‘นิดหน่อย ขนิษฐา’ ผู้หญิงยุคใหม่ที่ใช้คำว่า บาลานซ์ กับทุกเรื่องในชีวิต@Littledelight มีอะไรน่าสนใจมากกว่ารูปสวยๆ ในอินสตาแกรมของเธอ |
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มักใช้เวลาว่างไปกับการสอดส่องอินสตาแกรมของเหล่าเซเลบริตี้ ชื่อแอคเคาท์ @Littledelight ของครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์สาวสวยจากแบรนด์ Canitt และ Bare by Canitt อย่าง นิดหน่อย - ขนิษฐา ดรุณเนตร คงจะเคยผ่านหูผ่านตาคุณมาบ้าง ซึ่งนอกจากเธอจะเป็นทั้งดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าแล้ว นิดหน่อยยังมีบทบาทในการเป็นแม่ เป็นภรรยา รวมถึงเป็นเพื่อน และเธอยังเป็นคนหนึ่งที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงดูแลตัวเองเป็นประจำ เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่สามารถจัดสรรตารางชีวิตของตนเองได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว วันนี้โว้กบิวตี้จะพาคุณมาทำความรู้จักกับนิดหน่อย ให้มากกว่าแค่ภาพสวยๆ จากอินสตาแกรมของเธอ ทั้งไลฟ์สไตล์ แนวคิด รวมไปถึงมุมมองในการใช้ชีวิต
ชื่อ @Littledelight มาจากอะไร
“คำว่า little นี่มาจากนิดหน่อยเลย ส่วน delight มาจากความหมาย ที่สบายๆ บางเบา อะไรแบบนี้ คือชอบความหมาย ก็เลยเอามาใส่ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก คือเราไม่ได้คิดว่าอินสตาแกรมจะกลายมาเป็นอะไรที่บูมขนาดนี้ ก็เลยใช้ไป แต่พอคิดจะเปลี่ยน กลายเป็นว่า ทุกคนจำได้หมดแล้วว่าคนนี้คือ Littledelight ก็เลยเปลี่ยนไม่ได้แล้ว”
สำหรับการเป็นครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ นิดหน่อยมองว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
“นิดหน่อยคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องรู้จุดแข็งของตัวเอง ต้องรู้ว่าเราทำแบรนด์สำหรับผู้หญิงประเภทไหน ตัวตนของแบรนด์เราคืออะไร และเวลาเราออกแบบ เราต้องดูด้วยว่าตลาดตอนนี้เป็นอย่างไร สินค้าแบบไหนที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของเรา อะไรที่จะช่วยปรับให้เป็นจุดเด่นของเราได้ เพราะถ้าเราทำเหมือนคนอื่น เขาก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเรา ดังนั้นเราต้องดึงจุดเด่นของตัวเราออกมาให้ได้ อะไรคือสิ่งที่จะทำให้ลูกค้านึกถึงเรา นิดหน่อยว่านี่แหละคือสิ่งที่สำคัญ”
มีวิธีการหาแรงบันดาลใจให้ตัวเองอย่างไร
“ส่วนใหญ่ แรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าแต่ละคอลเล็กชั่น จะมาจากความสนใจในแต่ละช่วง แล้วแต่ว่าตอนนั้นเราสนใจอะไร ซึ่งหลากหลายมาก ส่วนใหญ่มักจะเป็นสิ่งรอบตัวที่เราชื่นชอบ บางทีอาจจะเป็นหนังในอดีต ที่เราเคยดู แล้วรู้สึกว่าเราอินกับบรรยากาศ โทนของหนัง ชุดของตัวละคร หรืออาจจะเป็นงานรื่นเริงในเรื่องนั้น ที่เรารู้สึกว่ามันโรแมนติก เราก็จะหยิบอารมณ์ตรงนั้นมาทำ เพลงก็เช่นกัน เพลงไหนที่เรารู้สึกว่ามันเข้า หรือน่าจะเอามาปรับให้เข้ากับตัวตนของแบรนด์เราได้ เราก็จะหยิบมา แล้วก็งานศิลปะบางชิ้น ที่เรามองว่าน่าสนใจ เราก็นำมาถ่ายทอดในแบบของเรา รวมไปถึงการท่องเที่ยว ซึ่งหลายๆ ครั้ง มันก็ทำให้เราได้พบเจออะไรหลายๆ อย่างที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อน มันอาจจะเป็นแค่อารมณ์ ความรู้สึก แต่เรารู้สึกชอบ เราก็จะหยิบออกมา ถ่ายทอดเป็นลายพิมพ์ หรืออาจจะเป็นรูปทรงของชุดก็ได้”
เริ่มสนใจการดูแลตัวเองมานานแค่ไหนแล้ว
“พึ่งมาเริ่มดูแลตัวเองเลยค่ะ เมื่อก่อนคือต้องใช้คำว่าขี้เกียจมาก ขี้เกียจแบบที่เรียกได้ว่า ขี้เกียจเลย ตอนสมัยวัยรุ่นคือทาครีมตัวเดียว จบ นอนได้ ส่วนอาหารก็กินแต่อะไรที่ไม่มีประโยชน์ แต่พอเริ่มเข้าเลขสามแล้วเนี่ย เราเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ก็เลยเริ่มบอกกับตัวเองว่าลองดูแลตัวเองดู ซิ จะทำได้ไหม จากตอนแรกที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย ก็หันมาออกกำลังกาย นี่ก็เริ่มมาประมาณสองปีแล้วค่ะ ตอนแรกแค่อยากแข็งแรงขึ้น เพราะทุกครั้งที่ไปหาหมอ แล้วเขาให้กรอกประวัติ จะต้องติ๊กว่า ไม่เคยออกกำลังกาย ทุกวันนี้พูดได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้วว่า ออกกำลังกายสม่ำเสมอค่ะ (ยิ้ม) พอเริ่มออก มันก็ได้ผลดีหลายๆ อย่าง จริงๆ นะ คือในทุกๆ ด้านเลย แข็งแรงขึ้น ป่วยน้อยลง รูปร่างดีขึ้น ทุกอย่างคือมีแต่ผลดี เมื่อก่อนเราแค่มีข้ออ้างว่าเราไม่มีเวลา แต่จริงๆ สุดท้ายแล้ว ถ้าเราให้ความสำคัญ เราจะมีเวลาเอง เราจะให้ความสำคัญได้ ว่าอันนี้เราต้องหาเวลา ไม่ใช่เวลาจะลอยมาเอง ทุกวันนี้คือออกกำลังกาย อย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้ง หรือถ้ามีเวลาก็สามครั้งค่ะ”
WATCH
สไตล์การออกกำลังกายของนิดหน่อยเป็นแบบไหน
“ถ้าเป็นคาดิโอ อย่างวิ่งเนี่ย จะชอบวิ่งกับลูก เพราะลูกชายเริ่มอ้วนนิดนึง เลยชอบชวนเขาไปวิ่ง วิ่งรอบหมู่บ้านนี่แหละ คือระยะทางมันประมาณสองกิโลได้ วิ่งสองรอบก็ถือว่าโอเคแล้ว คือนิดหน่อยจะไม่ชอบเดินลู่วิ่ง เพราะเป็นคนค่อนข้างไฮเปอร์ ให้เดินอยู่กับที่ไม่ได้ แต่ถ้าเดินชมนกชมไม้ โอเค แต่ถ้าไปยิม ส่วนใหญ่จะเข้าที่ใกล้ๆ สำหรับใครที่จะเริ่มออกกำลังกาย นิดหน่อยแนะนำให้หาที่ใกล้ๆ เข้าไว้ เพราะมันจะสะดวก แต่ถ้าเป็นที่ไกลๆ ต่อให้สถานที่มันดีแค่ไหน สุดท้ายมันจะมีหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้เราไปไม่ได้ นิดหน่อยเลยเลือกยิมที่อยู่ใกล้ออฟฟิศ เพราะเราทำงานทุกวันอยู่แล้ว ว่างๆ ก็แวะไปได้ ไปคนเดียวบ้าง ถ้าสามีสะดวก ก็มาเล่นด้วยกัน ถ้าเล่นด้วยกันก็จะสนุกสนานนิดนึง แต่จริงๆ เวลามันแค่ชั่วโมงเดียว เราโฟกัสกับการออกกำลังกายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเล่นคนเดียวก็ไม่ได้เหงาหรือน่าเบื่ออะไร รวมถึงเทรนเนอร์ของนิดหน่อยเอง เขาก็โอเคเลย สดใสดี สำหรับนิดหน่อย นิดหน่อยว่าเทรนเนอร์ถือว่ามีผลกับการออกกำลังการมากเลย เขาทำให้การออกกำลังกายของเราต่อเนื่อง และไม่น่าเบื่อ อย่างตอนแรกที่เริ่มไปยิม จะกลัวว่า ฉันจะเล่นได้เหรอ ฉันจะบังคับตัวเองมายิมได้หรือเปล่า แต่พอมาตอนนี้เราก็รู้แล้วว่ามันได้ เพราะการมายิมมันไม่ได้น่าเบื่อเลย”
