เป็นที่ทราบกันดีว่า หลังจากย้ายสถานพำนักหลักจากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ไปอยู่ในสหรัฐอเมริกาเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งครอบครัวซัสเซกซ์พร้อมได้รับการดูแลอย่างดีจากไทเลอร์ เพอร์รี่ ที่ได้ให้เจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิลนั้นเช่าคฤหาสน์หรูในการใช้เป็นที่พักอาศัยหลักของทั้ง 3 คน พ่อ แม่ ลูก หรือแม้แต่ล่าสุดที่กลายเป็นกระแสบนโซเชียลมีเดียทันที เมื่อดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ได้เผยแพร่วิดีโอขนาดสั้น ขณะที่กำลังนั่งอ่านวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง Duck! Rabbit! สร้างรอยยิ้มให้กับลูกชายอาร์ชี่อย่างเรียบง่าย ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปีแรก กระนั้นการอพยพไปอยู่อเมริกาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ และมีจุดประสงค์สำคัญเพื่อหลีกหนีข่าวเสียหายจาสำนักข่าวไร้จรรยาบรรณ ก็ยังมิวายยังคงมีกระแสข่าวเสียหายออกมาเป็นระลอก ไม่ต่างจากครั้งที่ทั้งคู่ยังใช้ชีวิตอยู่ในวัง กระนั้นล่าสุด หลังจากที่ปล่อยให้เหล่านักข่าวตีแผ่ ขุดคุ้ยข่าวเสียหายมาตลอดหลายปี ตอนนี้ก็ถึงเวลาของดยุก และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์อีกครั้ง ที่จะขอทวงคืนความยุติธรรมของตัวเองคืน...

     หลังจากที่เดินหน้าฟ้องแทบลอยด์อังกฤษทั้ง 4 หัวไปแล้วอย่างเป็นทางการ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์สำนักข่าวในอังกฤษ และสหรัฐอเมริกายังได้รายงานข่าวสุดเซอร์ไพรส์ตรงกันว่า สำนักพิมพ์ฮาร์เปอร์คอลลินส์ ได้มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการยืนยันการตีพิมพ์หนังสือกึ่งชีวประวัติในชื่อ “Finding Freedom: Harry and Meghan and the Making of Modern Royal Family” โดยหนังสือดังกล่าวจะเป็นหนังสือแนวชีวประวัติตีแผ่ชีวิตเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ที่ได้รับการเขียนขึ้นโดย Omid Scobie และ Carolyn Durand สองผู้สื่อข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวพระราชสำนักชื่อดัง โดยหนังสือดังกล่าวมีกำหนดวางแผงในวันที่ 11 สิงหาคมที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน

     ความน่าสนใจของหนังสือกึ่งชีวประวัติเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่เพียงการตีแผ่เล่าเรื่องชีวิตของทั้งคู่หลังจากเสกสมรส และได้เป็นที่รู้จักในฐานะของดยุก และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์แล้วเท่านั้น ทว่าทางคาโรลีนหนึ่งในผู้ร่วมเขียนหนังสือดังกล่าวยังได้ให้ข้อมูลต่อไปว่า “เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ได้แรงบันดาลใจ และมีการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข่าววงใน ที่ใกล้ชิดคนทั้งคู่ที่สามารถเชื่อถือได้ เพื่อเป็นการให้ความชัดเจนต่อกระแสข่าวลือมากมายที่เคยกลายเป็นพาดหัวข่าวใหญ่ไปทั่วโลก โดยมีจุดประสงค์เพื่อฉายภาพที่แท้จริงของเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ที่ทั้งคู่เป็นดั่งแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลกด้านมนุษยธรรม ผ่านการทำงานการกุศลมากมายที่ใครหลายคนทราบดี ไปจนถึงอีกด้านที่เป็นข้อเท็จจริงของข่าวลือมากมายที่สื่อหลายสำนักต่างพากันประโคม และโจมตีทั้งคู่ในช่วงปีที่ผ่านมา”

     หลายคนที่เป็นแฟนคลับราชวงศ์วินด์เซอร์ ก็คงจะเป็นที่คุ้นกันดีกับสงครามสื่อเมื่อครั้งหนึ่งที่ไดอาน่า สเปนเซอร์ เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ยังได้เคยยืมมือนักข่าวคนสนิทเขียนเรื่องราวแฉความลับ และชีวิตที่ไม่เป็นดั่งฝันในรั้ววัง จนกลายเป็นกระแสตีกลับราชวงศ์มาแล้วในชื่อ “Diana and Her True Story” และดูเหมือนว่าครั้งนี้สงครามสื่อผ่านหนังสือของสมาชิกราชวงศ์กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง และหนังสือเรื่องดังกล่าวจะเดินทางซ้ำรอยเดิมจนทำให้ราชวงศ์วินด์เซอร์ปวดหัวจนต้องกุมขมับเหมือนเมื่อครั้งไดอาน่าหรือไม่นั้น คงต้องรอติดตาม...