ในช่วงเวลาที่ประเทศเผชิญกับวิกฤติระดับโลกการบริหารจัดการของรัฐเป็นเรื่องสำคัญ และเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นต้องได้รับการแก้ไข รวมถึงมองถึงปัญหาระยะยาว ดังนั้นหากการปฏิบัติไม่สำเร็จลุล่วงหรือไม่มีแนวทางอย่างชัดเจนให้ผู้คนมั่นใจย่อมเกิดกระแสตีกลับอย่างแน่นอน และศิลปะคืออีกหนึ่งเครื่องมือในการสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งยังสามารถสอดแทรกนัยยะบางอย่างให้มีมิติกว่าแค่การเสพความสวยงาม วันนี้โว้กจะพาไปล้วงลึกแอคเคาต์อินสตาแกรมแสดงผลงานศิลปะสะท้อนสังคมที่ฮอตที่สุดในตอนนี้

     ช่วงที่ผ่านมาหลายคนที่เลื่อนฟีดหรือสตอรี่บนอินสตาแกรมอาจจะเคยเห็นงานศิลปะของศิลปินคนหนึ่งที่ใช้นามว่า @uninspiredbycurrentevents ซึ่งติดตามเรื่องราวพร้อมถ่ายทอดออกมาได้ทันเหตุการณ์อย่างยิ่ง นอกจากความรวดเร็วและสวยงามแล้ว แต่ละภาพยังสะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมเป็นเหมือนสัญลักษณ์สำหรับการเรียกร้องให้แก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ถูกใส่ลงไปโดยมีความหมายแฝงให้เราได้คิดต่อ ถือว่างานดิจิทัลอาร์ตของศิลปินคนนี้ตอบโจทย์แนวคิดของคนที่ต้องการเรียกร้องการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดได้ดีมากๆ เลยทีเดียว

     แก่น-สารัตถะ จึงเสถียรทรัพย์คือผู้อยู่เบื้องหลังแอคเคาต์อินสตาแกรมที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ โว้กจึงขอล้วงลึกถึงความตั้งใจเบื้องหลังในการรังสรรค์ผลงานสุดไวรัลนี้ให้ทุกคนได้ทราบ โดยเขาเผยว่า “ผมตั้งใจทำงานออกมาให้ได้ทุกวัน ทำให้งานนั้นมีประโยชน์ต่อสังคม และสามารถย้อนกลับมาชมได้” สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคุณแก่นไม่ได้ต้องการทำงานศิลปะแบบฉาบฉวยเพื่อตามเหตุการณ์เพียงอย่างเดียว

     ศิลปินบนโลกออนไลน์คนนี้กำลังพัฒนางานศิลปะของตัวเองให้เป็นผลงานที่มีคุณค่าในตัวเองทุกชิ้น เขาใช้วิธีการสร้างสรรค์โดยเลือกโมเดล 3 มิติที่พอจะหาโหลดได้มาจัดวางเป็นภาพที่พาดพิงหรือสะท้อนข้อความแทงใจดำเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองวันนั้นๆ แต่อย่างที่กล่าวไปว่าคุณแก่นไม่ได้ทำเพื่อสะท้อนสังคมโดยไม่สนใจคุณภาพ ทว่าเขาใส่ใจทุกรายละเอียดและมีมุมมองเกี่ยวกับงานที่ทุกคนกำลังชื่นชอบนี้ว่า “ต้องพยายามทำให้ภาพมันมีความน่าสนใจมากพอในตัวของมันเองด้วย ถ้าเรากลับมาดูโดยที่ไม่มีบริบทของวันนั้นมันจะได้ยังมีคุณค่าบางอย่างอยู่”