มีเคล็ดลับอะไรบ้าง สำหรับการดูแลตัวเอง
“นิดหน่อยมองว่าเรื่องการกิน เป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะในเรื่องของรูปร่าง นิดหน่อยว่า 30 เปอร์เซ็นต์เนี่ย คือการออกกำลังกาย 70 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือคือการกิน ถ้ากินเยอะเหมือนเดิม แต่ก็ออกกำลังกาย เราก็แข็งแรงแหละ แต่จะไม่ผอม หุ่นก็จะไม่ดีอยู่ดี คือเราต้องควบคุมอาหารด้วย แต่สำหรับนิดหน่อยเอง ถ้าจะให้กินอาหารคลีนทุกวันเลยเนี่ย ทำไม่ได้ คือชีวิตเราเจอความเครียดอยู่เรื่อยๆ เราก็ต้องหาความสุขให้กับตัวเองบ้าง ดังนั้นถ้าเราบาลานซ์ได้ เช่น ถ้าวันนี้กินเยอะ พรุ่งนี้ต้องรู้ตัวแล้วว่าต้องน้อยนะ เพราะถ้าจะให้เราคลีนไปเลย มันไม่ได้แน่นอน แต่ถ้าเราจะตามใจปาก แต่ก็อยากสวย มันก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย คือร่างกายก็ไม่โกงเราเหมือนกัน ถ้ากินเยอะก็ต้องออกกำลังกายเยอะ แต่ถ้าช่วงไหนเราไม่มีโอกาสออกกำลังกาย เราก็ต้องควบคุมการกินให้ได้ แค่นั้น ทุกอย่างมันคือการบาลานซ์”
สำหรับนิดหน่อย คำว่า “สวย” คืออะไร
“นิดหน่อยรู้สึกว่าการที่เราสวยในแบบของตัวเอง คือสิ่งที่ดีที่สุด เพราะว่าเราไม่มีวันสวยเหมือนคนอื่นได้หรอก แต่เราสามารถเป็นตัวเราในแบบที่ดีที่สุดของเราได้ แล้วเราก็จะสวย และมั่นใจในตัวเราเอง คือนิดหน่อยว่า การที่เราหาจุดบกพร่องของตัวเองให้เจอ แล้วเราแก้ไข และเรามั่นใจในความที่เป็นเรานี่แหละ นั่นแหละ คือความสวย”
คิดยังไงกับการที่ยังมีผู้หญิงหลายๆ คน พอหลังจากแต่งงานและมีลูก จะให้ความสนใจเกือบทั้งหมดไปกับครอบครัว จนบางครั้งทำให้ละเลยการดูแลตัวเอง
“คือจริงๆ มันก็แล้วแต่นะ แล้วแต่ความชื่นชอบส่วนบุคคล สำหรับบางคนเขาก็ให้ความสำคัญกับบางเรื่อง มากกว่าตัวเอง แต่สำหรับนิดหน่อยแล้ว นิดหน่อยมองว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันบาลานซ์กันได้ ทั้งงาน ทั้งครอบครัว ทั้งลูก ทั้งตัวเอง รู้สึกว่าถ้าเราบาลานซ์ได้ เราแบ่งเวลาให้ถูกเนี่ย มันพอนะ มันทำได้”
ถ้าติดตามจากอินสตาแกรม จะเห็นเลยว่านิดหน่อยมีหลายบทบาทในชีวิต อยากทราบว่ามีวิธีการจัดสรรเวลาอย่างไร
