ในวันที่ทุกคนอยากแช่แข็งตัวเอง แต่ก็มีเสียงในหัวตะโกนมาตลอดว่าไม่อยากทรมานกับน้ำแข็งที่ทั้งหนาวทั้งเจ็บผิว โว้กบิวตี้ค้นพบหนึ่งทางเลือกอย่าง Cryotherapy แบบ ‘ตู้แช่’ ที่ช่วยลดอุณหภูมิร่างกายได้ดีไม่ต่างจากการทำ Ice Bath และครั้งนี้ดิจิทัลบิวตี้เอดิเตอร์ของเราก็ไปลองกับตัวและมาแชร์ประสบการณ์ที่จำไม่ลืม

Cryotherapy แบบตู้แช่เย็น
ถ้าพูดถึงทรีตเมนต์ Cryotherapy เราจะเห็นภาพไปในแนวหัวหัตถการที่ใช้นวดหน้าพร้อมกับเซรั่มบำรุงผิวตามคลินิก หรือบางครั้งก็เป็นแบบช่วยกระชับสัดส่วนบนร่างกาย แต่ครั้งนี้ที่โว้กบิวตี้เจอมาคือตู้แช่เย็นขนาดใหญ่ที่ The Longevity Hub by Clinique La Prairie ในโรงแรม St.Regis กรุงเทพฯ โดยตู้นี้จะทำงานด้วยการเป่าลมเย็นและสร้างไอเย็นที่ช่วยลดอุณหภูมิได้ไม่ต่างจากการแช่น้ำแข็งที่กำลังฮิตกัน
การเตรียมตัวเข้าตู้ Cryotherapy
- เป่าผมให้แห้ง และเช็ดตัวให้แห้ง
- ถอดเครื่องประดับทั้งหมด
- สวมเกาะอกและกางเกงขาสั้น
- สวมถุงมือ ที่ครอบหูและถุงเท้า
ความรู้สึกเมื่อเข้าตู้แช่เย็น เป็นยังไงบ้าง?
ระยะเวลาของการอยู่ในตู้จะสูงสุดที่ 4 นาที แต่ใครที่มาครั้งแรกจะมีให้ทดลองก่อน 3 นาทีในความแรงลมเริ่มต้น โดยขั้นตอนแรกจะมีการตรวจวัดความดันเบื้องต้นก่อน เพราะเครื่องนี้จะไม่เหมาะกับคนที่มีความดันสูง รวมถึงสอบถามอาการกลัวที่แคบ จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมใส่อุปกรณ์ให้ครบ สตาฟจะอธิบายสัญลักษณ์ท่าทางต่างๆ เพื่อความเข้าใจตรงกันก่อนและตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเพื่อทำการวัดผลก่อน-หลัง เมื่อพร้อมแล้วจึงเข้าไปยืนตามจุดในตู้ Cryotherapy
ภายในตู้จะเป็นเหมือนห้องเก็บเสียงขนาดเล็ก ใครที่กลัวที่แคบแนะนำว่าทำสมาธิ ตั้งสติก่อนสตาร์ท เสียงพัดลมจะดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับอุณหภูมิที่เย็นลง แรงลมในระดับเริ่มต้นก็ทำให้เรารู้สึกหนาวได้แล้ว ผ่านไปไม่นานสตาฟจะทำสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มแรงลม หากใครปรับตัวได้แล้วแนะนำให้เพิ่มเพราะจะได้ประสิทธิภาพของผลลัพธ์มากขึ้น ในระยะเวลา 3 นาทีเราสามารถขยับตัวได้เรื่อยๆ ไม่ต้องยืนแข็งทื่อ หรือหากใครทนไม่ไหวจริงๆ สามารถทำสัญลักษณ์หรือผลักประตูออกเองได้ (สตาฟบอกว่าชาวเอเชียส่วนใหญ่มักจะอยู่ไม่ถึงเวลาที่กำหนดเพราะอาจไม่ชินกับอากาศหนาว แต่กับชาวตะวันตกที่คุ้นชินมักจะอยู่ได้จนครบเวลา)
หลังจากออกจากตู้ Cryotherapy สตาฟจะวัดอุณหภูมิร่างกายทันทีเพื่อวัดผล อุณหภูมิร่างกายที่ลดลงไปนั้นหากมากกว่า 10 องศาถือเป็นค่าที่กำลังดี เพราะในระหว่างการบูสต์อุณหภูมิให้กลับมาเป็นปกติ จะให้ผลลัพธ์ข้างเคียงในการฟื้นฟูการทำงานของระบบร่างกายและภูมิคุ้มกันด้วย (ซึ่งการเข้าตู้แช่ครั้งนี้เอดิเตอร์ของเราอุณหภูมิร่างกายจาก 31 องศา ลดลงไปที่ 18 องศา)

หลังจากเข้าตู้ Cryotherapy แล้วต้องระวังอะไรบ้าง? สิ่งสำคัญคืองดแช่น้ำร้อน น้ำเย็น หรืออาบน้ำในอุณหภูมิสูงจัดในช่วงวันสองวันนั้น เพื่อป้องกันอาการช็อกของร่างกาย ทางที่ดีทิ้งให้ร่างกายบูสต์อุณหภูมิไว้ก่อน ค่อยอาบน้ำในอุณหภูมิปกติหลังจากผ่านไปหนึ่งถึงสองชั่วโมง
ประโยชน์ของ Cryotherapy
- ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อและร่างกาย
- กระตุ้นการไหลเวียนเลือก
- เสริมการทำงานระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- เสริมการผลิตสารเอ็นโดฟิน (Endorphins) ช่วยลดความเครียดสะสม
ส่วนประโยชน์ในด้านเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอาจไม่สามารถวัดให้เห็นแบบรูปธรรมในครั้งนี้ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นผลได้ชัดเจนหลังจากเข้าตู้คือการนอนหลับที่ดีขึ้น รู้สึกหลับลึกและหลับเต็มอิ่มมากขึ้น หากทำเป็นประจำในความถี่ที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติในแง่การนอนหลับและการฟื้นฟูร่างกายได้
อย่างไรก็ตาม ใครที่กำลังอยากท้าทายตัวเองไม่ว่าจะแช่น้ำแข็งหรือเข้าตู้แช่เย็นล้วนแต่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาก่อน ที่สำคัญคือต้องตรวจเช็คความพร้อมของร่างกายให้ถี่ถ้วนเสมอ

