MAKE UP

5 เหตุผลที่ต้องลงอายไพรเมอร์ก่อนเมกอัพ พร้อมแนะนำอายไพรเมอร์ที่ควรมีติดกระเป๋า

นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงจำเป็นต้องลงอายไพรเมอร์ (Eye Primer) ก่อนลงเมกอัพ พร้อมอายไพรเมอร์ที่ Vogue Beauty แนะนำ

     ในการแต่งหน้าแต่ละครั้งมักจะมีไอเท็มที่สาวๆ ตัดออกจากขั้นตอนหรือมองข้ามไป ด้วยเหตุผลของการประหยัดเวลาหรืออะไรก็ตามแต่ และหนึ่งในไอเท็มยอดฮิตที่มักถูกตัดออกเป็นลำดับแรกๆ ก็คือ “อายไพรเมอร์ (Eye Primer)” (ทั้งอายไพรเมอร์สำหรับเปลือกตาและใต้ตา) เพราะคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าอายไพรเมอร์นั้นไม่สำคัญเท่าไหร่นัก หรือคิดว่าใช้เพียงคอนซีลเลอร์ปกป้องรอยคล้ำรอบดวงตาก็เพียงพอแล้ว โดยเฉพาะ Everyday Look ที่มักถูกมองว่าเป็นการแต่งหน้าเบาๆ ง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ไอเท็มแบบจัดเต็ม แต่นั่นคือความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงจำเป็นต้องลงอายไพรเมอร์ก่อนลงเมกอัพ

1. ทำให้อายแชโดว์ติดแน่นทนนาน

     นี่คือเหตุผลแรกที่รู้กันอย่างกว้างขวาง และนี่ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด อายไพรเมอร์จะเข้าไปเตรียมผิวรอบดวงตาให้ชุ่มชื้น และเมื่อผิวชุ่มชื้นก็เท่ากับพร้อมรับการแต่งหน้าอย่างเต็มที่ ทำให้อายแชโดว์ที่ลงบนเปลือกตานั้นอยู่ได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะกับสาวๆ ที่ประสบปัญหาเปลือกตามัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อายแชโดว์ลบเลือน อายไพรเมอร์จะเข้าไปรับมือกับความมันส่วนเกินของเปลือกตา ทำให้อายแชโดว์ไม่เลอะและไม่ลบเลือนไปในระหว่างวัน

2. อายไลน์เนอร์ติดแน่นและชัดเจน

     นอกจากอายแชโดว์แล้ว อายไลน์เนอร์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับอิทธิพลจากความมันบนเปลือกตา ทำให้เลือนหายไประหว่างวันหรือเลอะจนเส้นไม่คมชัด แต่อายไพรเมอร์จะทำหน้าที่ “ล็อค” อายไลน์เนอร์ไว้ไม่ให้ลบเลือน ทำให้อายไลน์เนอร์ที่เราเขียนในตอนเช้ายังคมชัด สวยงามไปจนถึงเย็น

3. แต่งแต้มอายแชโดว์ได้อย่างเรียบเนียน ไม่ตกร่อง

     ปัญหาเครื่องสำอางตกร่องหรือเป็นรอยแตกไม่ได้เกิดกับลิปสติกและแป้งเพียงเท่านั้น อายแชโดว์เองก็มีโอกาสเกิดปัญหานี้ได้เช่นกัน ซึ่งคงน่ารำคาญใจไม่น้อยหากในระหว่างวันอายแชโดว์ที่เราลงไว้เกิดคราบตรงรอยพับเปลือกตาจนแตกเป็นร่อง ไม่สวยงาม แต่สาวๆ สามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้ด้วยอายไพรเมอร์ และนอกจากจะช่วยไม่ให้อายแชโดว์แตกและตกร่องแล้ว อายไพรเมอร์ยังช่วยให้เราเกลี่ยอายแชโดว์ได้อย่างเรียบเนียน ลื่นไหล และง่ายดายขึ้นอีกด้วย

4. ให้ดวงตามีสีสันที่ถูกต้องและสวยงาม

     แม้จะเลือกอายแชโดว์ที่มีเม็ดสีแน่นและชัดเจนแค่ไหน แต่ก็มีโอกาสที่สีจะผิดเพี้ยนไปบ้างเมื่อทาลงบนเปลือกตาของเรา เช่นเดียวกันกับรองพื้นและคอนซีลเลอร์ที่แม้จะเลือกสีได้ตรงกับสีผิวมากแค่ไหน แต่เมื่อลงในบริเวณใต้ตาแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้เฉดสีที่ถูกต้องและการปกปิดที่เพอร์เฟกต์หากขาดอายไพรเมอร์ ขั้นตอนที่ควรทำในการลงเมกอัพบริเวณนี้คือลงอายไพรเมอร์ก่อน ตามด้วยรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ แป้งฝุ่น และอายแชโดว์ตามลำดับ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ได้สีสันของเมกอัพที่ถูกต้องและสวยงาม ปราศจากรอยคล้ำใต้ตา

5. รอบดวงตาสดใสเพื่อรูปถ่ายที่เพอร์เฟกต์

     อย่างที่กล่าวไปว่าการลงอายไพรเมอร์ก่อนรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์จะช่วยให้การปกปิดรอยคล้ำใต้ตาได้ดีขึ้น ทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น และถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งตาด้วยอายแชโดว์หรืออายไลน์เนอร์ก็ยังจำเป็นต้องลงอายไพรเมอร์อยู่ดี (แค่คอนซีลเลอร์หรือรองพื้นเท่านั้นอาจไม่เพียงพอ) เพราะสีผิวบริเวณรอบดวงตานั้นมักจะแตกต่างจากสีผิวบริเวณอื่นของใบหน้า แม้จะมองไม่เห็นความแตกต่างนี้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อถ่ายรูปและเจอแสงแฟลช รอยคล้ำรอบดวงตาจะปรากฏขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจนแน่นอน ทำให้ได้รูปที่มีขอบตาคล้ำๆ ลอยๆ ไม่สวยงาม

