FASHION

1 ปีที่เปลี่ยนไป...เมื่อโลกไม่มีตำนานดีไซเนอร์ชื่อ 'Karl Lagerfeld'

     “ฝีมือ ชื่อเสียง ความสำเร็จ” สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมสถานะตำนานให้กับดีไซเนอร์คนสำคัญในประวัติศาสตร์แฟชั่นอย่าง Karl Lagerfeld มาเสมอ ในวันที่ทั่วโลกทราบข่าวว่าเขาได้จากโลกนี้ไปในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2019 ด้วยวัย 85 ปี แวดวงแฟชั่นตกอยู่ในสภาวะช็อก หลังจากนั้นความเงียบสงัดและความรู้สึกใจหายเข้ามาแทนที่ ไม่มีอีกแล้วผลงานการรังสรรค์จากฝีมืออัจฉริยะคนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกแฟชั่นยังคงต้องดำเนินต่อไป เพียงแต่ว่า “มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว” วันนี้เราจะพาทุกคนย้อนรอยว่า 1 ปีที่ผ่านมาหลังจากตำนานคนนี้เสียชีวิตลงวงการแฟชั่นเกิดอะไรขึ้นบ้าง

 

เหตุการณ์รำลึกแบบฉับพลัน…

ลุคแรกของ Fendi คอลเล็กชั่นฤดูใบร่วง/ฤดูหนาว 2019 และ Penélope Cruz ถูกกุหลาบสีขาวเพื่อรำลึกถึงของ Karl Lagerfeld ในโชว์ Chanel จากคอลเล็กชั่นฤดูหนาวเช่นกัน / ภาพ: Courtesy of Fendi - Dominique Charriau

     แน่นอนการจากไปครั้งนี้คือเรื่องใหญ่ที่สำคัญกับคนทั้งโลกไม่ใช่แค่แวดวงแฟชั่น เพราะเขาเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของโลกแฟชั่นตั้งแต่ยุคเปลี่ยนผ่านถึงยุคใหม่ ข่าวทุกช่องทั่วโลกต่างรายงานข่าวใหญ่นี้  ไม่กี่วันหลังจากนั้นในช่วงมิลานแฟชั่นวีก Fendi มีคิวโชว์คอลเล็กชั่น Fall/Winter 2019 พอดิบพอดี โชว์นี้จึงกลายเป็นโชว์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์โศกเศร้าทำเอาหลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ อีกสัปดาห์ต่อมาก็มีซีนอารมณ์อย่างต่อเนื่องเมื่อ Chanel จัดโชว์ที่ปารีสแฟชั่นวีก หมู่บ้านสกีอันหนาวเหน็บก็มิอาจเทียบกับความหนาวเมื่อขาดอุ่นไอรักแฟชั่นของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์  เพื่อนต่างวัยอย่าง Penélope Cruz รำลึกถึงดีไซเนอร์สมองเพชรคนนี้ด้วยรอยยิ้มแสดงความรักพร้อมดอกกุหลาบสีขาวในมือ ถือเป็นการรำลึกที่ไม่ได้ตระเตรียมแบบมีพิธีรีตองนักแต่มันคือความรู้สึกที่เอ่อล้นในใจทุกคนจนต้องปลดปล่อยออกมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเพื่อแสดงความรักต่อคาร์ล...

 

คนที่ไม่มีทางถูกลืม...เพราะเขาจะอยู่ในใจตลอดไป

บรรยากาศความยิ่งใหญ่ในงาน Karl For Ever / ภาพ: Courtesy of Chanel

     หลังจากแบรนด์ดังและเหล่าคนแฟชั่นร่วมไว้อาลัยแด่การจากไปครั้งสำคัญนี้เว้นไปนานถึง 4 เดือนจึงมีการจัดงาน “Karl For Ever” ขึ้นมาในวันที่ 20 มิถุนายน 2019 ซึ่งถือเป็นการรำลึกถึงดีไซเนอร์ยอดฝีมือ งานนี้ถือเป็นงานรำลึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการจับมือของแฟชั่นเฮาส์ 3 แห่งที่คาร์ลรับบทเป็นหัวเรือใหญ่ทั้งชาเนล เฟนดิ และแบรนด์ของตนเอง โดยงานครั้งนี้จัดขึ้นที่กรองด์ ปาเลส์สถานที่จัดโชว์ประจำของชาเนลที่คาร์ลมักสร้างปรากฏการณ์เซตติ้งอลังการไว้ที่นี่เสมอ คราวนี้ชื่อและใบหน้าของเขาติดอยู่ทั่วโถงขนาดยักษ์ แขกทั้งหลายได้ชมวิดีโอบทสัมภาษณ์ เบื้องหลัง และความรู้สึกสุดพิเศษ พร้อมการแสดงต่างๆ เพื่อรำลึกถึงเขา การจากไปของคาร์ลจะไม่ใช่การสูญสลายหายไปเพียงแต่เขาย้ายเข้ามาอยู่ในใจของทุกๆ คนแทน

