นอกจากปัญหาผิวเรื่องสิวหรอืรอยจุดด่างดำต่างๆ ที่สร้างความกวนใจให้กับใครหลายคนแล้ว เซลลูไลต์ (Cellulite) หรือ "ผิวเปลือกส้ม" ก็คงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง ซึ่งเซลลูไลต์คือเซลล์ไขมันที่เคลื่อนตัวสูงขึ้นมาสะสมอยู่ชั้นใต้ผิวหนัง มีลักษณะขรุขระคล้ายกับผิวเปลือกส้มหรือผิวมะกรูด มักพบได้บ่อยบริเวณต้นขา สะโพก ต้นแขน และหน้าท้อง โดยเซลลูไลต์จะแตกต่างจากไขมันธรรมดาในร่างกายที่เราสามารถกำจัดออกไปได้ง่ายๆ แต่เซลลูไลต์ไม่สามารถกำจัดออกได้ง่ายเช่นนั้น จะต้องอาศัยทั้งการนวดผิวหนัง การออกกำลังกาย และควบคุมอาหารร่วมด้วย จึงจะสามารถกำจัดเซลลูไลต์ออกไปอย่างได้ผล โว้กบิวตี้จึงรวม 5 เทคนิคที่จะช่วยลดเลือนเซลลูไลต์ด้วยตัวเองได้ไม่ยาก

 

• รักษาร่างกายให้ชุ่มชื้น

     สิ่งที่ควรทำประการแรกคือพยายามทำให้ร่างกายชุ่มชื้น เพราะยิ่งร่างกายมีความชุ่มชื้นจากภายในมากเท่าไร เซลล์ผิวหนังจะฟูอิ่มเอิบมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียน นอกจากนี้ยังช่วยขจัดสารพิษที่สะสมออกไปได้อีกด้วย หลักการนี้สามารถใช้ได้กับริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นต่างๆ บนผิวกายได้เช่นกัน ฉะนั้นการเติมความชุ่มชื้นอย่างครอบคลุมจากภายในสู่ภายนอกจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีผิวที่ดี โดยการดื่มน้ำมากๆ เพราะถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ร่างกายมีความชุ่มชื้นจากภายใน รวมทั้งใช้มอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้นหรือบอดี้ครีม ด้วยสารบำรุงก็จะช่วยเก็บความชุ่มชื้นของผิวหนังชั้นนอกและทำให้ผิวเรียบเนียนนุ่มขึ้นด้วย

 

 

• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

     การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยทำให้ระบบในร่างกายเกิดความสมดุลอีกด้วยโดยจะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายออกไป ทำให้กล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆ ของร่างกายแข็งแรงขึ้น ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมโดยการเลือกวิธีออกกำลังกายที่พอเหมาะพอดีสำหรับร่างกายและความชอบของตัวเอง เช่น ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก โยคะ หรือเล่นกีฬาต่างๆ เช่น ว่ายน้ำ แบดมินตัน เทนนิส เป็นต้น แนะนำให้ทำครั้งละ 30-40 นาทีขึ้นไป อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ซึ่งเป็นเวลาที่กำลังเหมาะสมและทำให้เห็นผลได้เร็วขึ้น

 

