LIFESTYLE

โว้กพาเที่ยว 8 จุดหมายปลายทางที่จะทำให้คริสต์มาสของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!

     ใกล้ถึงวันคริสต์มาสเข้ามาทุกทีหลายคนอาจจะมีจุดหมายปลายทางในการพักผ่อนในวันหยุดยาวช่วงเทศกาลนี้แล้ว ถ้ายังไม่มีวันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่สำคัญของโลกที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม และสนุกสนานแห่งหน้าหนาวปลายปีแบบนี้ แต่ถ้าเตรียมตัวไม่ทันรับชมพรีวิวจากโว้กในบทความนี้จะได้รู้สึกเหมือนกับได้สัมผัสบรรยากาศคริสต์มาสจากทั่วโลก พร้อมรู้ที่มาและจุดเด่นของแต่ละที่ จนทำให้คุณไม่อยากจะพลาดคริสต์มาสครั้งต่อไปอย่างแน่นอน!

 

1.Rockefeller Center

บรรยากาศต้นคริสต์มาสประดับแสงไฟของ Rockefeller / ภาพ: Theo Wargo

     สถานที่แรกที่คนจะนึกถึงเมื่อพูดถึงเทศกาลคริสต์มาสคงหนีไม่พ้น กลุ่มอาคารสูงเสียดฟ้ากลางมหานครนิวยอร์กอย่าง Rockefeller แลนมาร์คสำคัญ ถ้ามีโอกาสไปเหยียบนิวยอร์กแล้วไม่ไปสุดยอดสถานที่แห่งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลปลายปีแบบนี้เปรียบเสมือนมาไม่ถึง ความพิเศษของที่นี่คือต้นคริสต์มาสที่คัดสรรต้นไม้ที่ดีที่สุด สวยงามที่สุด ความสูงพอดีโดยอยู่ที่ประมาณ 69-100 ฟุต และเหมาะสมต่อการตกแต่งจะถูกนำมาตั้งไว้หน้าตึกรอคกีเฟลเลอร์เซ็นเตอร์เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นอยู่ทุกปี

การตั้งต้นคริสต์มาสครั้งแรกของ Rockefeller โดยคนงานของบริษัทในปี 1931 / ภาพ: Rockefeller Center

     ที่มาของการตั้งต้นคริสต์มาสเริ่มตั้งแต่ปี 1931 พนักงานของเครือรอคกีเฟลเลอร์เองช่วยกันตั้งต้นคริสต์มาสฉลองในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง และในปี 1933 ก็เริ่มต้นเป็นประเพณีอย่างเป็นทางการด้วยความสูงของต้นเฟอร์ประมาณ 50 ฟุต และมันเริ่มยิ่งใหญ่เรื่อย ๆ แต่ที่สำคัญมากกว่าขนาดคือต้นกำเนิดมาจากการใช้น้ำพักน้ำแรงร่วมกันสร้างสรรค์ต้นไม้แห่งความสุขนี้ขึ้นมา ต่อมาเริ่มมีการเลือกอย่างละเอียด ใช้ต้นไม้หลากหลายพันธุ์ต้นสปรูซขาว เฟอร์ และในปัจจุบันคือนอร์เวย์สปรูซ ประกอบกับการดึงเอาเหตุการณ์สำคัญ ๆ มาร้อยเรียงเป็นคอนเซปต์ของการตกแต่งเสมอ ทำให้รอคกีเฟลเลอร์เซ็นเตอร์คริสต์มาสเฟสติวัลสำคัญและแตกต่างไปจากที่อื่น ในปีนี้พิเศษใช้ดาวคริสตัลขนาดใหญ่จาก Swarovski ตั้งตระหง่านอยู่ด้านบนชวนให้ทุกสายตาสะดุดและหยุดมองที่ต้นคริสต์มาสสุดอลังการต้นนี้  



WATCH




บรรยากาศลานสเก็ตหน้า Rockefeller Center / ภาพ: GetYourGuide

     แน่นอนว่าต้นสปรูซไม่ใช่ความน่าประทับใจเดียวของรอคกีเฟลเลอร์แต่บรรยากาศรอบ ๆ คือสุดยอดแห่งประสบการณ์เทศกาลคริสต์มาสอันสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นลานสเก็ตน้ำแข็งที่เริ่มตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1936 ความเก่าแก่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์นี้ จะช่วยเติมเต็มช่องว่างทางประสบการณ์เกี่ยวกับเทศกาลนี้ให้กับใครก็ตามที่ได้สัมผัสองค์ประกอบเรื่องทัศนวิสัยเห็นตึกระฟ้า ถนนอันโด่งดังและผู้คนมารวมตัวกันในมู้ดแห่งความสุขประจำปี ถ้าใครอยากได้รับความรู้สึกคริสต์มาสแห่งนิวยอร์กครั้งหนึ่งในชีวิต อย่าพลาดที่จะไปรอคกีเฟลเลอร์