“ต้องแบ่งเวลาหนักมากเลยค่ะ (หัวเราะ) เพราะชีวิตมีหลายบทบาทมากจริงๆ อย่างการเป็นแม่ ซึ่งอันที่จริง ลูกชายเนี่ย 10 ขวบแล้ว ก็ถือว่าค่อนข้างโตแล้วแหละ แต่เราก็ยังรู้สึกว่าต้องให้เวลากับเขาอยู่ดี อย่างตอนช่วงเย็นเราต้องแบ่งเวลาให้เขา มาดูการบ้าน มาวิ่ง มาเล่น มาทำกิจกรรมด้วยกัน อย่างน้อยก็สามวันต่อสัปดาห์ ยังไงต้องหาเวลาให้ได้ แต่เรื่องอีเว้นเนี่ย มันก็คือหน้าที่การงานเราเนอะ แต่ก็ต้องเลือกเอางานที่เรารู้สึกว่า งานนี้ ไม่ไปไม่ได้ ก็อาจจะเลือกสักอาทิตย์ละงาน เพราะเราเองก็ต้องแบ่งเวลาให้พาร์ทอื่นของชีวิตด้วย แต่ถ้าช่วงไหนยุ่งมากจริงๆ อย่างช่วงที่ทำคอลเล็กชั่น ก็จะต้องแจ้งเขาว่าไปไม่ได้จริงๆ คือต้องมีการปฏิเสธไป”
เวลาไปเที่ยว มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
“คือครอบครัวเราชอบไปเที่ยวกันอยู่แล้ว เพราะทั้งเราทั้งสามีทำงานกันหนัก เวลาไปพักผ่อนทีนึง ก็จะไปประมาณสองสัปดาห์ เราก็จะคุยกันว่าอยากไปไหน ก็จะพลัดกันตามใจ ทริปนี้เอาที่เราอยากไป ทริปถัดไปเอาที่สามีอยากไป พอใกล้จะไป เราก็จะมาวางแผนกัน ซึ่งความสุขของการท่องเที่ยวเนี่ย มันก็ไม่ใช่แค่ตอนเที่ยวจริงๆ แต่มันเริ่มตั้งแต่ตอนเราคิดจะไป ตอนหาข้อมูล วางแผนต่างๆ นอกจากนี้เรื่องชุดก็สำคัญ นิดหน่อยเป็นคนตามธีม ไม่ว่าจะไปประเทศไหน เราต้องแต่งตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมเขา ก็จะต้องมีการทำการบ้านก่อนไปเที่ยว ดูว่าภูมิประเทศเป็นอย่างไร ควรแต่งตัวสไตล์ไหนดี เราก็จะเตรียมตัวให้พร้อม เตรียมชุดให้ครบ เพราะเราเป็นคนตัวเล็ก หาชุดยาก จะไปตายเอาดาบหน้าไม่ได้”
ดูจากรูปในอินสตาแกรม นิดหน่อยจะไม่ค่อยยิ้ม ดูเป็นผู้หญิงเท่ห์และเซ็กซี่มากกว่า อยากทราบว่าในชีวิตจริงยิ้มบ่อยไหม และจริงๆ แล้วเป็นคนนิสัยอย่างไร
“ที่จริงแล้วเป็นคนเฟรนด์ลี่มากๆ มากจริงๆ คือเป็นคนที่อะไรก็ได้เลย ถ้าเป็นคนรู้จักกันจริงๆ จะรู้ ไม่ได้ขรึมแบบในรูปเลย เป็นคนตลกและสนุกสนานมาก”
มีอะไรบ้างที่คิดว่าฟอลโลเวอร์ของ @Littledelight ยังไม่รู้
“สำหรับคนที่ไม่ได้รู้จักกันจริงๆ น่าจะไม่รู้ว่านี่เป็นคนตลก เพราะเป็นคนตลกจริงๆ เลยแหละ คนอื่นน่าจะคิดว่าเปรี้ยว เซ็กซี่ เฟียซ อะไรแบบนี้ ออกแนวนางร้ายนิดๆ หรือเป็นคุณนาย แต่จริงๆ ก็เนี่ยแหละ ไม่ใช่เลยค่ะ เป็นคนตลกมาก”
นิดหน่อยมีไอดอลเป็นใคร
“ถ้าคนไทยนะ ชอบพี่สู่ขวัญ บูลกุล ซึ่งอันที่จริงส่วนตัวก็รู้จักกับพี่สู่ขวัญนะ คือรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่บาลานซ์ชีวิตเก่ง ก็เลยรู้สึกชอบมาก เพราะเราชอบผู้หญิงทำงาน ชอบที่เขามีครอบครัวแล้ว และสามารถดูแลลูก ดูแลสามีได้เป็นอย่างดี คือประสบความสำเร็จในทุกด้าน แต่ถ้าเป็นเมืองนอกชอบ วิคตอเรีย เบ็คแฮม ก็เหมือนกันเลย เขาบาลานซ์เก่ง ทำงาน เป็นเวิร์กกิ้งวูแมนมากๆ ในขณะที่สามีเป็นเดวิด เบ็คแฮม คือ จะเก่งไปไหน”
มองว่าตัวเองคือเจ้าหญิงดิสนีย์คนไหน
“เอาจริงๆ เลยนะ เป็นทิงเกอร์เบลล์ แต่คงไม่มีใครรู้หรอก ว่าเราเป็นทิงเกอร์เบลล์ ทุกครั้งที่มีงาน แล้วธีมเป็นดิสนีย์ จะพูดตลอดเลยว่า ฉันจะเป็นทิงเกอร์เบลล์ ซึ่งเราว่า มันตรงกับเราที่สุดแหละ แต่คนอื่นจะไม่ค่อยรู้ คือตัวเล็กด้วย น่ารักด้วย บินๆ อะไรแบบนี้”
Story by Sirima Themkaew
WATCH
