ลูกพรุน

     ลูกพรุนเป็นแหล่งไอโอดีนชั้นดี มีปริมาณไฟเบอร์และซอร์บิทอลสูง จึงช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ดี นอกจากนี้ยังมีวิตามินและสารอาหารมากมาย เช่น วิตามินเค วิตามินเอ โพแทสเซียม และธาตุเหล็ก มีส่วนช่วยให้สุขภาพหัวใจดีขึ้น ลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ และยังช่วยควบคุมน้ำหนักด้วยการลดความอยากอาหาร

ไข่ไก่

    ไข่ให้โปรตีนและไขมันดีต่อสุขภาพ รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย ซึ่งไข่แดงเป็นแหล่งไอโอดีนที่ดี โดยไข่ 1 ฟอง ขนาดประมาณ 50 กรัม จะอุดมไปด้วยไอโอดีนประมาณ 25 ไมโครกรัม จึงแนะนำให้รับประทานไข่ไก่อย่างน้อยวันละ 1-2 ฟอง

กระเทียม

     กระเทียมมีสารไอโอดีนในปริมาณค่อนข้างสูง จึงมีสรรพคุณในการใช้รักษาอาการต่อมไทรอยด์เป็นพิษได้ค่อนข้างดี ทั้งยังมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลชนิด LDL และช่วยระดับการก่อตัวของคราบในผนังเส้นเลือด ดังนั้นกระเทียมจึงมีสรรพคุณในการช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ดี

ผักใบเขียว

     ผักที่มีสีเขียว เช่น บร็อกโคลี ผักกาดเขียว หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม กะหล่ำปลี ฯลฯ มีประมาณไอโอดีนค่อนข้างสูง แต่ควรทำให้สุกก่อนรับประทาน เพราะในผักประเภทนี้มีสารกอยโตรเจน ซึ่งจะทำให้ร่างกายนำไอโอดีนไปใช้สร้างฮอร์โมนไทรอกซินได้น้อยกว่าปกติ จึงมีโอกาสเกิดคอพอกได้

นม

     นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส โยเกิร์ต เป็นต้น ถือเป็นแหล่งของไอโอดีนเช่นกัน ซึ่งจะมีปริมาณไอโอดีนแตกต่างกันไป เช่น โยเกิร์ตธรรมดาถ้วยหนึ่งให้ปริมาณไอโอดีนที่ร่างกายต้องการต่อวันประมาณครึ่งหนึ่ง ส่วนคอตเทจชีสเป็นแหล่งไอโอดีนที่ดีที่สุดแหล่งหนึ่ง โดยหนึ่งถ้วยจะให้ปริมาณ 65 ไมโครกรัมนั่นเอง

อาหารทะเล

     อาหารทะเล เช่น กุ้ง ปลาค็อด ปลาทูน่า ฯลฯ นอกจากจะมีไอโอดีนสูงแล้ว ยังมีแคลอรี่ที่ต่ำและเป็นแหล่งของสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ได้แก่ วิตามินบี 12 ซีลีเนียม โปรตีน ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม และกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจอีกด้วย

สาหร่าย

     สาหร่ายทะเลเป็นแหล่งของสารอาหารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุที่ดี โดยเฉพาะไอโอดีน นอกจากนี้ยังมีแคลอรี่ต่ำ แต่ปริมาณไอโอดีนอาจแตกต่างกันไปตามชนิดของสาหร่าย เช่น สาหร่ายวากาเมะ 1 กรัม จะมีไอโอดีนประมาณ 66 ไมโครกรัม ส่วนสาหร่ายโนริ 1 กรัม จะมีไอโอดีนประมาณ 6-43 ไมโครกรัม และสาหร่ายคอมบุ 1 กรัม จะมีไอโอดีนสูงถึง 2,984 ไมโครกรัมเลยทีเดียว

สตรอเบอร์รี่

     สารอนุมูลอิสระที่มีในสตรอเบอร์รี่คือ วิตามินซีและไฟโตนิวเทรียนต์จะทำให้สารอนุมูลอิสระน้อยลง ชะลอการเสื่อมของสมอง และมีไอโอดีนที่จะส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมองด้วย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มไขมันชนิดดี ทำให้หลอดเลือดสะอาดเพราะไม่มีไขมันเลวที่อาจสะสมจนเกิดโรคหลอดเลือดอุดตันได้