1 / 4

ดาวคริสตัลจาก Swarovski / ภาพ: Rockefeller Center


2 / 4

ซุ้มทางเดินประดับตกแต่งด้านข้าง / ภาพ: wallyg


3 / 4

บรรยากาศลานสเก็ตในช่วงเวลากลางวัน / ภาพ: Filip Wolak


4 / 4

ลานสเก็ตน้ำแข็งแรกพร้อมต้นคริสต์มาส 2 ต้นปี 1936 / ภาพ: Rockerfeller Center


2.Regent St. 

บรรยากาศไฟตกแต่งประติมากรรมเทพสยายปีกปี 2018 / ภาพ: Jeff Moore

     ถนนชื่อดังของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปกติที่นี่เป็นถนนเส้นสำคัญที่นักท่องเที่ยวมักแวะมาเดินเที่ยวและช็อปปิ้งอยู่เสมอ แต่เมื่อถึงช่วงปลายปีบรรยากาศของถนนสุดคลาสสิกเส้นนี้จะถูกแปลงโฉมสู่ถนนคริสต์มาสแห่งความสุข แสงไฟสีเหลืองในเวลากลางคืนส่องกระทบตึกสีนวลสะท้อนออกมาเป็นสีเหลืองทองตลอดแนวถนน เกิดเป็นความยิ่งใหญ่ของถนนใจกลางลอนดอนในช่วงเวลาแห่งความสุขของคนอังกฤษ

การตกแต่งถนนช่วงคริสต์มาสปี 1960 / ภาพ: Phillip Wilson

     ความสวยงามของถนนสีทองช่วงเทศกาลนี้เริ่มขึ้นเมื่อปี 1954 ถือเป็นสถานที่แรกที่ประดับตกแต่งไฟคริสต์มาสอย่างเป็นทางการในลอนดอน เพราะก่อนหน้านี้การตกแต่งเป็นเรื่องของแต่ละบ้านจะสร้างสรรค์กันเองเท่านั้น รีเจนต์สตรีตจึงเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของเทศกาลในเมืองหลวงที่ทุกคนรวมตัวกันเพื่อชมความสวยงามและใช้เวลาร่วมกันในที่สาธารณะเป็นครั้งแรก

การออกแบบประติมากรรมสำหรับตกแต่งถนนสายสำคัญเส้นนี้ / ภาพ: Regent Street

     ความเก่าแก่มาพร้อมกับความยิ่งใหญ่วลีนี้ใช้ได้เสมอกับปรากฏการณ์ในประเทศอังกฤษ รีเจนต์สตรีตก็เช่นกันการประดับตกแต่งไฟถือว่าใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ในปีนี้ทางทีมงานเลือกจะหยิบคอนเซปต์เทพีมาจากครั้งแรกสุด ใช้งานประติกรรมลักษณะเทพสยายปีกขนาดใหญ่กว่า 16 ชิ้นเป็นแกนหลักในการจัดตกแต่งถนนเส้นนี้ให้หรูหราเหนือระดับสมกับเป็นเมืองผู้ดีอย่างแท้จริง

1 / 4

ช่วงเวลาเปิดไฟอย่างเป็นทางการของ Regent Street ปี 2018 / ภาพ: Evening Standard


2 / 4

ประติมากรรมเทพสยายปีกประดับไฟมุมมองจากถนน / ภาพ: Jeff Moore


3 / 4

ผู้คนเริ่มคึกคักช่วงคริสต์มาส / ภาพ: Jeff Moore


4 / 4

เบื้องหลังงานศิลปะ / ภาพ: Regent Street


3.Claridge's

ต้นคริสต์มาสปี 2018 ผลงานการออกแบบของ Diane von Fürstenberg / ภาพ: Claridge's

     โรงแรมอาจไม่ใช่สถานที่คนนึกถึงนักเพื่อพูดถึงคริสต์มาส แต่ไม่ใช่กับ Claridge’s โรงแรมสุดหรูในย่านเมย์แฟร์ ความพิเศษอาจจะไม่ใช่ความยิ่งใหญ่ของไฟประดับรอบตัวตึก หรืองานเทศกาลอันคึกคักแต่คือต้นคริสต์มาสข้างบันไดวนกลางโรงแรม ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ต้นคริสต์มาสถูกออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดังไม่ว่าจะเป็น Karl Lagerfeld, John Galliano, Christopher Bailey และล่าสุดปีนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Diane von Fürstenberg สร้างความเลิศหรูให้กับโถงกลางโรงแรมให้แขกได้สัมผัสก่อนเข้าจิบชาที่ห้องทีรูม ซึมซับบรรยากาศความเป็นผู้ดีอังกฤษสุดหรูอย่างเต็มที่

