LIFESTYLE

โว้กพาบินลัดฟ้าไปดู ‘Gucci Circolo’ พื้นที่แฮงก์เอาต์สุดชิคแห่งใหม่ในลอนดอน

พื้นที่สุดชิครูปแบบใหม่จากแบรนด์ดังพร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่ยากจะหาจากที่ไหน

     ในช่วงที่ผ่านมา ‘Gucci’ แบรนด์ลักชัวรีสัญชาติอิตาเลียนได้เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีด้วยการเรียกเสียงฮือฮามากมายจนถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นการจับมือกันกับแบรนด์ Balenciaga สร้างสรรค์ผลงานที่เกิดจากการผสมผสานตัวตนของทั้งสองแบรนด์ จนเกิดเป็นไอเท็มปังๆ หรือแคมเปญแห่งประวัติศาสตร์ในนิทรรศการ Gucci Garden Archetypes และอื่นๆ อีกมากมาย ล่าสุด กุชชี่ได้มีการเปิดประตูต้อนรับพื้นที่แฮงก์เอาต์สุดชิคแห่งใหม่ ‘Gucci Circolo’ อย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างความจดจำอีกหนึ่งสิ่งในวาระครบรอบ 100 ปี โดยเลือกใช้ตึกสี่เหลี่ยมจตุรัสที่เคยเป็นบ้านและสตูดิโอสำหรับศิลปิน มาพ่นสีเป็นลายโมโนแกรมของกุชชี่ ผสมผสานกับลายกราฟิกสีแซฟไฟร์ที่ด้านนอกของตึก ทั้งหมดนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวกาน่า-อังกฤษ อย่าง Sir David Adjaye ตึกนี้ถูกสร้างสรรค์ให้ออกมาเป็นพืันที่เพื่อให้คนเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายใจกลางเขต Shoreditch ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเมืองลอนดอน เรียกได้ว่าเป็นเขตที่รวมความชิคไว้ในที่เดียว ทั้งศิลปะหลายแขนง ร้านค้า ศิลปิน รวมถึงเป็นเหมือนแหล่งพบปะของชาวครีเอทีฟทั้งหลาย

Gucci Circolo สถานที่แฮงก์เอาต์สุดชิคแห่งใหม่ใจกลาง Shoreditch 

     Gucci Circolo เป็นพื้นที่ Pop-up หรือพื้นที่ชั่วคราวบนตึก 2 ชั้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 โซนใหญ่ๆ ภายในชั้นแรกของตึก ถูกตกแต่งด้วยผ้าม่านกำมะหยี่สีเขียวแก่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของกุชชี่ที่ทุกบานของหน้าต่าง และเต็มไปด้วยสิ่งของที่ถูกห่อหุ้มด้วยโลโก้ ‘GG’ ของแบรนด์กุชชี่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ปลอกหมอน วอลเปเปอร์ผนัง ไปจนถึงกล่องใส่ดินสอ ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่สำหรับพูดคุย หรือพักผ่อนหย่อนใจหลังจากเข้ามาในบ้านหลังนี้

 

พื้นที่ในชั้น 1 ที่วางขายสินค้าคอลเล็กชั่น 100 ของแบรนด์กุชชี่ 

     Alessandro Michele บรรณาธิการฝ่ายสร้างสรรค์ของกุชชี่ เริ่มต้นด้วยการจัดโชว์และวางขายสินค้าของแบรนด์กุชชี่ใน ‘คอลเล็กชั่น 100’ ที่ชั้นแรกของตึก ซึ่งในบริเวณนั้นมีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องประดับ โดยคอนเซปต์หลักของเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นนี้เริ่มจากการสำรวจเพลงที่มีการปรากฏชื่อแบรนด์กุชชี่ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา โดยพบว่ามีเพลงที่กล่าวถึงแบรนด์กุชชี่มากถึง 22,705 เพลง สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของแบรนด์อิตาลีในวัฒนธรรมป๊อปและดนตรีแต่ละช่วงยุคสมัย และเนื้อเพลงเหล่านั้นถูกนำมาใช้ตกแต่งเสื้อผ้าและเครื่องประดับในคอลเล็กชั่น 100 นี้ อย่างท่อน “And the men notice you with your Gucci bag crew” จากเพลง Fuck Me Pumps ของนักร้องสาว Amy Winehouse นอกจากนี้ ยังมีการรวบรวมคอลเล็กชั่นหายากของกุชชี่หลายๆ ชิ้นมาไว้ที่นี่ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ของแฟชั่นเฮ้าส์แบรนด์นี้



