Britney Spears คือนักร้องเซเลบริตี้สาวสุดอมตะคนหนึ่งของโลก หลายคนต่างคิดถึงลีลาการแสดงคอนเสิร์ตและมิวสิกวิดีโออันเร่าร้อน แต่ปี 2019 และอนาคตข้างหน้าเราอาจจะไม่ได้เห็นภาพนั้นจากสาวเซ็กซี่พันปีคนนี้อีกแล้ว ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเธอจะกลับมาเล่นคอนเสิร์ตในลาสเวกัสตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และมันก็ถูกเลื่อนมาเรื่อย ๆ คนที่จะตอบข้อสงสัยได้ดีที่สุดคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก Larry Rudolph ผู้จัดการวัย 55 ปีที่ดูแลบริทนีย์มาอย่างยาวนาน ครั้งนี้การแถลงของรูดอล์ฟมันไม่ใช่แค่เหตุผลการเลื่อนคอนเสิร์ตเท่านั้น แต่มันคือข้อมูลที่อาจทำให้หลายคนโดยเฉพาะแฟนคลับตัวยงถึงกับช็อค!

Britney Spears กับใบหน้าอันโรยรายขณะมีปัญหาด้านสุขภาพจิต / ภาพ: Page Six

     ครั้งที่แล้วนักร้องสาววัย 37 เลื่อนคอนเสิร์ตเพราะเหตุผลด้านสุขภาพจิต ครั้งนี้การประกาศมันเหมือนหักอกแฟนที่เฝ้ารอคอยตัวแม่คนนี้กลับมา “ในฐานะที่เป็นคนดูแลบริทนีย์มาตลอดเส้นทางอาชีพ จากข้อมูลพื้นฐานในทุก ๆ ด้านของเธอ มันชัดเจนมากว่าเธอไม่พร้อมสำหรับโชว์ที่ลาสเวกัส เธอไม่ควรจะกลับไปโชว์ที่ลาสเวกัส ไม่ใช่อนาคตอันใกล้ไม่แน่บริทนีย์อาจจะไม่ได้กลับมาแสดงอีกเลยด้วยซ้ำ” จริง ๆ แล้วทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้ต้องเริ่มในวันที่ 13 กุมภาพันธ์และไปสิ้นสุดช่วงเดือนสิงหาคม แต่ปัญหาด้านจิตใจของบริทนีย์ผลพวงจากอาการป่วยของคุณพ่อทำให้เธอก็แย่ตามลงไปแลร์รีกล่าวว่า “ถ้าเธอต้องการแสดงเธอจะโทรหาผม หน้าร้อนที่แล้วเธอแทบจะโทรหาผมทุกวัน แต่ช่วงก่อนหน้านี้เธอไม่ติดต่อผมมาเป็นเดือนแล้ว มันค่อนข้างชัดเจนนะว่าเธอไม่อยากขึ้นเล่น”

Britney Spears และ Larry Rudolph ผู้จัดการคนสนิท / ภาพ: Gabe Ginsberg

     แหล่งข่าวอย่าง TMZ สัมภาษณ์แลร์รีเขาก็บอกว่า “ผมไม่อยากให้เธอทำงานจนกว่าเธอจะพร้อมทั้งเรื่องร่างกาย จิตใจและแพชชั่นที่มีต่องาน ถ้าช่วงเวลาเหล่านั้นไม่เกิดขึ้นโชว์ก็จะไม่เกิดขึ้น ผมไม่มีอำนาจอะไรจะไปจูงใจให้เธอกลับมางานนี้หรอก ผมก็จะอยู่ในจุดที่พร้อมเสมอเมื่อเธออยากทำงาน และเมื่อเธอคิดว่าอยากกลับมาแสดงผมก็มีหน้าที่แค่บอกว่ามันเป็นไอเดียที่ดีหรือแย่แค่นั้น” มันค่อนข้างคอนเฟิร์มได้ว่าบริทนีย์จะไม่กลับมาโชว์ให้แฟน ๆ หายคิดถึงในเร็ววันในเมื่อสภาพตัวเธอยังเป็นเช่นนี้ และที่สำคัญข่าวที่ว่ามันออกมาจากปากของผู้จัดการที่อยู่เคียงข้างนักร้องสาวเซเลบริตี้คนนี้มาเป็นสิบปี เราได้แค่หวังว่าบริทนีย์จะกลับมาดีขึ้นและสร้างสีสันให้กับวงการเพลงของโลกอีกครั้ง