1 / 5

Claridge's Tea Room / ภาพ: Claridge's


2 / 5

ต้นคริสต์มาสปี 2017 ผลงานการออกแบบของ Karl Lagerfeld / ภาพ: Claridge's


3 / 5

ต้นคริสต์มาสปี 2015 ผลงานการออกแบบของ Christopher Bailey / ภาพ: Claridge's


4 / 5

ต้นคริสต์มาสปี 2014 ผลงานการออกแบบของ Dolce & Gabbana / ภาพ: Claridge's


5 / 5

ต้นคริสต์มาสของ Claridge's ต้นแรกผลงานการออกแบบของ John Galliano ขณะเป็นดีไซเนอร์ของ Dior / ภาพ: Claridge's


4.Reykjavík, Iceland

บรรกายาศของ Reykjavík เมืองหลวงประเทศไอซ์แลนด์ / ภาพ: Tui

     เปลี่ยนมู้ดจากเมืองใหญ่มาสู่ประเทศเล็ก ๆ ทางตอนเหนือที่มาพร้อมธรรมชาติสุดงดงาม เรคยาวิก เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ อากาศเย็นยะเยือกกับหิมะขาวโพลนคงเป็นภาพจำเทศกาลคริสต์มาสของใครหลายคน แต่ที่นี่ภาพจินตนาการจะกลายเป็นความจริง บรรยากาศบ้านเรือนประกอบกับธรรมชาติทั้งหมดสร้างทุกอย่างให้ดูเหมาะเจาะสำหรับกิจกรรมหน้าหนาวเพื่อฉลองคริสต์มาสในรูปแบบพิเศษที่หาไม่ได้จากที่ไหน

ธรรมชาติของป่าสนสวยงามของเมืองหลวงนี้ / ภาพ: Dagur Jonsson

     กิจกรรมที่เรคยาวิกมีมากมาย แต่เราขอนำเสนอเกี่ยวกับธรรมชาติซึ่งเป็นจุดเด่นของที่นี่ การเยี่ยมชมป่าและสัตว์อย่าง กวางเรนเดียร์ตัวจริงในหุบเขาแห่งคริสต์มาส เมื่อมาถึงและค่อย ๆ ใช้เวลาที่นี่ เทศกาลแห่งความสุขนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เรคยาวิกจะเติมเต็มภาพในจินตนาการของวันสุดพิเศษให้สมบูรณ์แบบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โกโก้อุ่น ๆ สักแก้วคงเหมาะกับที่นี่ไม่น้อย...

1 / 3

บรรยากาศคึกคักภายในเมือง / ภาพ: Iceland 24


2 / 3

ทางเดินที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ / ภาพ: Reykjavik


3 / 3

ถนนเล็ก ๆ ภายในเมือง Reykjavík ช่วงคริสต์มาส / ภาพ Roman Gerasymenko


5.Osaka, Japan

ต้นคริสต์มาสคริสตัลของ GRAND OSAKA FRONT ปี 2018 / ภาพ: @KansaiPhotos

     ข้ามโลกกลับมาที่ฝั่งเอเชียกันบ้าง งานคริสต์มาสสุดพิเศษในญี่ปุ่นก็โดดเด่นจนต้องพูดถึงเหมือนกัน โอซาก้า อดีตเมืองหลวงของประเทศมีการจัดตกแต่งสุดหรูหราด้วยต้นคริสต์มาสคริสตัลจาก Swarovski สูงถึง 8 เมตรเป็นไฮไลต์ของเมือง ตั้งอยู่ที่บริเวณ Grand Osaka ซึ่งผลงานออกแบบเทศกาลของที่นี่เป็นที่พูดถึงทุกปี ทำให้โอซาก้าเข้ามาติดโผสถานที่น่าไปในช่วงคริสต์อยู่เสมอ

