Vogue Beauty Thailand

WELLNESS

รู้จัก 'Analog Wellness' ฮีลใจด้วยการพาตัวเองออกจากโซเชียล

เราอาจจะใช้ชีิวิตบนโลกโซเชียลมากจนเกินไป ทำความรู้จัก Analog Wellness ที่จะช่วยพาเราคืนสมดุลให้แก่ชีวิต

โดย Jaksanapa Srakaew
15 สิงหาคม 2568

ในโลกยุคดิจิทัลที่หน้าจอกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่มือถือไปจนถึงคอมพิวเตอร์ เราต่างเผชิญกับความเหนื่อยล้าทางจิตใจ ความเครียดสะสม และภาวะขาดสมาธิจากการถูกรบกวนด้วยข้อมูลข่าวสารไม่หยุดหย่อน Analog Wellness จึงกลายเป็นคำตอบและเทรนด์สุขภาพที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ที่เราต่างโหยหาความสมดุล วันนี้โว้กบิวตี้จะพามาทำความรู้จักกับแนวคิดที่พาคุณย้อนกลับไปสู่ชีวิตที่จับต้องได้นี้กัน

Analog Wellness คืออะไร?

แนวคิดการดูแลสุขภาพกายและใจในรูปแบบ ย้อนยุค หรือการกลับไปสู่กิจกรรมที่ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลเลย มันแตกต่างจากการทำ Digital Detox (การพักจากหน้าจอชั่วคราว) ตรงที่ Analog Wellness คือการ ตั้งใจเข้าร่วมกิจกรรมในโลกจริงที่จับต้องได้อย่างเต็มที่ เพื่อบำรุงสุขภาพจิตและลดความตึงเครียดอย่างแท้จริง

รายงานจาก Global Wellness Summit’s The Future of Wellness ชี้ชัดว่า เทรนด์นี้กำลังเป็นที่จับตามองและเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นทางออกที่รวดเร็วในการ ปลดล็อกความเหนื่อยล้า และความเครียดเรื้อรังที่เกิดจากการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยข้อมูลและการสื่อสารที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง การหันกลับมาสู่กิจกรรมแบบอนาล็อกจึงเป็นการเยียวยาที่ทรงพลังที่หลายคนกำลังปรับตัวมาใช้กันมากขึ้น

Article

ทำไม Analog Wellness จึงสำคัญ?

ในชีวิตยุคใหม่ เราทุกคนต่างถูกพันธนาการด้วยโลกดิจิทัลอย่างไม่รู้ตัว ตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน มือถือกลายเป็นส่วนขยายของร่างกาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและจิตใจอย่างเงียบ ๆ Analog Wellness จึงเข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับสมดุลและฟื้นฟูตัวเอง

การจมอยู่กับหน้าจอทำให้ร่างกายและจิตใจของเราค่อย ๆ เสื่อมโทรมลง ผ่านสัญญาณเหล่านี้

  • ความเครียดสะสม จากการเสพข้อมูลข่าวสารที่ถาโถมอย่างต่อเนื่อง

  • ปัญหาสุขภาพตา ผลจากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน

  • ขาดสมาธิและการนอนหลับไม่สนิท จิตใจไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

  • ความรู้สึกโดดเดี่ยว ขาดการเชื่อมต่อทางอารมณ์กับตัวเองและคนรอบข้างในโลกจริง

Analog Wellness จึงเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่ทำให้เราหยุดพักจากชีวิตดิจิทัล หันกลับมาโฟกัสกับสิ่งที่อยู่รอบตัว ปรับสมดุลทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสความสุขและความสงบในโลกแห่งความจริง

กิจกรรมง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณเริ่มต้น Analog Wellness ได้ทันที

การทำ Analog Wellness ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชีวิตหรือหยุดใช้เทคโนโลยีอย่างเด็ดขาด แค่เราค่อยๆ แทรกกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับโลกดิจิทัลลงไปในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างสมดุลและฟื้นฟูใจ

  1. การจดบันทึกด้วยมือ
    ลองเปลี่ยนจากการจดโน้ตในมือถือหรือคอมพิวเตอร์ มาใช้สมุดบันทึกและปากกาที่ชอบดู เขียนบันทึกความคิด ความรู้สึก หรือไอเดียในแต่ละวัน การสัมผัสกับกระดาษและการเขียนด้วยมือ จะช่วยให้สมองได้ผ่อนคลาย ลดความวุ่นวายใจ และทำให้เรามีสมาธิมากขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ

  2. การอ่านหนังสือเล่ม
    แม้ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเป็นอีบุ๊กและเสียงอ่านหนังสือ แต่การได้ถือหนังสือจริงๆ สัมผัสหน้ากระดาษ กลิ่นกระดาษ จะช่วยปลุกความรู้สึกผ่อนคลายและทำให้เราโฟกัสกับเนื้อหาได้ลึกซึ้งกว่า การอ่านหนังสือเล่มยังเป็นช่วงเวลาสงบที่ช่วยลดความเครียดและตัดขาดจากความวุ่นวายออนไลน์