 

แบรนด์เปลี่ยนมือผู้ควบคุมแฟชั่นผู้หญิงจากมือลูกคนที่ 6 กลับสู่มือทายาทสายเลือดแท้จริงของตระกูลเฟนดิอีกครั้ง



WATCH




Karl Lagerfeld ผู้ได้รับการขนานนามว่าลูกคนที่ 6 ของตระกูลถ่ายภาพร่วมกับพี่น้องตระกูล Fendi / ภาพ: Mame Fashion Dictionary

     เป็นเวลากว่า 54 ปีที่แบรนด์เฟนดิมีผู้อำนวยการสร้างสรรค์ชื่อคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ย้อนกลับก่อนหน้านั้นผู้ก่อตั้งแบรนด์ Adele และ Edoardo Fendi  ได้เปิดร้านเสื้อผ้าขนสัตว์และเครื่องหนังกลางกรุงโรมในปี 1925 หลังจากนั้นปี 1946 ลูกสาว 5 ใบเถาของตระกูลเฟนดิทั้ง Paola, Anna, Franca, Carla และ Alda มารับช่วงการบริหารและพัฒนาแบรนด์ให้ก้าวขึ้นอีกระดับก่อนที่ปี 1965 คาร์ลจะมารับตำแหน่งผู้กุมบังเหียนงานออกแบบมาตลอด ด้วยระยะเวลาประกอบกับความสนิทชิดเชื้อกับตระกูลเฟนดิ ดีไซเนอร์หนุ่ม(ณ ขณะนั้น) มักถูกขนานนามว่าลูกชายของเฟนดิหรือลูกคนที่ 6 ของตระกูลอยู่เสมอ เป็นเวลายาวนานมากที่เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของลูกชายนอกสายเลือดคนนี้ แต่เมื่อเขาสิ้นลมหายใจหน้าที่ความรับผิดชอบคอลเล็กชั่นผู้หญิงอันโดดเด่นของเฟนดิก็กลับคืนสู่มือสายเลือดที่แท้จริงอีกครั้งโดยมี Silvia Venturini Fendi ทายาทรุ่นที่ 3 มารับช่วงต่อจวบจนปัจจุบัน ปิดตำนานลูกคนที่ 6 ของเฟนดิ แต่ถ้ายังมีคนเรียกเช่นนี้อยู่ครอบครัวเฟนดิคงไม่ติดใจอะไรเพราะคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์มอบแรงกายแรงใจให้เฟนดิมามากกว่าครึ่งศตวรรษ สำหรับสาวกเฟนดิและครอบครัวแล้วมันช่างยิ่งใหญ่เกินคำบรรยาย

 

จากผู้ช่วยสู่ตำแหน่งหัวเรือใหญ่ หน้าที่และความคาดหวังอันหนักอึ้งของ Virginie Viard

โชว์ Chanel คอลเล็กชั่นแรกภายใต้การกำกับดูแลของ Virginie Viard แบบเต็มรูปแบบ / ภาพ: Vogue Runway

     เมื่อคอลเล็กชั่นหมู่บ้านหิมะในช่วงฤดูหนาวของปี 2019 เป็นคอลเล็กชั่นส่งท้ายของคาร์ล ณ ห้องเสื้อชาเนล คนวงในคาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่าเวอร์ฌินี วิอารด์มือขวาของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์จะขึ้นมารับไม้ต่อในฐานะหัวเรือใหญ่แห่งชาเนลคนต่อไป ด้วยความคาดหวังระดับชนเพดานประกอบกับประสบการณ์ครั้งแรกในการขึ้นรับตำแหน่งใหญ่เช่นนี้ทำให้นักวิจารณ์มองว่าเธออาจจะต้องเอาชนะความกดดันด้วยความสามารถที่มีอยู่มากกว่าแค่การออกแบบเสื้อผ้าปกติทั่วไป การอยู่ใต้ร่มเงาของคาร์ลพร้อมกับเป็นลูกหม้อที่แบรนด์ชั้นยอดจากฝรั่งเศสแห่งนี้มาอย่างยาวนานยิ่งทำเพิ่มแรงกดดันขึ้นแบบทวีคูณ และแล้วช่วงปารีสแฟชั่นวีกประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2019 คอลเล็กชั่นแรกภายใต้กำกับดูแลเต็มตัวของเวอร์ฌินีก็เผยสู่สายตาสาธารณชน รากลึกความเป็นสาวชาเนลที่อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอยังคงแผ่กระจายในทุกลุค เพียงแต่เธอเลือกลดทอนความซับซ้อนบางอย่างออกทำให้ชาเนลในยุคผลัดใบรอบนี้ดูดูเด็กลงและมิกซ์แอนด์แมตช์ได้อย่างสนุกมากขึ้น คาร์ลคงมองลงมาจากฟ้าพร้อมยิ้มรับฝีมือการออกแบบของมือขวาคนรักว่าเธอไม่ทำให้เขาผิดหวัง ความกดดันดังกล่าวคลี่คลายลงและสาวกชาเนลก็สบายใจไปเปราะหนึ่งว่าเรดี้ทูแวร์ยังคงรักษามาตรฐานได้เช่นเคย