บรรยากาศเทศกาลประดับไฟหน้าหนาวของ Osaka / ภาพ: Hotel in Osaka

     นอกเหนือจากต้นคริสต์มาสสุดหรูหราอลังการ ภายในเมืองยังประกอบไปด้วยตลาดคริสต์มาส รวมถึงเทศกาลไฟช่วงหน้าหนาวที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาใช้เวลาแห่งความสุขปลายปีที่เมืองอันมีเสน่ห์แห่งนี้ สีสันของไฟที่ส่องสว่างชักชวนให้คนอยากมาสัมผัสอากาศเย็นสะใจ พร้อมทั้งบรรยากาศการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นและตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

1 / 3

ต้นคริสต์มาส White Blossom ปี 2016 / ภาพ: @welcometokansai


2 / 3

ภาพท้องถนนตกแต่งด้วยไฟหลากสีสัน / ภาพ: WOW! JAPAN


3 / 3

พื้นที่ตกแต่งด้วยไฟสีฟ้าในเทศกาลประดับไฟหน้าหนาวประจำปี / ภาพ: Compathy


6.Vienna Christmas Market

ข้อความหน้าตลาดคริสต์มาส "Frohe Weihnachten" แปลว่า สุขสันต์วันคริสต์มาส / ภาพ: Ritz Carlton's Journey

     ถ้าหากพูดถึงความเก่าแก่ของเทศกาลคริสต์มาส เวียนนาเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่จะปรากฏขึ้นเมื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาลนี้ 1298 คือปีที่ถูกจารึกไว้ว่ามีการจัดงานเฉลิมฉลองปลายปีแบบนี้ จนถึงทุกวันนี้กลิ่นอายของความเก่าแก่และบรรยากาศแห่งความสุขยังคงคละคลุ้งอยู่ในเมืองหลวงของประเทศออสเตรียแห่งนี้ ตลาดหน้าหนาวปลายปีคือหัวใจสำคัญที่สานต่อความคึกคักของคริสต์มาสให้คงอยู่กับเวียนนาเสมอมา

บรรยากาศแสนน่ารักและเรียบง่ายของตลาดคริสต์มาสในกรุงเวียนนา / ภาพ: Europe's Famous Hostels

     ตอนนี้เวียนนามีตลาดคริสต์มาสอย่างเป็นทางการประมาณ 20 แห่งทั่วเมือง ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็สามารถแวะเดินเล่น ทานขนม ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งความชื่นมื่นของชาว 'Österreich' จะเสาะหาของขวัญหรืออาหารในแบบคริสต์มาสก็ได้ทั้งนั้น เมืองที่งดงามอันดับต้น ๆ ของโลกแห่งนี้จะสร้างประสบการณ์ให้คุณจำภาพการเดินเล่นท่ามกลางสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิก ผู้คนที่น่ารัก และคริสต์มาสแบบฉบับดั้งเดิมที่หาไม่ได้จากที่ไหน และคำว่า 'Winter Market' ของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

1 / 2

บรรยากาศจากมุมสูงของ 1 ในตลาดคริสต์มาสในกรุงเวียนนา / ภาพ: European Best Destinations


2 / 2

ตลาดหน้าหนาวที่เรียบง่ายของคนท้องถิ่น / ภาพ: Cookiesound


7.Santa Claus Village

บรรยากาศแสนพิเศษในพื้นที่ Santa Claus Village / ภาพ: Santa Claus Viallge

     คริสต์มาสจะขาดซานต้า คลอสไม่ได้ ชายสูงอายุร่างกายอวบอ้วนคือตัวแทนของเทศกาลนี้อย่างแท้จริง ถือเป็นองค์ประกอบสากลสำหรับงานเฉลิมฉลองนี้ไปแล้ว ชายผู้มอบของขวัญแห่งความสุขให้กับผู้คนโดยเฉพาะเด็ก ๆ คือตัวละครในจินตนาการวัยเด็กของคนทั่วโลก แต่เมื่อเติบโตขึ้นเรามักจะละเลยความทรงจำแสนพิเศษเหล่านั้น และเลิกเชื่อเรื่องการมีอยู่ของซานต้า คลอส แต่ที่เมืองโรวาเนียมี ประเทศฟินแลนด์ พิสูจน์แล้วว่าซานต้า คลอสมีจริง!