     ในขณะที่กำลังดำรงชีวิตด้วยอาชีพฟรีแลนซ์เขาเปิดใจถึงแรงผลักดันในการสร้างสรรค์ผลงานกับโว้กว่า “แรงผลักดันหลักคือการเห็นผลตอบรับจากคนที่เห็นงานของเรา” สิ่งที่สำคัญมากกว่าความชื่นชมคือการพางานดิจิทัลอาร์ต ซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบงานศิลปะเฉพาะกลุ่ม ได้หลุดจากกรอบคนทำดิจิทัลอาร์ตด้วยกันสู่สายตาของคนทั่วไปและสร้างประโยชน์ในวงกว้างมากขึ้น ดังนั้นรากฐานการทำงานแบบดิจิทัลของคุณแก่นยังคงเป็นงานที่เต็มไปด้วยรายละเอียดความตั้งใจ ในขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์คนทั่วไปโดยไม่ต้องฝืนธรรมชาติความเป็นตัวเองแม้แต่น้อย นี่คือจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ผลงานของเขามีเอกลักษณ์ในแบบที่ไม่มีใครเหมือน

     “คุณค่าของงานสะท้อนความตั้งใจที่เปล่งเสียงได้ดังกว่าปกติ” คุณแก่นอธิบายว่าการจะสะท้อนสังคมที่ล้มเหลวให้มีพลังมากกว่าปกติจึงไม่ใช่แค่พูดออกไปอย่างไร้น้ำหนัก แต่หมายถึงการสร้างสรรค์คำวิพากษ์วิจารณ์ด้วยคุณค่าและความตั้งใจในการรังสรรค์ที่สูงขึ้น สิ่งเหล่านี้จึงมีน้ำหนักกว่าแค่คำด่าทั่วไป และงานของเขายังมีความกำกวมแอบซ่อนข้อความจิกกัดไว้ ดังนั้นดาราหรือสื่อจึงสามารถนำไปแชร์ได้โดยไม่กระทบต่อต่อความปลอดภัยของตัวเองเท่าไรนัก

     การเปลี่ยนแปลงในมุมมองของคุณแก่นไม่ใช่การเรียกร้องเพียงไม่กี่ครั้ง แต่หมายถึงการฝังรากลึกในวิถีชีวิตของประชาชนที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมได้อย่างยั่งยืน “เราพยายามทำงานที่เป็นการผลักดันความสุนทรี คนดูได้เรื่อยๆ โดยที่ไม่ท้อแท้หรือหมดแรงไปเสียก่อน” ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการฝังรากวิถีใหม่ของประชาชนลงไป เพราะความโกรธ เกลียด เศร้า หรือแม้แต่ความกดดันอาจไม่ใช่ทางเดียวในการหล่อหลอมวิถีการเปลี่ยนแปลงให้สมบูรณ์แบบได้ เพราะฉะนั้นการสร้างความสุนทรีพร้อมส่งสารการต่อต้านความไม่ชอบธรรมต่างๆ จึงเป็นอีกหนึ่งมิติที่มาคอยเติมเต็มพลังของประชาชนจนสมบูรณ์แบบ

     สุดท้ายศิลปะจะไม่เป็นไวรัลและได้รับความนิยมหากคนเลือกที่จะไม่เสพ สิ่งนี้สอดคล้องกับความเห็นคุณแก่นที่อธิบายว่า “ผมว่าสิ่งที่ท็อปฟอร์มในช่วงนี้ คือความต้องการความเปลี่ยนแปลงของคนไทย รูปของเราจะไม่ทำงานเลย ถ้าคนดูไม่ได้มีวัฒนธรรมร่วมกันขนาดนี้”  ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าศิลปะเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมของมนุษย์อยู่เสมอ การที่คนนับแสบนับล้านเข้ามาชื่นชมและเห็นด้วยกับงานของคุณแก่นหมายความว่าพวกเขากำลังมีพลังและทัศนคติร่วมกัน และแน่นอนว่ามันคือพลังสำคัญที่จะยึดโยงทุกคนจนสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างที่ทุกคนต้องการได้สำเร็จ

1 / 5

2 / 5

3 / 5

4 / 5

5 / 5