• ฟื้นฟูระบบไหลเวียนของเหลว

     ระบบไหลเวียนของเหลวในร่างกายต้องทำงานประสานกันอย่างถูกต้อง ไม่อย่างนั้นอัตราการทำความสะอาดจะลดลงและมีสารพิษสะสมนานขึ้น ระบบเส้นเลือดฝอยมีหน้าที่ทำให้การไหลเวียนเลือดสม่ำเสมอ ส่วนระบบต่อมน้ำเหลืองตรวจคุณภาพของเหลวให้มีคุณภาพดีและช่วยขจัดสารพิษ ทั้งสองระบบนี้ทำงานต่างกันโดยระบบต่อมน้ำเหลืองจะถูกกระตุ้นจากการออกกำลังกาย การสัมผัสกับอุณหภูมิร้อนเย็น และการนวดกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองบ้างจะทำให้มีการไหลเวียนที่ดีได้ ซึ่งวิธีการฟื้นฟูนี้ทำได้ตอนเวลาอาบน้ำโดยใช้อุปกรณ์ขัดผิว เช่น ฟองน้ำ ใยบวบ หรือหินขัด นำมาขัดวนไปมาประมาณวันละ 2-3 นาที จะช่วยทำให้ระบบต่อมน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีและเป็นการช่วยขจัดเซลล์ไขมัน เพราะความร้อนจากการขัดถูจะทำให้ไขมันบางส่วนละลายได้ นอกจากนี้หลังอาบน้ำเสร็จ แนะนำให้ใช้บอดี้ออยล์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากขิงและส้มก็ได้ เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดของเสียในร่างกาย โดยใช้อุ้งมือนวดคลึงเป็นวงกลมและใช้สันมือโอบรอบบริเวณที่มีเซลลูไลต์ ทำซ้ำกันๆ ไปเรื่อยๆ ประมาณ 5-10 นาทีจะช่วยให้เซลลูไลต์สลายตัวได้มากขึ้น

 

 

• ควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ

     วิธีการควบคุมอาหารนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการสลายของเซลลูไลต์อย่างมากด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์และมีไขมันต่ำ ลดละเลิกของหวานและเค็มจัด รวมถึงอาหารที่ผ่านกระบวนการแปลงสภาพ เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ร่างกายของเรามีไขมันสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในแต่ละมื้ออาหารควรควบคุมปริมาณแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายของตัวเอง เพิ่มปริมาณของผักและผลไม้ให้มากขึ้น ซึ่งการรับประทานผักและผลไม้สดจะช่วยลดเซลลูไลต์ที่เกิดขึ้น และช่วยป้องกันการเกิดใหม่ของเซลลูไลต์ได้มากถึง 75% เพราะผักและผลไม้อุดมไปด้วยเกลือแร่ วิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถช่วยกระตุ้นตับให้ขับพิษได้ดี ช่วยทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างต่ำวันละ 8 แก้ว ก็จะช่วยขับพิษที่ติดตามเนื้อเยื่อในรูปของไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย

 

 

• กระตุ้นคอลลาเจน

     เมื่ออายุมากขึ้นผิวของเราก็จะเริ่มสูญเสียคอลลาเจน เกิดการหย่อนคล้อยขาดความกระชับทำให้ไขมันที่เคยล้อมรอบผนังเซลล์มีขนาดใหญ่จนเห็นชัดเจนขึ้น ผิวกายก็จะดูเปลี่ยนรูปไปจากเดิม ฉะนั้นการเพิ่มคอลลาเจนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เราสามารถทำได้หลายวิธีตั้งแต่การรับประทานอาหารไปจนถึงการบำรุงภายนอก ซึ่งวิธีเพิ่มการผลิตคอลลาเจนให้ผิวที่ดีที่สุดคือการใช้เรตินอยด์ ไม่ว่าจะเป็นบอดี้โลชั่นหรือครีมที่มีส่วนผสมนี้ ทั้งแบบวางขายทั่วไปหรือตามแบบแพทย์ผู้ชำนาญช่วยแนะนำล้วนได้ผลดีมีประสิทธิภาพแตกต่างกันไปตามปริมาณและวิธีใช้ นอกจากนี้ยังมีการทำทรีตเมนต์ด้วยการส่งความร้อนไปให้เส้นใยไฟเบอร์ของคอลลาเจนที่ระดับชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่เห็นผลชัดเจน ด้วยวิธีกระตุ้นคอลลาเจนนี้ ผิวที่บางลงก็จะเริ่มหนาขึ้น โอกาสที่เซลล์ไขมันจะไปกองตัวที่เนื้อเยื่อพังผืดของผิวก็น้อยลง

 

     ปัญหาเซลลูไลต์หากปล่อยทิ้งไว้นานวันเข้าก็จะเริ่มมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นโดยไม่ต้องจับหรือบีบดู ฉะนั้นแก้ปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยเทคนิคที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองในชีวิตประจำวัน นอกจากจะช่วยลดเลือนเซลลูไลต์แล้ว ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและผิวเรียบเนียนสวยอีกด้วย