“หลังจากที่ผ่านจุดนั้นมาได้ ก็เลิกคิด เลิกเครียดกับจุดบกพร่องบนผิว” ก่อนที่ เดน่า สโลเซอร์ นางแบบลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ผู้ชนะรายการ Asia Next Top Model ซีซั่น 6 จะมาถึงจุดที่รู้สึกปล่อยวางกับผิว 'ที่ไม่เพอร์เฟ็ค' และเปิดใจถึงการเป็นสิวบนอินสตาแกรม เธอเผชิญกับวันที่ผิวแย่ขั้นสุดและวันที่ต้องรับมือกับการเป็นสิวที่มีผลกระทบต่อจิตใจ "เคยยกเลิกแพลน เคยร้องไห้ที่แฟชั่นโชว์เพราะวันนั้นผิวแย่มาก และจำได้ว่าช่างกล้องทักเราว่าหน้าไปทำอะไรมา ตอนนั้นก็คือร้องไห้เลย”  อย่างไรก็ตามวันที่ผิวแย่ที่เคยทำให้เธอรู้สึกอยากปิดบังจุดบกพร่องบนผิวและเสียน้ำตามาแล้ว ทำให้เธอหันมาคิดบวกกับการเป็นสิว โดยเมื่อไม่นานมานี้เธอได้เปิดใจเล่าถึงประสบการณ์การเป็นสิวของตัวเองเพื่อหวังว่าจะเป็นประโยชน์และสร้างกำลังใจให้กับคนที่อาจเผชิญปัญหาผิวแบบเธออยู่ เดน่าแชร์กับโว้กบิวตี้ถึงประสบการณ์การรักษาสิวที่ทำให้ต้องลองผิดลองถูกกับสกินแคร์ การเข้าคลินิก และการค้นพบว่าจริงๆ แล้วผิวของเธอถูกกับสกินแคร์รูทีนที่เรียบง่าย

 

 

 

 

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

 

 

 

 

 

 

 

 

My acne journey and what products I use now. Thank you @acellenceclinic for taking such good care of me and thank you to all my wonderful friends who made me feel great when I was feeling ???????? And sending lots of love to anyone stressing about their skin and I hope this video makes you stress about it a little less ❤️❤️❤️

โพสต์ที่แชร์โดย Dana Slosar (@dsloz) เมื่อ มี.ค. 18, 2020 เวลา 11:46pm PDT

 

หลังจากออกมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับการเป็นสิวทางอินสตาแกรม มีมุมมองเกี่ยวกับความงามเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

“สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ไม่ค่อยกังวลกับสิวและจุดบกพร่องบนผิวเหมือนแต่ก่อนแล้ว จากที่เมื่อก่อนถ้ามีสิวขึ้นก็จะนึกถึงมันตลอดเวลา แล้วก็จะยกเลิกนัดบ้างถ้าวันไหนผิวแย่จริงๆ แต่หลังจากที่ผ่านจุดนั้นมาได้ ก็เลิกคิด เลิกเครียดกับมัน แล้วปล่อยวางกับความไม่เป๊ะ ไม่เรียบเนียนของผิว เพราะไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้มาหยุดเราในการเอนจอยชีวิต ตอนนี้ก็เลยรู้สึกสงบมากขึ้นเวลามีสิวเล็กๆ น้อยขึ้นมาบนหน้า”

 

เมื่อผ่านมาได้การเป็นสิวทำให้เราเปลี่ยนแปลงหรือดูแลตัวเองต่างไปจากเดิมอย่างไรบ้าง

"เริ่มจากสิ่งเล็กๆ อย่างที่แน่นอนคือดื่มน้ำมากขึ้น ดูแลสุขภาพมากขึ้น เช็คมากขึ้นว่ามีส่วนผสมอะไรอยู่ในสกินแคร์ที่ใช้บ้าง คือแต่ก่อนเคยโหมใช้สกินแคร์ ที่มี Active Ingredient ที่ช่วยเรื่องสิวเยอะมาก พวกกรดต่างๆ ที่เคลมว่าจะช่วยให้ผิวดีขึ้น แต่ก็พบว่าทำให้แย่กว่าเดิมเพราะทำให้ผิวแห้งมาก" 

 

ตอนนี้สกินแคร์รูทีนเป็นแบบไหน 

“รูทีนตอนนี้จะเรียบง่ายมากๆ คือหลังตื่นนอน ตอนเช้าจะล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ลงกันแดด ซึ่งแบรนด์ที่ชอบใช้ตอนนี้ก็คือกันแดดของ Supergoop! คือต้องขอโทษที่บิวตี้รูทีนจะค่อนข้างน่าเบื่อ (หัวเราะ) แต่ว่าส่วนมากจะไม่ค่อยแต่งหน้า ลงเมกอัพ เพราะจะปล่อยให้ผิวได้พักจากการแต่งหน้าเยอะๆ ที่มักจะต้องเจอเวลาไปถ่ายงาน ส่วนตอนกลางคืน พอกลับถึงบ้านจะใช้เคลนซิ่งบาล์มจาก Drunk Elephant ช่วยลบเมกอัพและสิ่งสกปรกต่างๆ ออก จากนั้นจะตามด้วยเคลนเซอร์ Gentle Cleanser จาก Acne-Aid และต่อมาก็จะปิดท้ายด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ Lala Retro Whipped Cream จาก Drunk Elephant แล้วก็ช่วงนี้จะชอบใช้ลูกกลิ้งหินหยก (Jade Roller) หลังการลงสกินแคร์ นอกจากนี้ก็มีใช้พวกชีทมาส์กบ้าง ที่ชอบใช้จะเป็นชีทมาส์กจาก SK-II  โดยส่วนมากสกินแคร์รูทีนทุกวันจะชิวมากๆ แต่ก็มีบางวันที่ใช้เวลากับผิวมากขึ้น อย่างช่วงวีคเอนด์จะมีการใช้เครื่องไม้เครื่องมือในการดูแลผิวบ้าง อย่าง แปรงล้างหน้าจาก Foreo เพื่อช่วยคลีนอัพผิว” 

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

 บิวตี้ทิปส์ไหนที่อยากบอกต่อ

“ช่วงนี้ชอบใช้ลูกกลิ้งหินหยกนวดหน้าเวลานั่งดูทีวี ชอบเอาไปแช่เย็น ซึ่งคิดว่าใช้แล้วช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดดีและช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย แล้วถ้ามีชาร้อนข้างๆ ก็จะแฮปปี้มาก”

 

มีไอเท็มบิวตี้ที่ขาดไม่ได้ไหม

"คงจะเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ Lala Retro Whipped Cream จาก Drunk Elephant อย่างก่อนที่จะเจอสถานการณ์โควิด-19 และยังเดินทางได้ก็จะติดขึ้นเครื่องบินไปด้วยตลอด"

 

เห็นว่ามีแต่งลุคแดร็กควีนด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งลุคบิวตี้ที่ชอบไหม

“ชอบมาก ชอบจากการดูรายการ RuPaul's Drag Race ช่วงที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน แต่งแล้วรู้สึกสนุกกับการได้แปลงโฉมเป็นอีกคน หลายคนจะเซอร์ไพรส์กับการที่เราชอบการแต่งหน้าแบบแดร็กควีน เพราะชีวิตประจำวันแทบจะไม่ใช้เมกอัพเลย" (หัวเราะ)