  3. กิจกรรมงานฝีมือและศิลปะ
    ไม่ว่าจะเป็นการถักนิตติ้ง วาดรูป ระบายสี หรือแม้กระทั่งการทำอาหารและขนม นอกจากจะเป็นการใช้เวลาที่ไม่พึ่งพาเทคโนโลยีแล้ว ยังช่วยเพิ่มสมาธิและสร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเอง เมื่อเห็นผลงานที่เกิดจากมือของเราเอง นี่อาจเป็นโอกาสดีที่คุณจะค้นพบงานอดิเรกใหม่ที่ช่วยเติมเต็มจิตใจได้อย่างลึกซึ้ง

  4. ออกกำลังกายแบบไร้หน้าจอ
    แทนที่จะออกกำลังกายตามคลิปวิดีโอ ลองเปลี่ยนเป็นการเดินเล่นในสวน เล่นโยคะ หรือยืดเหยียดร่างกายโดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์ ฟังเสียงธรรมชาติ และรู้สึกถึงร่างกายและลมหายใจของตัวเอง นอกจากจะได้สุขภาพกายที่ดีแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพจิตและเพิ่มสมาธิอีกด้วย

  5. ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ
    การได้เดินเท้าเปล่าบนสนามหญ้า นั่งเงียบๆ ฟังเสียงนกร้อง หรือลมพัดผ่านใบไม้ เป็นกิจกรรมที่เชื่อมโยงเรากับโลกธรรมชาติ ช่วยลดความเครียด เพิ่มพลังใจ และทำให้เรารู้สึกสงบอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสและเติมเต็มพลังชีวิตในแบบที่โลกดิจิทัลไม่สามารถทดแทนได้

และนี่คือกิจกรรมง่ายๆที่เราสามารถปรับใช้ในชีวิตประจำวันและทำได้เลยทันที

สร้างสมดุลอย่างมีสติ

หลายคนอาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่า Analog Wellness คือการ "หักดิบ" หรือการตัดขาดจากอุปกรณ์ดิจิทัลและโลกออนไลน์ไปเลย ซึ่งในความเป็นจริง แนวคิดนี้ไม่ได้เรียกร้องให้เราทิ้งเทคโนโลยี เพราะเราทุกคนทราบดีว่าเทคโนโลยีและโลกออนไลน์ต่างก็มีบทบาทที่ขาดไม่ได้ ทั้งในด้านการทำงาน การศึกษา และการติดต่อสื่อสาร แต่แก่นแท้ของ Analog Wellness คือการสอนให้เราใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีสติ (Mindful Digital Use) และเรียนรู้ที่จะแบ่งเวลาให้สมดุลระหว่างโลกดิจิทัลกับโลกแห่งความจริงอย่างชาญฉลาด มันไม่ใช่การต่อต้าน แต่คือการบริหารจัดการเวลาและพลังงานของเราให้เหมาะสม

แนวคิดนี้มุ่งเน้นการแทรกกิจกรรมที่ไม่ใช้หน้าจอเข้าไปในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอ กิจกรรมเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ทำให้เราได้หยุดพักจากการกระตุ้นของข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ได้โฟกัสกับตัวเอง และ สัมผัสสิ่งรอบข้างอย่างตั้งใจ เช่น การสัมผัสกระดาษขณะจดบันทึก หรือการได้ยินเสียงลมพัดขณะเดินเล่นโดยไม่มีหูฟัง

ผลลัพธ์ของการบริหารสมดุลอย่างเหมาะสม

เมื่อเราสามารถบริหารเวลาในสองโลกดิจิทัลและโลกจริงได้อย่างเหมาะสม เราจะสร้างภาวะสมดุลทางจิตใจและร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นได้อย่างยั่งยืน การปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยลดความเหนื่อยล้าทางดิจิทัลที่สะสมอยู่ และส่งผลดีต่อชีวิตในหลายมิติ กล่าวคือ สมาธิจะดีขึ้น เพราะจิตใจที่ได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริงจะกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและโฟกัสมากขึ้น นอกจากนี้ อารมณ์จะมั่นคง ลดความเครียดและความวิตกกังวลที่มักมาจากการเสพข่าวสารที่มากเกินไป ท้ายที่สุด คุณภาพชีวิตจะดีขึ้น ความสุขและความพึงพอใจในชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเราสามารถเชื่อมโยงกับผู้คนและธรรมชาติรอบตัวได้อย่างแท้จริง ดังนั้น Analog Wellness จึงเป็นทักษะสำคัญที่ทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากโลกดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ โดยไม่สูญเสียความสงบภายในและคุณภาพชีวิตที่ดีไปเลยนั่นเอง

Article

ภาพ : Unsplash+