ช่วงปลายปีแบบนี้สโตร์ของแบรนด์ยักษ์ใหญ่พาเหรดกันเปิดสาขาใหม่ และทยอยกลับมาเปิดหลังจากการปิดปรับปรุงทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่ละร้านมีคอนเซปต์ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับแบรนด์และนักออกแบบ มันน่าตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อมีการเปิดร้านพร้อมไอเดียใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์ตั้งแต่หน้าร้าน ภายในร้าน ตลอดจนรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ใหม่อันน่าประทับใจหลังจากการเปิดตัวของแต่ละที่อย่างแน่นอน

บรรยากาศร้านสาขา Amsterdam ที่เต็มไปด้วยไอเท็มทุกรูปแบบ / ภาพ: retailnews.asia

     ในขณะที่ความหรูหราอลังการเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ของร้าน แต่ระบบการจัดการภายในร้านเป็นอีกหนึ่งกุญแจหลักในการไขสู่ความสำเร็จ Tommy Hilfiger วางกุญแจดอกนี้เป็นรากฐานการออกแบบร้านใหม่ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอแลนด์ แบรนด์เนรมิตร้านขนาดกว่า 300 ตารางเมตรเป็นสไตล์ 'Nautica' หรือ คอนเซปต์เกี่ยวกับการเดินเรือ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของทอมมี ฮิลฟิเกอร์มาตลอด ครั้งนี้มีการปรับให้สปอร์ตและโมเดิร์นมากยิ่งขึ้นเหมาะกับยุคสมัยปัจจุบัน แต่ความพิเศษของร้านทอมมีที่ดินแดนกังหันลมสาขานี้ยังไม่หมด!

จอมอนิเตอร์ภายในร้าน Tommy Hilfiger สาขา Amsterdam / ภาพ: retailnews.asia

     ทอมมี ฮิลฟิเกอร์ร้านใหม่นี้ภายในมีระบบการบริการรูปแบบใหม่คือมีจอมอนิเตอร์เป็นแค็ตตาล็อกออนไลน์ อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเดินชมและจิ้มสินค้าให้ไปส่งที่บ้าน หรือแม้กระทั่ง เอ๊ะ! ถูกใจในจอแล้วกดมาลองก็ทำได้เช่นกัน เป็นการผสานกันระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์อย่างแท้จริง

โชว์รูมของ Tommy Hilfiger ที่สำนักงานใน Amsterdam / ภาพ: Knight Interactive

     ยังไม่พอ! ก่อนหน้านี้ทางทอมมี ฮิลฟิเกอร์ยังมีโชว์รูมพิเศษที่สำนักงานในอัมสเตอร์ดัม เพื่อให้สาวกของแบรนด์ได้เลือกชมไอเท็มของแบรนด์ในห้องส่วนตัว พร้อมให้มิกซ์แอนด์แมชได้ตามใจ ทั้งห้องนี้และระบบร้านแบบใหม่ทำให้ร้านโมเดิร์นสปอร์ตแวร์แห่งนี้สมบูรณ์แบบและเป็นตัวแทนของร้านในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย

Daniel Grieder ประธานกรรมการบริหาร (ซ้าย) และ Tommy Hilfiger ผู้ก่อตั้งแบรนด์ (ขวา) ในโชว์รูม / ภาพ: BusinessWire

     คนส่วนใหญ่ต้องการจะลองสินค้าจริงแต่บางครั้งก็ต้องการเห็นภาพลุคที่ถูกใจก่อน หรือลองแล้วไม่อยากถือถุงเสื้อผ้าพะรุงพะรังเดินตามท้องถนน นับว่าเป็นความใส่ใจต่อลูกค้าอย่างแท้จริงของแดเนียล กรีเดอร์ ประธานกรรมการบริหารของทอมมี ฮิลฟิเกอร์ที่เล็งเห็นว่า "เราไม่สามารถอยู่เฉย ๆ ให้ลูกค้าวิ่งเข้ามาในร้านได้ เราต้องสร้างความตื่นเต้นเพื่อเป็นเหตุผลให้พวกเขาต้องการที่จะเข้ามาชมและช็อปสินค้าของเรา" เราเชื่อว่าในไม่ช้าหลายแบรนด์ต้องนำคอนเซปต์นี้มาใช้อย่างแน่นอน เห็นได้จากการใช้แท็บเล็ตเพื่อดูสินค้า หรือจะเป็นจอนำเสนอไอเท็มภายในร้าน คอยติดตามกันว่าในอนาคตรูปแบบของร้านแบรนด์แฟชั่นจะเดินไปในทิศทางนี้จริงหรือไม่ เดี๋ยวปี 2019 รู้กัน!