WELLNESS

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายและผิวพรรณ เมื่อลดน้ำตาลได้ 1 เดือน

หากลดน้ำตาลได้ 1 เดือน ร่างกายและผิวพรรณจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

     เมื่อพูดถึง ‘น้ำตาล’ หลายคนอาจคิดว่ามีแต่ข้อเสียอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วน้ำตาลก็มีข้อดีเหมือนกัน เพียงแค่เราควรคำนึงถึงปริมาณที่ควรบริโภคในแต่ละวันให้เหมาะสม ไม่เยอะมากจนเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวอย่างการเกิดโรคเรื้อรังได้ การลดบริโภคน้ำตาลจึงช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้ทั้งร่างกาย ผิวพรรณ และจิตใจ มาดูกันว่าหากเราลดน้ำตาลได้ 1 เดือนจะเกิดอะไรขึ้นบ้างต่อร่างกายของเรา

 

ผิวพรรณเปล่งปลั่งกว่าเดิม

     น้ำตาลที่ร่างกายเผาผลาญไม่หมดจะไปสะสมเป็นไขมัน ทำให้ผิวหน้าผลิตน้ำมันมากขึ้น จึงเป็นเหตุของการเกิดสิว นอกจากนี้น้ำตาลยังสามารถไปจับกับโปรตีนใต้ผิวหนัง ทำให้โปรตีนผิดรูปและเกิดเป็นสารเร่งแก่ขึ้นมา (AGEs) รวมถึงเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดกระบวนการไกลเคชันในร่างกาย เมื่อมีสารชนิดนี้มากจนเกินไปก็จะทำให้เกิดริ้วรอยและร่องลึก ขาดความยืดหยุ่นได้ หากลดน้ำตาลได้ 1 เดือนจะเห้นได้ชัดขึ้นว่าผิวพรรณของเราเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น ริ้วรอยเส้นเล็กๆ ลดลง

 

ภาพ: www.beautylab.eu

ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง

     แน่นอนว่าหากลดการรับประทานน้ำตาลเข้าไปในร่างกายก็จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ พร้อมช่วยให้ภาวะดื้ออินซูลินลดลง ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายมีฮอร์โมนอินซูลินอยู่ในกระแสเลือดมาก แต่ไม่สามารถการจัดการกับน้ำตาลในเลือดได้ดีพอ ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า อยากอาหาร เมื่อลดการบริโภคน้ำตาล ร่างกายก็สามารถจัดการกับฮอร์โมนอินซูลินให้อยู่ในภาวะสมดุลได้ดี จึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน, โรคหลอดเลือด และโรคหัวใจได้

 

น้ำหนักลดลง

     ผลลัพธ์ที่สามารถเห็นได้ชัดเจนคือน้ำหนักลดลง เพราะอาหารที่มีน้ำตาลสูงก็จะมีปริมาณของแคลอรี่สูงด้วย ร่างกายจะใช้เลือกพลังงานจากน้ำตาลเป็นหลัก ไขมันที่ร่างกายสะสมไว้จึงไม่ได้ถูกนำมาเผาผลาญ และถูกเปลี่ยนเป็นไขมันที่เก็บไว้ตามส่วนต่างๆ ของ หากลดการบริโภคน้ำตาลลง ร่างกายก็จะสามารถเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงานและลดการสะสมไขมันได้ร่างกายได้ดี จึงทำให้น้ำหนักลดลงนั่นเอง

 

ภาพ: Freepik

นอนหลับเต็มอิ่ม สมองทำงานดียิ่งขึ้น

     เมื่อร่างกายมีระดับน้ำตาลสะสมในเลือดสูง จะทำให้สมองถูกกระตุ้นให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะน้ำตาลจะยับยั้งการผลิตโปรตีน BDNF และชะลอการหลั่งสารในสมอง เป็นการรบกวนการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งเป็นสาเหตุให้วงจรการนอนหลับแปรปรวน นอกจากนี้อาจทำให้เกิดความเสื่อมของระบบประสาท เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นอัลไซเมอร์ เมื่อเราลดการบริโภคน้ำตาลลง จะช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น สมองได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ง่วงหรือ่อนเพลียระหว่างวัน แถมเพิ่มความจำได้สามารถโฟกัสกับการเรียนการทำงานได้ยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

สุขภาพของหัวใจดีขึ้น

     น้ำตาลที่ร่างกายได้รับจะไปเพิ่มระดับอินซูลิน ทำให้ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น จึงเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะฉะนั้นหากใครไม่อยากเสี่ยงกับการเป็นโรคหัวใจหรือไขมันอุดตันเส้นเลือด ไม่ใช่แค่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานของทอดหรือของมันเท่านั้น ของหวานที่มีน้ำตาลสูงก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน

 

ลมหายใจสดชื่น กลิ่นปากลดลง

     การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแบคทีเรียในช่องปากได้ง่ายขึ้น เพราะเป็นสารที่ย่อยง่ายด้วยเอนไซม์อะไมเลส หรือไทยาลีนในน้ำลายนั่นเอง ยิ่งเมื่อน้ำตาลอยู่ในปากของเรามากเท่าไหร่ แบคทีเรียก็จะมีปริมาณมากขึ้น ส่งผลให้มีกลิ่นปาก อาจทำให้ความมั่นใจของเราลดลง ฉะนั้นเมื่อรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีความหวาน ควรตามด้วยการดื่มน้ำเปล่าหรือแปรงฟันอยู่เสมอ

 



WATCH



ภาพ : Freepik

WATCH