ในวันที่เวลาหมุนเปลี่ยนไปนานเป็นสิบหรือเป็นร้อยปี ความสนใจของคนก็หมุนเวียนเปลี่ยนตามไปเช่นกัน วันนี้สถานที่เก่าๆ ทั้งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และบ้านเรือนยุคสมัยก่อนถูกแปรเปลี่ยนให้สนุกขึ้นจนน่าจะถูกใจหนุ่มสาวยุคใหม่ และแน่นอนว่าคำว่า #หลงไทย ที่จะพาทุกคนหลงใหลไปกับมนต์เสน่ห์แบบนี้ เราไปดูกันดีกว่าว่ากลิ่นอายเรื่องราวสมัยก่อนถูกปรับเปลี่ยนโฉมให้ดูน่าตื่นตากับยุค 2019 จะมีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง

1 / 3

2 / 3

3 / 3

     เราขอเริ่มที่หมวดโรงแรมก่อน โดยหมวดนี้เราสามารถเห็นกลิ่นอายย้อนยุคแบบสมัยก่อนได้ไม่ยาก แต่ทว่าเรื่องราวแท้จริงในผืนดินนั้นอาจจะหาได้ยากแล้วในปัจจุบัน บ้านในสมัยรัชกาลที่ 6 ย่านถนกรุงเกษม ความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ยิ่งทำให้บ้าน(โรงแรม) หลังนี้น่าสนใจอย่างมาก ความสวยงามที่ทุกคนจะได้สัมผัสคือความย้อนยุคแบบไทยในสมัยก่อนผสมผสานศิลปะวัฒนธรรม ถ่ายรูปสวยแถมยังได้ซึบซับกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์ด้วยวิธีอันเรียบง่ายที่ “ระวีกัลยา”

1 / 3

2 / 3

3 / 3

     ถ้าบ้านธรรมดาเปลี่ยนสภาพกลายเป็นโรงแรม พระราชวังจะแปรเปลี่ยนเป็นอะไร คำตอบคือพิพิธภัณฑ์ขนาดยักษ์ที่รอให้ทุกคนเข้าชม ชื่อ “พระราชวังสนามจันทร์” เราอาจจะได้ยินกันมาตั้งแต่เด็ก แต่มั่นใจเลยว่าแทบไม่มีใครเคยสัมผัสทั่วทุกบริเวณแน่นอน บางจุดแปรสภาพจากความหรูหรางดงามเป็นส่วนของคลังความรู้ ไม่ใช่แค่ของเก่าเท่านั้นแต่เรากำลังหมายถึงประสบการณ์ใหม่ๆ เมื่อไปสัมผัส เป็นสถานที่ที่ไม่ว่าจะไปเที่ยวสักกี่ครั้งก็จะได้รับความรู้สึกไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังแปรสภาพเป็นสวนสาธารณะให้คนได้เข้าไปวิ่งรับบรรยากาศอีกด้วย ถึงแม้ส่วนพระราชวังจะมีการปิดปรับปรุงไปช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้ได้กลับมาให้เข้าชมตามปกติแล้ว

1 / 3

2 / 3

3 / 3

     Sala Ayutthaya หรือภาษาไทยว่าศาลาอยุธยานั่นเอง ขับรถจากกรุงเทพฯ ไม่นานก็เข้าถึงบรรยากาศเมืองเก่าเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์แบบอยุธยา แต่ถ้าสาวๆ ไม่อยากจะบุกเดินตะลุยไปเจอแดดร้อนๆ เพื่อทัวร์หลายๆ วัดล่ะก็...ศาลานี้คือคำตอบ มันคือการเที่ยวกึ่งพักผ่อนในรูปแบบใหม่ในอดีตเมืองหลวง บรรยากาศวัดพุทไธศวรรย์ฝั่งตรงข้าม พร้อมกับที่นั่งสบายๆ สไตล์โคซี่ จิบน้ำจิบชาสักหน่อยชมบรรยากาศฉากสำคัญในละครเรื่องบุพเพสันนิวาสก็ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

     M.T.Rollin Club ร้านของคนเท่ที่เป็นบ้านเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 อาคารบ้านสีเหลืองหัวมุมถนนอัษฎางค์ เคยเปิดเป็นร้านอาหารช่วงก่อนนี้ แต่ตอนนี้บ้านเก่าหลังนี้ถูกเนรมิตออกมาเป็นสตูดิโอถ่ายภาพพร้อมกับเป็นห้องเสื้อชุดแต่งงาน ภายนอกอาจจะดูเป็นอาคารจากหลักร้อยปีก่อนธรรมดาก็จริง แต่ภายในมันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความมีสไตล์ และตอนนี้ยังเพิ่มเติมฟังก์ชั่นการเป็นคาเฟ่กลับมาอีกครั้ง ฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าเดินเที่ยวแถวเกาะรัตนโกสินทร์แล้วจะคุมโทนของทริปให้มีสไตล์แต่ก็อยากพักผ่อนไปในตัวด้วยจะหาได้ที่ไหน เพราะที่นี่ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