     เมื่อได้รู้เหตุผลเหล่านี้แล้ว ในการแต่งหน้าครั้งต่อไปสาวๆ คงไม่ตัดอายไพรเมอร์ออกไปจากขั้นตอนแน่นอน และสำหรับสาวๆ คนไหนที่ยังไม่มีอายไพรเมอร์ไว้ในกระเป๋าเครื่องสำอาง Vogue Beauty ก็รวบรวมลิสต์อายไพรเมอร์สุดคุ้มที่ควรมีมาฝากด้วย

Nars Smudge Proof Eyeshadow Base (7 ml)

อายไพรเมอร์สำหรับเปลือกตาที่สาวๆ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าช่วยให้อายแชโดว์ติดแน่น ทนนาน ไม่ต้องกังวลเรื่องการเกาหรือขยี้ตา แม้เปลือกตามันก็เอาอยู่ มาในรูปแบบของเนื้อครีมบางเบา ไร้สี ไม่ทำให้เปลือกตารู้สึกหนัก พร้อมคุณค่าสารสกัดจากใต้ท้องทะเลและสารสกัดจากข้าว ช่วยปรับผิวเปลือกตาให้ดูเรียบเนียน

ราคา 1,200 บาท

Bobbi Brown Vitamin Enriched Eye Base (15 ml)

อายไพรเมอร์สูตรมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวใต้ตา ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่เบสเมกอัพแล้วยังช่วยบำรุงผิวใต้ตาให้ชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก เป็นการเตรียมผิวพร้อมรับการแต่งหน้า ทำให้รองพื้นเกลี่ยง่าย ใต้ตาดูกระจ่างใสขึ้น เพื่อให้ผลลัพธ์ของการเมกอัพที่เรียบเนียน ไร้ที่ติ และติดทนนานตลอดทั้งวัน

ราคา 2,350 บาท



WATCH



Hourglass Veil™ Eye Primer (9.6 ml)

เครื่องสำอางในไลน์ Veil™ ถือเป็นมาสเตอร์พีซของ Hourglass ที่เหล่าเมกอัพอาร์ทิสต์ระดับโลกต่างเลือกใช้ และอายไพรเมอร์ตัวนี้ก็ยิ่งตอกย้ำความสำเร็จนี้ เพราะช่วยให้อายแชโดว์ติดได้ยาวนานขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้สีสันคมชัด ไม่เกิดการแตกตามรอยพับของเปลือกตา เนื้อครีมนุ่มละมุน เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสที่บางเบา มาพร้อมวิตามินอีเพื่อการบำรุง

ราคา 1,170 บาท

Smashbox Photo Finish Hydrating Under Eye Primer (10 ml)

อีกหนึ่งอายไพรเมอร์ที่เหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์แนะนำ เพราะสามารถปกปิดรอยคล้ำใต้ตาได้อย่างมิดชิด หมดปัญหาตาหมีแพนด้ามากวนใจ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ลงบริเวณเปลือกตาได้ด้วย เพื่อให้อายแชโดว์ติดทนนานตลอดวัน ไม่ร่วงหล่นมาเลอะใต้ตา เรียกว่าลงทุนครั้งเดียวได้ผลลัพธ์ถึงสอง

ราคา 1,110 บาท

Benefit Stay Don't Stray Eyeshadow Primer (10 ml)

แบรนด์ที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ เนื้อลิควิดบางเบา เกลี่ยง่าย ใช้เพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้อายแชโดว์ติดทนตลอดทั้งวัน พร้อมให้สีชัดสวยงาม ไม่เป็นคราบและไม่เป็นร่อง นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับบริเวณใต้ตาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของคอนซีลเลอร์ เพื่อปกปิดรอยคล้ำใต้ตาได้อีกด้วย

ราคา 1,160 บาท

Wet n Wild Photofocus™ Eyeshadow Primer

ของถูกและดีมีอยู่จริง เพราะแม้จะมาในราคาเพียงหลักร้อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นถือว่าเกินราคามาก เพราะทำให้อายแชโดว์มีสีสันชัดเจนและติดแน่นตลอดทั้งวัน ไม่ลบเลือน ไม่เป็นคราบ แม้ถูกเช็ดด้วยทิชชู่เปียกก็ยังไหว นอกจากนี้เนื้อครีมยังนุ่มละเอียด เกลี่ยง่าย และแห้งเร็ว ทำให้ประหยัดเวลาในการแต่งหน้าไปได้มากทีเดียว

ราคา 299 บาท

Catrice Liquid Camouflage Under Eye Primer (5 ml)

อายไพรเมอร์ราคาย่อมเยาที่สาวๆ ต้องหลงรัก เพราะมาในราคาสบายกระเป๋าแต่ประสิทธิภาพไม่น้อยหน้า สามารถปกปิดรอยคล้ำใต้ตาได้เป็นอย่างดี ให้ดวงตาของสาวๆ ดูสดใสราวกับนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอมาตลอดทั้งคืน

ราคา 175 บาท

ภาพ : Courtesy of the brands

WATCH