หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มทำให้สังคมวิ่งเข้าสู่ความปกติรูปใหม่ในแบบฉบับของแต่ละแง่มุม โลกแฟชั่นก็เช่นกัน เราเห็นแฟชั่นวีกของเมืองมิลานแบบดิจิทัล มีการนำเสนอคอลเล็กชั่นผ่านเทคโนโลยีออนไลน์ สัปดาห์นำเสนอคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ก็เช่นกัน ทว่าบางแบรนด์ก็ยังเลือกจัดแฟชั่นโชว์ให้ผู้ชมได้ชมกันทั้งในโชว์จริงและในโลกเสมือน ทว่าช่วงแฟชั่นวีกประจำเมืองเฮลซิงกิ หรือ “Helsinki Fashion Week” เปิดมิติใหม่ของแฟชั่นวีกในโลกยุค “Post COVID-19” ได้อย่างน่าตื่นเต้น เพราะยังจัดโชว์เหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือโชว์ทั้งหมดใช้เทคโนโลยี 3 มิติเพื่อนำภาพบันทึกทั้งหมดถ่ายทอดส่งตรงถึงคนดูที่หน้าจอ

     สัปดาห์แฟชั่นประจำเมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์นี้จับมือกับแบรนด์ต่างๆ ที่จะเปิดโชว์ในฤดูกาลล่าสุดนี้ให้มุ่งไปสู่การทำโชว์ “cyberspace utopia” บนแพลตฟอร์ม Digital Village แบบเต็มตัว ความแปลกใหม่ทำให้หลายคนจินตนาการแทบไม่ออกว่าแฟชั่นวีก 3 มิติออนไลน์ที่ว่าจะมีหน้าตาออกมาเป็นอย่างไร สิ่งนี้การันตีถึงการเว้นระยะห่างแน่นอนเพราะทุกคนไม่ต้องเสี่ยงเดินทางมารวมตัวกันเพื่อชมโชว์ ณ เมืองแห่งนี้ แต่ทุกคนจะได้เสพแฟชั่นโชว์ผ่านหน้าจอในรูปแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

     แบรนด์แฟชั่นกว่า 15 แบรนด์จับมือกับเหล่าดีไซเนอร์ศิลปะแบบ 3 มิติเพื่อออกแบบโชว์สุดพิเศษครั้งแรกนี้ นางแบบ-นายแบบทุกคนจะไม่ใช่แค่การสร้างหน้าเสมือนผ่านคอมพิวเตอร์เท่านั้น เพราะทีมงานเลือกสแกนใบหน้าของมนุษย์จริงๆ เพื่อนำสร้างสรรค์ต่อจนเกิดเป็นแบบดั่งคนจริงบนโลกเสมือนแห่งนี้ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวของแบบดูสมจริงและทำให้รายละเอียดของเสื้อผ้าถูกนำเสนออย่างครบถ้วน ไล่ตั้งแต่เรื่องซิลูเอตไปจนถึงความเป็นจริงขณะเคลื่อนไหว ทั้งหมดนี้ทำให้แฟชั่นโชว์ 3 มิติจึงไม่ใช่แค่วิดีโอแฟชั่นธรรมดาอย่างที่มีเสียงสบประมาทก่อนหน้านี้ว่า “เดี๋ยวมันก็ออกมาดูง่ายและซ้ำกัน”

     คงไม่ใช่แค่ผู้และผู้จัดที่ตื่นเต้น แต่เหล่าดีไซเนอร์เจ้าของผลงานต่างๆ ก็ลุ้นไม่ต่างกันว่าผลงานของพวกเขาจะออกมาน่าสนใจตามความตั้งใจหรือไม่ ทั้งหมดเห็นตรงกันว่าสิ่งนี้มันได้ผล และแน่นอนว่ามันจะกลายเป็นทางเลือกใหม่ในการนำเสนอคอลเล็กชั่น Evelyn Mora ผู้ก่อตั้งโครงการเฮลซิงกิแฟชั่นวีกนั้นระบุว่า “มันคือทางเลือกใหม่ ถ้าคุณมีการแสดงคอลเล็กชั่นแบบดั้งเดิมก็ต้องมีแผนรองรับของมัน แต่คุณก็ไม่ควรจะแค่คัดลอกและแปะลงบนแพลตฟอร์มดิจิทัล มันควรจำเพาะเจาะจงกว่านั้น คุณสามารถเสาะหาโอกาสใหม่ๆ ในโลกออนไลน์ผ่านกลยุทธ์ใหม่ๆ เช่นกัน” สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าต่อไปในอนาคตเราอาจได้เห็นโชว์ออนไลน์ซึ่งน่าติดตามไม่แพ้การเดินบนรันเวย์จริงๆ และการทำโชว์ออนไลน์จะไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่จะกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ใช้เป็นเกณฑ์วัดคุณภาพของดีไซเนอร์และแบรนด์ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