1. ชนิดของคอนแทคเลนส์

ชนิดของคอนแทคเลนส์แบ่งออกเป็น 2 ชนิด โดยทั้งสองแบบทำจากวัสดุที่ต่างกันและออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพปัญหาดวงตาที่แตกต่างกัน

1) ชนิดแข็ง ทำมาจากพลาสติกแข็งใส เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งใส่คอนแทคเลนส์เป็นครั้งแรก เพราะมีรูปร่างที่อยู่ตัว จึงช่วยให้ใส่ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ด้วยความหนาของวัสดุทำให้อากาศไม่สามารถซึมผ่านได้ เมื่อใส่ไปนานๆ จะทำให้ดวงตาแห้งและล้าได้ง่าย แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาให้วัสดุนิ่มมากขึ้น ช่วยลดอาการใส่นานและตาล้าได้ สำหรับรูปแบบนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีค่าสายตามาก ทั้งสายตาสั้น สายตายาวและสายตาเอียง

2) ชนิดนิ่ม ทำมาจากวัสดุที่ต่างจากแบบแข็ง จึงทำให้นิ่ม มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำสูงและออกซิเจนซึมผ่านได้ดี ทำให้ใส่สบาย สามารถใส่ได้นานกว่าแบบแข็ง แต่สำหรับมือใหม่อาจทำให้ใส่ยาก เพราะมีลักษณะที่ค่อนข้างบาง โดยคอนแทคเลนส์รูปแบบนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาปกติ หรือค่าสายตาไม่ซับซ้อน

2. วิธีเลือกคอนแทคเลนส์

• ค่าสายตา: สำหรับผู้มีปัญหาด้านสายตา ควรวัดค่าสายตาและขอคำปรึกษาจากจักษุแพทย์ก่อน เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์ว่าควรใส่คอนแทคเลนส์ที่ค่าสายตาเท่าไร หากเลือกค่าสายตาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสายตาตามมาได้
• ขนาดดวงตา: การเลือกคอนแทคเลนส์ที่มีขนาดพอดีกับดวงตา จะช่วยลดปัญหาตาล้า ตาแห้งได้ โดยคำนึงถึงขนาดและความเว้าโค้ง เพื่อให้พอดีกับดวงตามากที่สุด
• อายุการใช้งาน: ปกติแล้วอายุของคอนแทคเลนส์จะแบ่งเป็นรายวันและรายเดือน
• รายวัน: เป็นคอนแทคเลนส์ที่มีอายุการใช้งานเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาตาแห้งและตาบอบบาง คอนแทคเลนส์ชนิดนี้จะช่วยให้ใส่สบาย และลดโอกาสการเกิดการอักเสบในตา
• รายเดือน: เป็นคอนแทคเลนส์ที่มีอายุการใช้งาน 30 วันหรือ 1 เดือน สำหรับชนิดนี้จะมีราคาที่ถูกกว่าแต่ต้องดูแลรักษาให้ถูกวิธีเพราะหากรักษาไม่ดีอาจทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้
• เลือกจากแบรนด์ที่น่าเชื่อ: การเลือกซื้อคอนแทคเลนส์ควรซื้อแบรนด์ในร้านค้าที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน ซึ่งสำหรับผู้มีปัญหาทางด้านสายตาสามารถหาซื้อได้ตามร้านตัดแว่นได้เลย

3. วิธีการใส่-ถอดคอนแทคเลนส์

วิธีใส่

1) ล้างมือให้สะอาด หรือสำหรับใครที่ใช้อุปกรณ์ช่วย ให้ล้างอุปกรณ์ให้สะอาดด้วยเช่นกันก่อนสัมผัสกับคอนแทคเลนส์ 
2) หยิบหรือคีบคอนแทคเลนส์ออกมา โดยสังเกตว่าด้านคอนแทคเลนส์ถูกข้างหรือไม่ หากถูกต้องจะเป็นรูปทรงเหมือนถ้วย หากผิดจะเป็นรูปทรงที่บานออกเหมือนจาน
3) ใช้มืออีกข้างเบิกตาให้กว้าง จะจับทั้งดวงตาหรือดึงแค่ตาล่างลงมาก็ได้
4) ตั้งกระจกในมุมต่ำ และก้มหน้ามองกระจกจะช่วยให้ใส่ได้ง่ายขึ้น จากนั้นค่อยๆ ใส่คอนแทคเลนส์เข้าไป พอให้คอนแทคเลนส์ดูดกับดวงตาและค่อยๆ กะพริบตาเพื่อให้คอนแทคเลนส์เข้าที่

วิธีถอด

1) ล้างมือให้สะอาด โดยเฉพาะบริเวณซอกเล็บ
2) ล้างตลับคอนแทคเลนส์เก่าและเปลี่ยนน้ำยาแช่ลงไปใหม่
3) ก้มหน้าลงต่ำมองกระจก ค่อยๆ ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จีบเข้าหากันและดึงคอนแทคเลนส์ออกมาอย่างเบามือ 
4) นำคอนแทคเลนส์ลงแช่ในน้ำยา

4. วิธีการดูแลคอนแทคเลนส์

• เมื่อเปิดขวดคอนแทคเลนส์ในครั้งแรก ควรแช่ด้วยน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ก่อน 1 คืน ยังไม่ควรใส่ในทันที 
• ก่อนใส่คอนแทคเลนส์ควรล้างมือให้สะอาด และใช้อุปกรณ์ในการช่วยใส่เพื่อไม่ให้มือสัมผัสกับดวงตาโดยตรง แต่ต้องมั่นใจว่าอุปกรณ์นั้นสะอาด ไม่มีสิ่งสกปรก
• ควรใช้น้ำยาแช่ เพื่อล้างคอนแทคเลนส์เท่านั้น ไม่ควรใช้น้ำชนิดอื่นล้างเพราะจะทำให้ระคายเคืองตา
• ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์นานเกิน 8-9 ชั่วโมง เพราะจะทำให้ตาแห้ง ล้า และอักเสบ
• ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์นอน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตาได้ แนะนำให้ถอดคอนแทคเลนส์ก่อนนอนทุกครั้ง 
• ควรเปลี่ยนตลับคอนแทคเลนส์ทุกเดือนหรืออย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน เพื่อลดการสะสมของสิ่งสกปรก

5. ข้อดี-ข้อเสีย ของการใส่คอนแทคเลนส์

ข้อดี

• สะดวกสบาย ใช้ชีวิตได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องแว่นจะหลุดหรือเกิดอุบัติเหตุ
• ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีค่าสายตาสูงๆ การใส่แว่นตาหนาอาจทำให้เสียบุคลิก
• มีราคาที่ถูกกว่าการตัดแว่นสายตา
• มีมุมมองภาพที่ชัดใกล้เคียงกับค่าสายตามากที่สุด
  
  

ข้อเสีย

• ต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของคอนแทคเลนส์อยู่เสมอ
• มีค่าใช้จ่ายจิกจุก เช่น ค่าน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์, ค่าตลับ, ค่าคอนแทคเลนส์รายวันหรือรายเดือน
• หากดูแลรักษาความสะอาดไม่ดี ทำให้มีโอกาสเกิดอันตรายต่อดวงตาได้