หากคุณเป็นสาวกตัวยงของแบรนด์ Gucci หลายวันที่ผ่านมานี้คุณอาจได้เห็นเจ้าหมียักษ์ตัวเบิ้มท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ และอาจคิดไปว่านี้เป็นโปรเจกต์ที่เชื่อมโยงกับไอดอลหนุ่มเกาหลีอย่าง “Kai” จากวง EXO หรือเปล่า คำตอบคือใช่! เพราะเจ้าหมี Gucci Bear Balloon ผลงานศิลปะขนาดใหญ่ 6 เมตรนี้เป็นส่วนหนึ่งที่มาจากคอลเล็กชั่นมาแรงอย่าง KAI x Gucci นั่นเอง แล้วทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกันอย่างไรบ้างตามโว้กไปอ่าน 5 เรื่องน่ารู้ของเจ้าหมียักษ์ตัวนี้กัน

 

1.

เจ้าหมี Gucci Bear Balloon ตัวนี้เชื่อมโยงมาจาก KAI x Gucci คอลเล็กชั่นสุดฮอตที่กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ในชั่วข้ามคืน เพราะหลังแบรนด์มอบตำแหน่ง Global Brand Ambassador อายแวร์ให้กับหนุ่มไคไปไม่นานเท่าไหร่ ครีเอทีฟไดเรกเตอร์อย่าง Alessandro Michele ก็ดึงตัวไอดอลหนุ่มคนนี้มาร่วมงานต่อทันที พร้อมหยิบเอาตุ๊กตาหมีเท็ดดี้คู่หูสุดรักของหนุ่มไคมาเป็นแรงบันดาลใจสรรค์สร้างคอลเล็กชั่นนี้ขึ้น ซึ่งเจ้าหมีตัวนี้ก็เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนการเปิดตัวคอลเล็กชั่นนั่นเอง

 

2.

ตุ๊กตาหมีสูบลมตัวใหญ่นี้เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของ Gucci กับ IM Jibin ศิลปินป๊อปจากโซล เขาเป็นที่รู้จักจากการแสดงผลงานศิลปะรูปหมี Bear Balloon ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ โปรเจกต์งานศิลป์ที่มีชื่อเสียงของเขาคือ Everywhere Project ที่สร้างพื้นที่ศิลปะแบบแสดงสดโดยการนำเอา Bear Balloon ขนาดใหญ่ไปจัดแสดงตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งผลงานของเขายังเคยไปจัดที่สตรีตอาร์ตในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ในใจกลางเมืองของประเทศสวิตส์เซอร์แลนด์ หรือแม้แต่ในทะเลทรายของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็ตาม

 

3.

แต่สำหรับเจ้าหมีในโปรเจกต์ KAI x Gucci แล้วนั้นก่อนเดินทางมาถึงที่ไทยกันก็ถูกจัดอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้กับสถานที่ที่มีชื่อเสียงมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นที่ช็อปใหญ่ของแบรนด์ในโซล บนดาดฟ้าของชุมชนหนึ่ง ในสถานที่ท่องเที่ยวป่าไผ่ หรือแม้แต่แลนด์มาร์กของประเทศเกาหลีใต้อย่างนัมซานทาวเวอร์ ซึ่งงานนี้ใครตามอินสตาแกรมส่วนตัวของหนุ่มไคก็จะแอบเห็นเขาตามไปถ่ายรูปกับเจ้าหมียักษ์ตัวนี้เป็นที่ระลึกกันอีกด้วย

 

4.

เบื้องหลังการรังสรรค์หมีตัวนี้ IM Jibin กล่าวไว้ด้วยว่าผลงานศิลปะรูปหมีขนาด 6 เมตรสีน้ำตาลตัวนี้เขาเลือกผูกโบว์ไทสีฟ้าเพราะต้องการเติมรายละเอียดของคอลเล็กชั่น KAI x Gucci ลงไปเพราะเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นนี้โดดเด่นด้วยเนื้อผ้าและโทนสีที่น่าสนใจ นอกจากนี้เจ้าหมียักษ์ยังมาพร้อมคำว่า “Hello” บนใบหน้า คำเรียบง่ายที่เป็นการทักทายเพื่อแสดงถึงความยินดีและต้องการที่จะผูกมิตร รวมถึงความต้องการที่จะนำความสุขมาให้ชาวไทยในช่วงวิกฤตการณ์นี้นั่นเอง

 

5.

อย่างที่เรากล่าวไปว่าตอนนี้เจ้าหมียักษ์ตัวนี้เดินทางมาถึงไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดย Gucci พาเขาท่องเที่ยวไปยังสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นสนามมวยราชดำเนินที่โด่งดังในไทยและในหมู่นักท่องเที่ยว สถานีรถไฟหัวลำโพงอันคึกคัก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่บ่งบอกความเป็นไทย และสถานที่สุดท้ายคือ Thara Hall ICONSIAM ที่จะมีคิวจัดแสดงยาวไปจนถึง 30 เมษายน 2564 เพื่อเป็นการต้อนรับการเปิดตัวคอลเล็กชั่น KAI x Gucci อีกด้วย

งานนี้สาวกห้ามพลาดตามไปเช็คอินถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนเจ้าหมีตัวนี้จะเดินทางกลับภายในวันที่ 30 เมษายน 2564 ณ Thara Hall ICONSIAM และอย่าลืมปักหมุดกับประเทศไทยรอชมการเปิดตัวคอลเล็กชั่นสุดฮอต KAI x Gucci กันได้ในวันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564