1. ดื่มน้ำ

     การขาดน้ำอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดหัวได้ ยิ่งไปกว่านั้นการขาดน้ำยังทำให้เสียสมาธิและทำให้รู้สึกหงุดหงิดอีกด้วย ฉะนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดหัวจากภาวะขาดน้ำ จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวัน และรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบเป็นน้ำในจำนวนมาก เช่น ผักและผลไม้ต่างๆ และนอกเหนือไปจากการดื่มน้ำเปล่าแล้ว ยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ช่วยแก้ปวดหัวได้อีกด้วย เช่น กาแฟไม่มีคาเฟอีน น้ำส้ม และนมอัลมอนด์ เป็นต้น

2. รับประทานอาหารเสริมแมกนีเซียม

     แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุจำเป็นและมีหน้าที่ทำงานในร่างกายนับไม่ถ้วน ซึ่งรวมถึงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้การเสริมแมกนีเซียมยังมีประสิทธิภาพในการระงับอาการปวดหัวด้วย ซึ่งได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าการรับประทานอาหารเสริมแมกนีเซียมซิเตรต 600 มก. ต่อวัน จะช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดหัวไมเกรน อย่างไรก็ตามการรับประทานแมกนีเซียมอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงกับทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสียในบางคน ดังนั้นควรเริ่มด้วยขนาดที่น้อย หรือสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนการรับประทาน

3. ใช้น้ำมันหอมระเหย

     น้ำมันหอมระเหยประกอบด้วยสารอโรมาติกจากพืชหลากหลายชนิด มีประโยชน์ในแง่การรักษามากมาย แต่มีเพียงน้ำมันหอมระเหยไม่กี่ชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวดหัว ได้แก่ เปปเปอร์มินต์ ยูคาลิปตัส และลาเวนเดอร์ เมื่อมีอาการปวดหัวให้หยดน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้ลงในเครื่องดิฟฟิวเซอร์เพื่อกระจายกลิ่น หรือผสมเข้ากับน้ำมันโจโจ้บา แล้วนำมาทาบริเวณขมับหรือข้อมือก็จะช่วยให้หายปวดหัวหรือลดความรุนแรงลงได้

4. ประคบเย็น

     การประคบเย็นที่คอหรือบริเวณศีรษะเป็นการลดการอักเสบ ชะลอการนำกระแสประสาท และทำให้หลอดเลือดหดตัว ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถช่วยลดอาการปวดหัวได้ โดยวิธีการประคบเย็นด้วยตัวเองก็ทำได้ง่ายๆ เพียงใส่น้ำแข็งในถุงกันน้ำแล้วห่อด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ อีกชั้น จากนั้นใช้ประคบที่หลังคอ ท้ายทอย ศีรษะ หรือขมับ เท่านี้อาการปวดหัวก็จะบรรเทาลง

5. นอนหลับให้เพียงพอ

     การอดนอนเป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งของอาการปวดหัวและอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ อีก โดยจากการศึกษาเปรียบเทียบความถี่และความรุนแรงของอาการปวดหัว ระหว่างผู้ที่นอนหลับน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืน และผู้ที่นอนหลับอย่างเหมาะสมหรือนอนนานกว่านั้น พบว่าผู้ที่นอนน้อยจะมีอาการปวดหัวบ่อยและรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามการนอนมากเกินไปก็มีส่วนกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้ ดังนั้นผู้ที่กำลังมองหาวิธีแก้ปวดหัวก็ควรให้ความสำคัญกับการนอนหลับอย่างเหมาะสมคือประมาณ 7-9 ชั่วโมงต่อคืนนั่นเอง

     แม้ว่าการรับประทานยามักเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงเมื่อมีอาการปวดหัว แต่แท้จริงแล้วก็ยังมีวิธีอื่นๆ ที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพในการป้องกันและรักษาอาการปวดหัวได้เช่นกัน หากใครที่มองหาวิธีแก้ในแบบองค์รวมมากขึ้น แนะนำให้ลองวิธีข้างต้นโดยเริ่มจากการพักผ่อนในห้องที่มืด ใช้การประคบเย็น สูดกลิ่นน้ำมันหอมระเหย และการหลีกเลี่ยงเสียงดัง เท่านี้ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวให้ลดลงหรือหายไป ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล