ำใคร





