1.การเลือกเครื่องนอนและปลอกหมอนที่ไม่ควรมองข้าม
โดยเฉพาะปลอกหมอนซึ่งถือเป็นสิ่งที่เกิดการเสียดสีกับผิวหน้าของเราขณะหลับมากที่สุด เพราะเหตุนี้จึงควรเลือกปลอกหมอนที่ใช้วัสดุนุ่มลื่น เพื่อลดการเสียดสีอันเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยและการระคายเคืองขณะที่เรานอนหลับ

2. การจัดท่านอน
ท่านอนที่เหมาะสมสำหรับการชะลอการเกิดริ้วรอยคือท่านอนหงาย เพราะการนอนคว่ำหน้าหรือการนอนตะแคงเป็นเวลานานๆ จะทำให้ผิวหน้าเกิดการกดทับและกระตุ้นการเกิดริ้วรอยได้ง่าย อีกทั้งการนอนหงายยังทำให้ร่างกายสามารถหายใจได้อย่างสะดวกมากกว่า

3. อุณหภูมิที่เหมาะสมขณะหลับ
อีกเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ สำหรับอุณหภูมิที่เหมาะสมในการนอนอยู่ที่ประมาณ 15-22 องศา ซึ่งถือเป็นความเย็นในระดับที่สามารถกระตุ้นการสร้างสารเมลาโทนินที่ช่วยในการเสริมสร้างการนอนอย่างมีคุณภาพได้ดี ทั้งยังมีส่วนช่วยในการลดความเครียดและความวิตกกังวลได้อีกด้วย

4. งดอาหารก่อนนอน
สำหรับสายกินดึกควรเลี่ยงการรับประทานอาหารก่อนเวลาเข้านอนประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่องดการทำงานของระบบย่อยอาหาร ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการหลับไม่สนิทหรืออาการจุกเสียดเเน่นท้อง

5. ออกกำลังกายเบาๆ ก่อนนอน
แน่นอนว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสุขภาพให้แข็งแรง การออกกำลังกายเพียงเบาๆ อย่าง การเล่นโยคะ การเดิน หรือเวทเทรนนิ่งที่ไม่หนักเกินไปจะช่วยให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น