การเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเองของคุณผู้ชาย นอกเหนือไปจากการแต่งกายที่ดีและบุคลิกที่สะอาดสะอ้าน การเพิ่มกลิ่นกายให้หอมก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ได้เป็นอย่างดี แต่ปัญหาที่ผู้ชายส่วนใหญ่มักเจอคือกลิ่นน้ำหอมไม่ติดทน กลิ่นจางหายไปในระหว่างวัน หรือบางครั้งก็ไม่สามารถสยบกลิ่นกายที่แท้จริงของผู้ชายได้ ซึ่งเราเข้าใจว่ามีผู้ชายไม่น้อยเลยที่นิยมใช้ไอเท็มที่หาได้ง่ายๆ อย่างโคโลญจน์ฉีดพรมทั่วร่างกาย โดยอาจยังไม่รู้ว่ากลิ่นของมันนั้นจางได้เร็วกว่าน้ำหอมที่เป็นพาร์ฟูม เพราะฉะนั้นหากคุณเป็นผู้ชายที่กำลังมองหาน้ำหอมสักขวดมาใช้เพิ่มเสน่ห์ โว้กบิวตี้ก็ได้รวบรวมน้ำหอมผู้ชายยอดนิยมที่ขึ้นชื่อว่ากลิ่นติดทนยาวนานมาฝากกัน
1 / 7
Bleu de Chanel (ปริมาณ 50 ml ราคา 4,000 บาท)
เบลอ เดอ ชาเนล (Bleu de Chanel) น้ำหอมผู้ชายที่หลายคนคุ้นเคยกันดี มอบกลิ่นสัมผัสแนวอะโรมาติกวู้ดดี้แสนลุ่มลึก แรกฉีดจะให้ความรู้สึกสดชื่น ชวนให้คุณนึกถึงการท่องเที่ยวป่ายามบ่าย แต่ก็ยังมีโทนซิตรัสที่สดใสเจือปนอยู่ด้วย ความเข้มข้นอยู่ในระดับพาร์ฟูม จึงมั่นใจได้เลยว่ากลิ่นจะติดทนยาวนานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
2 / 7
Tom Ford Private Blend Oud Wood Perfume (ปริมาณ 50 ml ราคา 10,000 บาท)
น้ำหอมกลิ่นนี้จาก Tom Ford ประกอบด้วยส่วนผสมมากมายรวมกัน เพื่อสร้างกลิ่นแนวอะโรมาติกอันทรงพลัง ทั้งนี้ความแรงของกลิ่นอาจไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน แต่ถ้าหากพบว่าตัวเองชื่นชอบกลิ่นสตรองและติดทน น้ำหอมกลิ่นนี้ก็ตอบโจทย์ทีเดียว เนื่องจากมีไม้กฤษณา ไม้จันทน์หอม และกระวาน อันเป็นส่วนผสมที่ขึ้นชื่อว่ามอบกลิ่นติดทนนาน
3 / 7
Acqua di Gio Giorgio Armani Parfum (ปริมาณ 75 ml ราคา 4,900 บาท)
ไม่ใช่ทุกคนที่คิดว่าน้ำหอมของ Armani ติดทนนาน แต่น้ำหอมกลิ่นนี้ก็ได้ลบคำสบประมาทออกไปได้หมด ซึ่งนอกจากคุณสมบัติเรื่องติดทนแล้ว ยังมอบกลิ่นหอมสดชื่นของท้องทะเล ผสานกลิ่นของผลไม้และดอกไม้ที่ละเอียดอ่อน มีส่วนผสมของมะกรูด กำยาน และพิมเสน รวมกันเป็นกลิ่นหอมอันมีมิติจนบางครั้งแม้แต่ผู้หญิงเองก็ยังใช้น้ำหอมกลิ่นนี้
4 / 7
Bvlgari Man in Black (ปริมาณ 60 ml ราคา 3,750 บาท)
น้ำหอมผู้ชาย Man in Black จาก Bvlgari มอบกลิ่นหอมกรุ่นอันมีเสน่ห์ดึงดูด ผสมผสานกลิ่นหลากหลายอารมณ์ ทั้งอบอุ่น เซ็กซี่ และลึกลับ น่าค้นหา สัมผัสแรกที่ฉีดจะได้กลิ่นเครื่องเทศผสมเหล้ารัมชัดเจน และได้กลิ่นหนังในช่วงกลาง พร้อมหอมละมุนจากดอกซ่อนกลิ่นติดทนยาวนานไปหลายชั่วโมง จากนั้นจะมอบกลิ่นไม้หอมๆ ในช่วงท้าย
5 / 7
La Nuit de l’Homme Yves Saint Laurent (ปริมาณ 100 ml ราคา 4,900 บาท)
กลิ่นนี้จาก Yves Saint Laurent ถูกยกให้เป็นน้ำหอมผู้ชายกลิ่นสุดเย้ายวน ผสมผสานกลิ่นไม้เข้ากับกลิ่นหวานของกระวานและมะกรูดอย่างลงตัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับฉีดไปออกเดตหรือเที่ยวกลางคืน แต่ด้วยคุณสมบัติที่ติดทนนานจึงสามารถใช้ฉีดในตอนเช้าได้เช่นกัน และมั่นใจได้เลยว่ากลิ่นจะติดทนไปจนถึงเย็นเลยทีเดียว
6 / 7
Creed Aventus (ปริมาณ 100 ml ราคา 12,000 บาท)
แบรนด์ Aventus มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ด้วยการผลิตน้ำหอมผู้ชายมากว่า 250 ปี โดดเด่นเรื่องการสร้างกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ หนึ่งในนั้นคือ Creed ที่ขายดีตลอดกาล โดยกลิ่นนี้มีความหอมซับซ้อน มอบความรู้สึกเย้ายวนและร่วมสมัย โดยมีกลิ่นของดอกไม้ แอปเปิ้ล ลูกเกดดำ และมะกรูดที่ผสมผสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญยังเลื่องชื่อว่าติดทนนานอีกด้วย
7 / 7
Narciso Rodriguez Bleu Noir (ปริมาณ 50 ml ราคา 3,100 บาท)
กลิ่นหอมสดชื่นเข้มข้น ในขณะเดียวกันก็เผยความหรูหรากับน้ำหอมรุ่น Bleu Noir Parfum จาก Narciso Rodriguez ซึ่งถูกนิยามให้เป็นน้ำหอมผู้ชายที่น่าหลงใหล เซ็กซี่ และความเย้ายวน โดดเด่นด้วยกลิ่นมัสกี้อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมผสานกลิ่นหนังกลับ กลิ่นแป้งอ่อนๆ จากดอกไอริส ตามด้วยกลิ่นหอมหวานของกลิ่นถั่วตองก้า กลิ่นวานิลลา และคาราเมลเข้มข้น
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าน้ำหอมจะมีกลิ่นติดทนดีแค่ไหนก็ยังมีทริคสำคัญในการฉีด รวมถึงการเตรียมผิวที่จะช่วยให้น้ำหอมติดทนนานยิ่งขึ้น ซึ่งเราเคยรวมเคล็ดลับเอาไว้ให้แล้ว สามารถตามไปอ่านกันต่อได้ที่ ฉีดน้ำหอมอย่างไรให้กลิ่นหอมติดทนนานตลอดวัน