WATCH




Bookstore ที่รวบรวมหนังสือหายากไว้มากมาย เปรียบเสมือนกรุเก็บงานศิลป์ในรูปแบบของหนังสือ

     ถัดมาที่ห้อง Bookstore หรือร้านขายหนังสือ ภายในตกแต่งด้วยไม้สีดำ ประดับไปด้วยวอลเปเปอร์หนึ่งในลายที่เป็นเอกลักษณ์ของกุชชี่ ในห้องนี้มีการคอแลบอเรชั่นกันกับ IDEA สำนักพิมพ์ที่เป็นที่รู้จักในการรวบรวมหนังสือหายาก เพื่อที่จะคัดสรรหนังสือแฟชั่น ศิลปะ หรือหนังสือภาพถ่ายต่างๆ ที่เป็นเหมือนสมบัติเก่าแก่ล้ำค่ามาไว้ที่โซนร้านหนังสือนี้ อีกทั้งยังมีหนังสือ Limited-Edition อย่าง Beaten & Blown By The Wind หนังสือรูปภาพที่คอแลบอเรชั่นกันระหว่างช่างภาพชาวอเมริกันอย่าง Bruce Gilden และ Alessandro Michele บรรณาธิการฝ่ายสร้างสรรค์ของกุชชี่วางอยู่ด้วย เรียกได้ว่า ห้องนี้เปรียบเสมือนกรุเก็บงานศิลป์ในรูปแบบของหนังสือที่มีค่าไว้มากมาย

Listening Lounge ห้องที่เป็นพื้นที่เฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันยาวนานของกุชชี่และเสียงเพลง

     เดินทางมาสู่ห้อง Listening Lounge หรือห้องฟังเพลง ภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสีดำแดงที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว ชั้นวางของภายในห้องเต็มไปด้วยแผ่นเสียงไวนิลจากศิลปินหลายยุคหลายสมัย ซึ่งห้องนี้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นพื้นที่ที่เฉลิมฉลองความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่างกุชชี่และเสียงเพลง โดยให้ศิลปินชื่อดังอย่าง Billie Eilish, Sir Elton John, Phoebe Bridgers และศิลปินอื่นๆ มาช่วยกันเลือกเพลงที่ชอบ เพื่อแชร์ให้ผู้คนที่เข้ามาที่พื้นที่ส่วนนี้ได้ฟัง อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมสามารถดาวน์โหลดเพลย์ลิสต์พิเศษอย่าง ‘Gucci 100’ เพลย์ลิสต์ที่เต็มไปด้วยเพลงที่ชอบจากศิลปินที่หลากหลาย ผ่านช่องทาง Spotify หรือ Apple Music เพื่อเป็นเกียรติแก่การเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของกุชชี่ได้ด้วย บอกเลยว่าเพลย์ลิสต์นี้สามารถฟังแบบเพลินๆ ได้นานถึง 1 ชั่วโมง 17 นาที

 

     ก่อนที่จะกลับ แวะหาเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วที่ชั้น 2 ของตึก ภายในชั้นบนนี้มีร้านกาแฟ Gucci Café ตั้งอยู่ ที่คาเฟ่นี้เสิร์ฟกาแฟแทบจะทุกแบบ ตั้งแต่ลาเต้ไปจนถึงอเมริกาโน่ โดยทางกุชชี่ตั้งใจให้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงาน เป็นห้องคุยงาน และเป็นเหมือนแหล่งรวมของชาวครีเอทีฟในลอนดอน ทำให้เราปฏิสเธไม่ได้ว่า การเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของกุชชี่ ไม่ได้มีแค่การผลิตสินค้าออกมาขายเท่านั้น แต่เป็นการเสิร์ฟประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับเหล่าสาวกกุชชี่เช่นกัน

 

ข้อมูล : Gucci, Hypebeast

ภาพ: Gucci

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Gucci