Emilia Clarke

     ผิวมีการเปลี่ยนแปลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น หลังจากรับมือกับสิวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน์ในช่วงวัยรุ่น อีกด่านของปัญหาผิวที่สร้างความกังวลตามมาคือริ้วรอยแห่งวัย ทำให้ผิวในแต่ละช่วงวัยต้องการผลิตภัณฑ์และการดูแลที่ต่างกัน ซึ่งสำหรับ Emilia การรับมือที่ดีที่สุดกับริ้วรอยแห่งวัยคือการดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ “ฉันค่อนข้างจริงจังกับสกินแคร์รูทีน เป็นสิ่งที่แม่ของฉันปลูกฝังมาตลอดตั้งแต่เด็ก กับการดูแลด้วยขั้นตอนที่ประกอบไปด้วย เคลนซิ่ง-โทนเนอร์-มอยส์เจอไรเซอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันทำมาตลอด" เธอเล่าถึงการให้ความสำคัญกับการดูแลผิวที่สั่งสมมาตั้งแต่วัยเด็ก

     จากการแนะนำของแม่ที่ทำให้เธอรู้จักและเป็นแฟนคลับตัวยงของแบรนด์ Clinique ในวันนั้น สู่ปัจจุบันกับการร่วมงานกับแบรนด์อย่างเป็นทางการในฐานะ Global Brand Ambassador คนแรกของคลีนิกข์ เธอเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นถึงความประทับใจในผลลัพธ์จากสกินแคร์ของคลีนิกข์ที่ใช้ในทุกๆ วัน “ฉันล้างหน้าแบบดับเบิ้ลเคลนซิ่ง เริ่มด้วยการใช้เคลนซิ่งบาล์ม Take The Day Off  เพื่อช่วยลบเมกอัพและใช้เคลนซิ่งมิลค์ ซึ่งอ่อนโยนและปลอบประโลมต่อผิวมากๆ จากนั้นตามด้วย Clarifying Lotion เป็นโทนเนอร์ที่ช่วยให้มั่นใจว่าผิวสะอาดจริง และตอนนี้ฉันใช้ Smart Clinical Repair Wrinkle Correcting Serum ซึ่งดีมากๆ เพราะช่วยให้ผิวดูอิ่มเอิบขึ้น คือโดยรวมฉันบอกได้เลยว่ามันเวิร์ค ผิวของฉันดูดีขึ้นมากๆ หลังจากที่ได้ลองใช้ จากนั้นฉันปิดท้ายรูทีนด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ Moisture Surge” เธอแชร์สกินแคร์รูทีนแบบ step-by-step ที่ทำเป็นประจำทุกวันทั้งเช้าและเย็น รวมถึงแนะนำให้เราได้รู้จักกับไอเท็มใหม่ล่าสุดในรูทีน ซึ่งเป็นเซรั่มที่ช่วยรับมือกับริ้วรอยแห่งวัย โดย Emilia เผยว่าการป้องกันไว้ก่อนเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวสำหรับเธอ พร้อมอธิบายว่าเซรั่มนี้ถือว่าตอบโจทย์เพราะช่วยให้มั่นใจมากขึ้นกับผิวของตัวเองในวัย 34

Smart Clinical Repair Wrinkle Correcting Serum ขนาด 50 ml. ราคา 3,950 บาท

     ด้วยคุณสมบัติช่วยคืนชีวิตชีวาแก่ผิวและช่วยให้ผิวเรียบเนียน แลดูเอิบอิ่ม ทำให้เซรั่ม Smart Clinical Repair Wrinkle Correcting Serum กลายเป็นสกินแคร์ชิ้นสำคัญที่ Emilia ต้องมีไว้ในสกินแคร์รูทีน “เวลาที่ฉันเหนื่อยๆ พวกริ้วรอยเล็กๆ ต่างๆ บนใบหน้าของฉันจะดูชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ผิวดูอิดโรย เซรั่มตัวนี้ช่วยเติมความอิ่มฟูและคืนความมีชีวิตชีวาให้แก่ผิว” เธอรีวิวให้เราฟังแบบคร่าวๆ จากที่ได้ลองใช้เซรั่ม

     เซรั่มเข้มข้นแต่เนื้อบางเบาอย่าง Smart Clinical Repair Wrinkle Correcting Serum เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อรับมือกับริ้วรอยแห่งวัยใน 3 มิติ ได้แก่ ช่วยฟื้นบำรุงให้ริ้วรอยแลดูจางลง ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนแลดูกระชับ และช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแลดูอิ่มฟู โดยมีส่วนผสมสำคัญ นำโดย CL 1870 Peptide Complex ซึ่งเป็นส่วนผสมเอกสิทธิ์เฉพาะของคลีนิกข์ที่อุดมไปด้วยเปปไทด์หลายชนิดที่ช่วยรับมือกับริ้วรอยแห่งวัย ผสานเข้ากับ Next Generation Retinoid อนุพันธ์ของวิตามินเอ หรือ เรตินอล ที่มีคุณสมบัติช่วยเผยผิวใหม่ที่แลดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียน โดยเป็นสูตรอ่อนโยนที่คิดค้นมาให้สามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น อีกทั้งยังมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิกที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น ส่งผลให้ริ้วรอยร่องตื้นและริ้วรอยที่เกิดความแห้งแลดูจางลง สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล แนะนำให้ค่อยๆ ใช้เพื่อให้ผิวได้ปรับตัว อย่างในช่วงแรก อาจใช้สลับวันเว้นวัน เนื่องจากเรตินอลมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว เวลาที่ใช้ควรตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นและในตอนกลางวันควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ 

     ถึงแม้จะเป็นช่วงล็อคดาวน์อยู่แต่ในบ้าน แต่เมกอัพยังคงมีบทบาทในบิวตี้รูทีนของ Emilia อยู่ โดยเธอแชร์กับเราว่าเป็นการลงเมกอัพแบบเรียบง่าย ประกอบไปด้วยการใช้ทิ้นท์มอยส์เจอไรเซอร์ ปัดมาสคาร่า และทาลิปบาล์ม อย่างไรก็ตามเธอจะใช้เมกอัพแค่เฉพาะช่วงวันธรรมดาและปล่อยให้ผิวได้พักในช่วงสุดสัปดาห์ “ช่วงวีคเอนด์จะเป็นเวลาของชีทมาส์ก แช่ในอ่างอาบน้ำ แฮร์มาส์ก และเสื้อผ้าที่ใส่แล้วสบาย วันหยุดเป็นช่วงเวลาพิเศษของฉันเลย โดยเฉพาะคืนวันอาทิตย์จะมีแค่ฉันและหมาของฉัน และชีทมาส์กของฉัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันจันทร์” นอกจากเรื่องบิวตี้รูทีนแล้ว บนสนทนาผ่าน Zoom ในครั้งนี้ทำให้ได้รู้จักนักแสดงหญิงมากความสามารถคนนี้มากขึ้นกับตัวตนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังบวกที่เธอส่งผ่านมาให้เราทางหน้าจอคอมฯ โดยเมื่อถามถึงเคล็ดลับความมั่นใจ Emilia แชร์ทิ้งท้ายกับเราว่าการได้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆ ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจ ซึ่งสำหรับเธอ ความมั่นใจมักมาจากที่ที่สงบ ที่ซึ่งไม่ต้องคิดถึงว่าตัวเองดูเป็นอย่างไรในสายตาคนอื่นหรือคนอื่นมองตัวเราอย่างไร