บ้านไม้สำหรับแขกที่มาพักใน Santa Clause Village / ภาพ: Santa Claus Village

     หมู่บ้านซานต้าคลอสเปิดตั้งแต่ปี 1985 เป็นสถานที่สำหรับเติมเต็มความฝันในวัยเด็กอย่างแท้จริง ภาพของคริสต์มาสที่ถูกผลิตซ้ำผ่านสื่อและการบอกเล่าต่าง ๆ มีครบถ้วน ณ หมู่บ้านแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นต้นส้นขาวโพลนโดยรอบ รถลากเลื่อน อาคารไม้พร้อมปล่องไฟ กวางเรนเดียร์ และที่ขาดไม่ได้ซานต้า คลอส

กวางเรนเดียร์สุดแข็งแรงกำลังลากพาหนะแขกในหมู่บ้าน / ภาพ: Santa Claus Village

     แต่อย่าพึ่งคิดว่ามีแค่บรรยากาศให้เราได้สัมผัสในลักษณะพาสซีฟ เพราะที่นี่มีกิจกรรมสุดแอคทีฟมากมายให้นักท่องเที่ยวทั้งสโนว์โมบิล ผจญภัยกับรถลากเลื่อน และอีกมากมาย ถ้าครั้งหนึ่งคุณได้มาที่หมู่บ้านแห่งนี้ การเฉลิมฉลองคริสต์มาสคือความพิเศษเต็มรูปแบบ จินตนาการวัยเด็กจะกลายมาเป็นภาพความทรงจำของจริง และภาพนี้จะติดอยู่ในความคิดและจิตใจไปตลอดชีวิต

1 / 3

บรรยากาศภายนอกช่วงกลางคืน / ภาพ: Booking.com


2 / 3

ห้องของซานต้า คลอส / ภาพ: Visit Rovaniemi


3 / 3

ห้องน้ำแข็งภายในหมู่บ้าน / ภาพ: Trover


8.House of Dior

ต้นคริสต์มาสหน้าร้าน Dior ที่ The Avenue Montaigne / ภาพ: Dior

     ปิดท้ายให้สายแฟด้วยสโตร์ของแบรนด์ระดับโลกอย่าง Dior ที่ The Avenue Montaigne ในกรุงปารีส ร้านสุดยิ่งใหญ่ของดิออร์สร้างความเฉิดฉายให้กับคริสต์มาสอย่างต่อเนื่องทุกปี ในปีนี้แบรนด์เนรมิตต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์พาดไปบนทางเข้าบริเวณหัวมุมตึก กิ่งไม้ขนาดยักษ์หลายสิบกิ่งถูกวางพาดกับแผงโครงเล็กซึ่งประดับประดาด้วยประติมากรรมรูปสัตว์ แรงบันดาลใจจากคอลเล็กชั่นครูส 2019 โดย Maria Grazia Chiuri ไฟสีทองสาดส่องบนแผ่นใบไม้สีขาว สะท้อนเงาของสัตว์เกิดเป็นต้นคริสต์มาสแห่งโลกแฟชั่นที่สวยงาม และมีดาวประดับไฟด้านบนสร้างความสมบูรณ์แบบให้หน้าร้านซูเปอร์แบรนด์แห่งนี้ได้อย่างไร้ที่ติ สาวกแฟชั่นถ้ามีโอกาสอย่าลืมไปเยี่ยมชมสโตร์สุดอลังการในช่วงคริสต์มาสแห่งนี้ ดีไม่ดีอาจจะหิ้วกระเป๋า Book Tote กลับบ้านเป็นของขวัญคริสต์มาส รับประกันเลยว่าดิออร์จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน

1 / 2

Dior Book Tote Bag จากคอลเล็กชั่น Cruise 2019 / ภาพ: visiteiffel


2 / 2

ต้นคริสต์มาสหน้าร้าน Dior ปี 2016 / ภาพ: wikimedia


     ถึงแม้ว่าคริสต์มาสอาจจะไม่ใช่วันสำคัญของวัฒนธรรมประเทศไทยนัก แต่เทศกาลแห่งความสุขนี้ได้รังสรรค์สถานที่ บรรยากาศ และจินตนาการอันน่าประทับใจมาตั้งแต่วัยเด็ก บทความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่พาชมจุดหมายปลายทางที่อยากให้แฟน ๆ โว้กได้สัมผัสครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้ายังไม่มีโอกาสผู้เขียนอยากให้ทุกคนสัมผัสและซึมซับเรื่องราวความพิเศษของเทศกาลนี้ไปไม่มากก็น้อย ขอให้มีความสุขกับการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาส และท่องเที่ยวออนไลน์ผ่านบทความนี้อย่างสนุกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 'Merry Christmas' แฟน ๆ โว้กประเทศไทย

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Christmas