     โรงภาพยนตร์สกาล่า (SCALA) ได้ยินชื่อแล้วอย่าเพิ่งเบะปากและคิดว่าธรรมเกินไป หลายคนอาจจะติดภาพความเก่าของโรงภาพยนตร์แห่งนี้และหันไปนิยมโรงภาพยนตร์ยุคใหม่กันหมด แต่ที่นี่มีอะไรมากกว่านั้น สถาปัตยกรรมอันสวยงามในโถงใหญ่กว้างคือจุดที่ทุกคนต้องเก็บภาพ อาคารเก่าใจกลางย่านสยามยังเปิดให้บริการตามฟังก์ชั่นเดิม แต่พิเศษขึ้นเพราะสถานที่แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของประวัติศาสตร์โรงภาพยนตร์ไทย ถึงแม้รูปแบบของกิจการจะเหมือนเดิมแต่การเปลี่ยนแปลงอยู่ตรงวิถีทางของนักท่องเที่ยว การเข้ามาเพื่อบันทึกความทรงจำในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเก็บภาพ ชมภาพยนตร์หรือแม้กระทั่งซึมซับศิลปะ ใครชอบจุดหมายการท่องเที่ยวเท่ๆ กลางใจเมืองห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง หรือจะแวะเข้ามาดูภาพยนตร์สักเรื่องในสไตล์คลาสสิก หรือแม้แต่ชมละครเวทีในอีเวนต์ต่างๆ ก็นับว่าดีทีเดียว

1 / 5

2 / 5

3 / 5

4 / 5

5 / 5

     บ้านสุริยาศัยคือความน่าสนใจในผ่านงานทัศนศิลป์ ความสวยงามของอาคารเก่าตั้งแต่ยุครัชกาลที่ 5 ถูกแปรเปลี่ยนเป็นร้านอาหารสุดหรู สมกับทริปความพรีเมียมตามแคมเปญ #Amazingไทยแลนด์พรีเมียม เรื่องอาหารเป็นต้นตำรับชาววังโบราณ สาวๆ จะได้พบกับบรรยากาศความเลอค่าราวกับอยู่ในบ้านเก่าของชนชั้นสูงสมัยก่อน แต่อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีเพราะคิดว่ามันจะจริงจังและดูเกร็งเกินไป เพราะจริงๆ แล้วภาพรวมมันคือความสบายที่ผสมผสานกับบรรยากาศของคุณค่าในสมัยก่อนได้อย่างลงตัวสุดๆ นอกจากนี้ยังมีทีรูมให้จิบชายามบ่าย และบาร์วินเทจอยู่ชั้นบน ถือเป็นความเก่าแบบฉบับใหม่ที่สามารถเลือกใช้เวลาได้ทั้งวัน

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

     หรือสาวๆ จะเลือกเดินเล่นไปแถบพระนครอีกครั้ง ครั้งนี้จะไม่ใช่แค่สถานที่เดิมแต่จะเป็นแบบครบวงจรในระดับหนึ่ง ดิ โอลด์ สยาม ห้างไนติงเกล และร้านคาเฟ่คือจุดหมายที่เราอยากแนะนำ ดิ โอลด์ ห้างรูปแบบเก่าตั้งตระหง่านอยู่กลาง 4 แยก ภายในจะมีของกินทั้งยุคใหม่และเก่าผสมปนเปให้เลือกสรรกัน เดินข้ามไปหน่อยจะเจอห้างไนติงเกล ร้านขายของซึ่งทันสมัยมากๆ ในสมัยก่อน จากร้านค้าผันตัวเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ขายสินค้าโดยไม่ได้ตั้งใจ คนเข้าไปเยี่ยมชมบรรยากาศและซึบซับได้ก่อนจะหมดสิ้นอายุขัยไปอีกนานไม่นี้ และพักเหนื่อยกันด้วยร้าน ณ วังบูรพาคาเฟ่ และ วิ มา ลิน คอยเสิร์ฟเครื่องดื่มคลายร้อนและจัดแต่งร้านให้ถ่ายรูปอย่างสวยงาม

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

    แต่ถ้าใครอยากชื่นชมงานศิลปะ กลิ่นอายแบบจีนดั้งเดิมพร้อมชมวิถีชีวิต ชุมชนตลาดน้อยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ของอร่อยหลายต่อหลายอย่าง แง่มุมทางประวัติศาสตร์ถูกเก็บรักษาไว้ ในขณะที่บางส่วนของชุมชนปรับตามกระแสโลก เพราะฉะนั้นนี่คือประวัติศาสตร์แสนโมเดิร์น บางอาคารถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบไปบ้างแต่ชุมชนริมน้ำนี้ยังมีอะไรให้เราเดินเล่นอีกไม่น้อย หรือใครจะแวะชมอาคารหลังสวยของธนาคารไทยพาณิชย์สาขาริมน้ำก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้วิวไหนๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

 

     จริงๆ แล้วทั้งในกรุงเทพฯ และสถานที่ต่างๆ ของภาคกลางมีแง่มุมทางประวัติศาสตร์ซ่อนอยู่เสมอ ความรูปธรรมบางอย่างถูกบิดเปลี่ยนมาตามยุคสมัย แต่ก็ยังเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ได้อย่างดี เรื่องราวเบื้องหลังสถานที่เหล่านั้นคือกลิ่นอายให้เราสัมผัสแบบไม่จัดจ้านเกินไป นี่คือเหล่าสถานที่ที่เราแนะนำว่าครั้งหนึ่งคุณต้องลองไปสักครั้ง และการเที่ยวแบบพรีเมียมแบบศึกษาแง่มุมอดีตจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป นอกจากชื่อในลิสต์นี้ยังมีอีกหลายสถานที่ให้เราได้ค้นหา เมื่อเราพูดถึงภาคกลางเรื่องราวเล่าขานคือจุดเด่นคำสัญและนี่เองคือเหตุผลที่เราเลือกสิ่งเหล่านี้มาให้แฟนโว้กได้รับชมกันและเตรียมตัวออกเดินทางเที่ยวกัน