 

ชีวิตที่เปลี่ยนไปของแมวแสนรัก

ภาพ Choupette ช่วงต้นปี 2020 / ภาพ: @choupetteofficiel

     เป็นที่ทราบกันว่าลูกน้อยแสนรักของคาร์ลคือเจ้า Choupette แมวพันธุ์เบอร์แมนอายุย่างเข้า 9 ขวบ เมื่อคาร์ลเสียชีวิตลงลูกรักของเขาก็กลายเป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวันทั้งเรื่องมรดก ที่อยู่ และประเด็นละเอียดอ่อนต่างๆ เปรียบเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวอย่างแท้จริง  แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปคนเริ่มให้ความสนใจเจ้าแมวขนฟูไม่มากเหมือนเมื่อก่อน จนตอนนี้คนเริ่มกลับมาตั้งคำถามอีกครั้งว่า “เธอไปไหน” แท้จริงแล้วเธอไม่ได้ไปไหนไกล ตอนนี้ชูแพตต์ใช้ชีวิตอยู่กับ Françoise Caçote อดีตแม่บ้านของคาร์ลเอง แถมยังมีเอเจนต์ส่วนตัวอย่าง Lucas Bérullier ดูแลเพิ่มเติมอีกด้วย เสน่ห์ของแมวสาวตัวนี้เปลี่ยนชีวิตคาร์ลไปตลอดกาล เขาทั้งรักทั้งหลง จากเดิมคนติดภาพเขาในลุคชายเคร่งขรึมจริงจังในทุกอิริยาบถ หลังจากเขาอ้าแขนรับตัวน้อยสี่ขาเข้ามาเขากลับอ่อนโยนลงและใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงแสนรักเป็นชั่วโมงดั่งที่ Amanda Harlech ที่ปรึกษาด้านสไตล์ของดีไซเนอร์ผู้เก่งกาจระบุว่า “ชูแพตต์เปลี่ยนชีวิตเขาไปจริงๆ”

 

ดีไซเนอร์ผู้เกิดในทศวรรษ 1940 เหลือน้อยลงทุกที...

Giorgio Armani และ Ralph Lauren 2 ดีไซเนอร์รุ่นเก๋าที่ยังออกแบบผลงานให้กับแบรนด์ตัวเองอยู่จนถึงปัจจุบัน / ภาพ: Reuters - AP

     เหล่าผู้เฒ่าวัย 80 กว่า (ถ้ายังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน) ซึ่งจะเปรียบเป็นรุ่นราวคราวเดียวกับคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์พอดิบพอดี เมื่อคาร์ลเสียชีวิตลงจำนวนดีไซเนอร์ผู้เกิดในยุค ‘40s ก็ร่อยหรอลงทุกที เหลือดีไซเนอร์ชื่อดังเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ชื่อของ Sonia Rykiel, Yves Saint Laurent,  Halston, Oscar de la Renta, Emanuel Ungaro, Elio Fiorucci, Kenneth Fleetwood และอีกหลายคนได้ถูกจารึกอยู่หน้าแผ่นสลักหินในสุสานมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเมื่อปีที่แล้วดีไซเนอร์ผู้ตรากตรำทำงานหนักอย่างคาร์ลก็ตามพวกเขาขึ้นไปพักผ่อนบนสรวงสวรรค์ เพราะฉะนั้นตอนนี้ดีไซเนอร์จากยุคเดียวกันที่ยังมีชีวิตอยู่คือ Valentino Garavani และ Paco Rabanne ที่วางมือไปแล้วจึงเหลือแค่ Giorgio Armani และ Ralph Lauren เพียง 2 คนเท่านั้นที่ยังรั้งตำแหน่งหัวหน้าห้องเสื้อของตัวเองต่อไป...

