“กระแสอยู่ไม่นานตำนานจะอยู่ตลอดไป” คำนี้คงนิยามความพิเศษของ Daft Punk ได้เป็นอย่างดี เพราะตอนนี้ตำนาน 28 ปีของ Thomas Bangalter และ Guy-Manuel de Homem-Christo คู่หูชาวฝรั่งเศสผู้ผลิตดนตรีคุณภาพพร้อมปลุกกระแสเทรนด์อิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ยุคใหม่ ตอนนี้พวกเขาประกาศแยกทางยุติบทบาทคู่หูสุดเหวี่ยงของยุคแล้ว การซ่อนตัวภายใต้คอนเซปต์หุ่นยนต์พร้อมเสื้อผ้าชนิดจัดเต็มครบทุกองค์ประกอบทำให้เราจดจำดาฟต์พังก์ได้ดีไม่เคยลืม การประกาศครั้งนี้ช็อกโลกดนตรีและแฟชั่นอย่างมากเพราะตลอดเกือบ 3 ทศวรรษศิลปินคู่นี้ผลิตชิ้นงานรวมถึงภาพจำต่างๆ จนสามารถระบุได้ว่าพวกเขาคือ “ตำนาน”

     ล่าสุดทั้งคู่ปล่อยชิ้นงานสุดท้ายในนามดาฟต์พังก์ด้วยวิดีโอ “Epilogue” ความยาวกว่า 8 นาทีที่เผยให้เห็นถึงความบาดลึกกินใจที่มีผู้หนึ่งกดระเบิดเวลาถอยหลังและอีกซีกหนึ่งของวงอันตรธานหายไปแบบยากที่จะหวนคืน พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า แสงสุดท้ายระบุว่ามันคือจุดสิ้นสุดของคู่ดนตรีแห่งประวัติศาสตร์ “1998-2021” คือข้อความสุดท้ายตอกย้ำหัวใจแฟนเพลงและสาวกแฟชั่นว่านี่คือจุดสิ้นสุดของคู่หูที่สร้างโลกใหม่ให้กับโลกใบนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ ความทรงจำเกี่ยวกับทั้งคู่หวนคืนให้เรารำลึกถึงตลอด 28 ปีที่พวกเขารังสรรค์ความพิเศษให้กับโลกใบนี้อยู่เสมอ

Daft Punk ยุควินเทจที่สะท้อนความจัดจ้านมานานนับทศวรรษ / ภาพ: Seb Janiak/Fred Torres Collaborations

     แม้จะทำเพลงหลากหลายรูปแบบและได้รับคำวิจารณ์ด้านลบมาตั้งแต่ต้นยุค ‘90s แต่พวกเขาไม่เคยยอมแพ้ผลักดันตัวเองต่อในเส้นทางดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ พวกเขาพยายามอย่างมากในการเนรมิตสิ่งที่รักให้พุ่งสู่จุดสูงสุด หลังจากค้นพบทางของตัวเองในช่วงกลาง-ปลายยุค ‘90s ดาฟต์พังก์ก็เร่งเครื่องอย่างต่อเนื่องสู่การเป็นศิลปินเต็มตัว ต้องยอมรับว่าพวกเขาคือผู้เบิกทางของสายอิเล็กทรอนิกส์อย่างแท้จริง ซึ่งอย่างที่เราเห็นกันว่ากระแสอีดีเอ็มมาแรงสุดขีด ถ้าจะย้อนขอบคุณใครสักคนที่ปลุกกระแสนี้ขึ้นมาแบบเป็นรูปเป็นร่างปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าก็ต้องดาฟต์พังก์นี้เอง

Daft Punk กับแฟชั่น Saint Laurent ภายใต้การนำทัพของ Hedi Slimane ที่เขย่าวงการแฟชั่นควบดนตรีอยู่ไม่น้อย / ภาพ: Courtesy of Saint Laurent

     พวกเขาไม่เคยหยุดอยู่ที่เดิม คำจำกัดความของ “อิเล็กทรอนิกส์” ที่เน้นการใช้เสียงเสมือนผ่านคอมพิวเตอร์ในการสร้างสรรค์ไม่ใช่ขอบเขตที่ขีดเส้นให้ดาฟต์พังก์ พวกเขากล้าจะใช้ดนตรีสดเพื่อสร้างอิเล็กทรอนิกส์ของจริงขึ้นมา อัลบั้ม “Random Access Memories” จึงถือว่าสดใหม่อย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับเพลง “Get Lucky” ที่สร้างกระแสกระหึ่มไปทั่วโลก จนดันให้อัลบั้มดังกล่าวก้าวสู่จุดสูงสุดด้วยการคว้ารางวัลมากมายทั่วโลก รวมถึงรางวัลใหญ่อย่างรางวัลแกรมมีที่ศิลปินทั่วโลกใฝ่ฝันและโหยหามันมาทั้งชีวิต สำหรับคู่หูคู่นี้มันคือยอดปีระมิดที่เป็นเครื่องการันตีว่าหลังจากความพยายามอันแสนสาหัสพวกเขาคือของจริง