 

แบรนด์คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์กับภาพจำใหม่ “เสื้อเชิ้ตขาว”

เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกวาดลวดลายจากผู้ต้องการแสดงออกเพื่อรำลึกถึงสุดยอดดีไซเนอร์คนนี้ / ภาพ: Courtesy of Karl Lagerfeld

     เมื่อคาร์ลเสียชีวิตลงเราคงได้ยินข่าวคราวจากแบรนด์ชื่อเดียวกับดีไซเนอร์ว่าจะมีโปรเจกต์ “White Shirt” หรือเสื้อเชิ้ตสีขาวให้เหล่าคนสนิททั้ง 7 คนของคาร์ลวาดลวดลายเพื่อรำลึกถึงดีไซเนอร์คนนี้และนำออกขายในราคาพิเศษ 777 ยูโร จำกัดเพียง 77 ตัวต่อเวอร์ชั่นเท่านั้น รายได้นำไปบริจาคให้กับ “Sauver la Vie” โครงการการกุศลเกี่ยวกับงานวิจัยทางการแพทย์ และมีเซเลบริตี้จากทั่วโลกอีก 50 คนมีโอกาสออกแบบลายบนเสื้อเชิ้ตขาวเพื่อรำลึกถึงคาร์ลเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าชิ้นงานของ 50 คนนี้ไม่ได้ถูกนำมาขาย ซึ่ง 1 ใน 50 คนนั้นมีชื่อของ ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ อยู่ในลิสต์รายชื่อด้วย หลังจากดำเนินโปรเจกต์นี้มาสักระยะหนึ่งแบรนด์ต้องการให้ภาพจำของแบรนด์ผูกโยงอยู่กับชื่อและคาแรกเตอร์ของคาร์ลอยู่เสมอ เสื้อขาวคือคำตอบเชิงรูปธรรมที่เห็นได้ชัดที่สุด นั่นคือเหตุผลที่เสื้อเชิ้ตขาวทั้งซีรี่ส์พิเศษรวมถึงเสื้อเชิ้ตขาวหลากดีไซน์จะกลายเป็นแกนหลักของแบรนด์ต่อไปในอนาคต พวกเขากำลังจะบอกว่า “เมื่อนึกถึงคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ก็ต้องนึกถึงสัญลักษณ์ประจำกายอย่างเสื้อเชิ้ตสีขาวนี่ล่ะ” ตอกย้ำได้อย่างดีว่าอัจฉริยะผู้คร่ำวอดในวงการมาเป็นเวลากว่าค่อนศตวรรษมีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นเพียงใด ไม่น่าเชื่อว่าชิ้นไอเท็มเบสิกที่สุดในตู้เสื้อผ้าทั้งชาย-หญิงจะกลายเป็นซิกเนเจอร์ไอเท็มในแบบที่ใครเอ่ยชื่อคาร์ลต้องนึกถึง

 

     นี่คือสิ่งที่ดีไซเนอร์ผู้ล่วงลับหลงเหลือไว้ให้รุ่นหลัง ภายในระยะเวลา 1 ปีอิทธิพลของคาร์ลแม้จะไม่มีชีวิตอยู่แล้วกลับสร้างปรากฏการณ์ให้คนพูดถึง จับตามอง และรำลึกถึงอย่างจริงจัง ไม่น่าเชื่อว่าคนๆ หนึ่งสามารถสร้างความรู้สึกร่วมให้คนหมู่มากได้ขนาดนี้ ถึงแม้ไม่ใช่คนแฟชั่นแต่แทบไม่มีใครไม่รู้จักปู่คาร์ล 365 วันเป็นเวลาแสนยาวเมื่อต้องลืมใครสักคน แต่สำหรับอัจฉริยะสมองเพชรคนนี้ไม่ว่าจะหลักร้อย หลักพัน หรือหลักหมื่นวัน สิ่งที่เขามอบให้กับวงการแฟชั่นไม่มีทางจะเลือนหายไปจากสารบบและความทรงจำของคนทุกรุ่นอายุอย่างแน่นอน โว้กขอไว้อาลัยเนื่องในโอกาสการจากไปแบบไม่มีวันกลับครบรอบปี 1 ของ “คาร์ล เลเกอร์เฟลด์”

WATCH

คีย์เวิร์ด: #KarlLagerfeld