การแว็กซ์ทำอย่างไร

     ขั้นตอนการแว็กซ์ขนค่อนข้างทำได้ง่าย กำจัดขนได้ทุกบริเวณของร่างกาย และสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน โดยอุปกรณ์ที่ต้องมีคือแว็กซ์อุ่น แปรงหรือไม้พาย และแถบผ้า ซึ่งขั้นตอนการแว็กซ์เริ่มจากทาแว็กซ์บนผิวหนังตามทิศทางที่ขนขึ้น จากนั้นนำแถบผ้ามาแปะให้เรียบ ขั้นตอนสุดท้ายให้ดึงแถบผ้าออกจากผิวในทิศทางตรงกันข้ามที่ขนงอก เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย หากทำการแว็กซ์ได้อย่างเหมาะสมเส้นขนจะถูกดึงออกจากรูขุมขนจนหมด เผยผิวที่เรียบเนียน ปราศจากขนที่มองเห็นได้ โดยทั่วไปแล้วการแว็กซ์จะทำให้ผิวไร้ขนไปได้เพียงชั่วคราว เมื่อผ่านไปหลายสัปดาห์ขนจะงอกขึ้น และเราจะต้องแว็กซ์บริเวณเดิมอีกครั้งเพื่อกำจัดขนที่งอกใหม่

เลเซอร์กำจัดขนทำงานอย่างไร

     เมื่อเทียบกับการแว็กซ์แล้วการกำจัดขนด้วยเลเซอร์นั้นซับซ้อนกว่า ด้วยการใช้เลเซอร์คลื่นความถี่สูงเข้าทำลายรากขนเพื่อไม่ให้ขนงอกขึ้นใหม่ โดยการทำเลเซอร์กำจัดขนยังแบ่งแยกได้อีกหลายประเภท ซึ่งที่นิยมในประเทศไทยก็จะมีเลเซอร์ประเภท YAG, IPL และ Diode โดยการทำเลเซอร์จะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการทำ และจะต้องมีการทำซ้ำหลายครั้ง (6-12 ครั้งใน 1 ปี) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหนาและปริมาณของขน ผลลัพธ์หลังจากทำเลเซอร์เรียบร้อยแล้ว ขนจะหายไปนานเป็นเดือนหรือเป็นปี และขนจะหมดไปอย่างถาวร หรือหากเวลาผ่านไปนานบางคนก็อาจมีขนบางๆ งอกขึ้นมาเพียงไม่กี่เส้น ก็สามารถใช้แหนบถอนออกได้เลย

ข้อดี-ข้อเสีย ของการแว็กซ์ขน

     การกำจัดขนทุกวิธีมีข้อดีและข้อเสีย รวมถึงการแว็กซ์เช่นกัน เตรียมทำความรู้จักกับข้อดีและข้อเสียของการแว็กซ์ จากนั้นลองชั่งน้ำหนักอย่างรอบคอบว่าการแว็กซ์เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับตัวเองหรือไม่

ข้อดี: 

1. การแว็กซ์มีราคาถูกกว่าการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ อย่างไรก็ตามหากแว็กซ์เป็นประจำเป็นเวลาหลายปี อาจทำให้ต้องเสียเงินมากกว่าการทำเลเซอร์เสียอีก

2. การแว็กซ์ได้ผลลัพธ์ดีกับทุกสภาพขนและสภาพผิว 

3. การแว็กซ์สามารถทำได้เองที่บ้าน หากให้ผู้เชี่ยวชาญทำการแว็กซ์ก็มีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงจนเกินไป

ข้อเสีย: 

1. ค่อนข้างเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่บอบบางของร่างกาย เช่น บิกินี่ และรักแร้

2. การแว็กซ์ไม่ได้ทำลายรากขน แต่เพียงแค่ดึงขนออกจากรูขุมขนเท่านั้น ดังนั้นขนจะงอกขึ้นใหม่ และเมื่อขนงอกขึ้นอาจกลายเป็นคุดได้

3. หากต้องการผิวที่เรียบเนียนไร้ขนตลอดเวลา การแว็กซ์ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากการแว็กซ์แต่ละครั้งจะต้องปล่อยให้ขนยาว (1/4 นิ้ว) เพื่อให้แว็กซ์สามารถยึดเกาะกับขนได้

4. ความถี่ในการแว็กซ์จะต้องทำทุกๆ 2-3 สัปดาห์

5. สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังโดยเฉพาะหากมีผิวที่บอบบางหรือมีผิวแพ้ง่าย

ข้อดี-ข้อเสียของการกำจัดขนด้วยเลเซอร์

     การกำจัดขนด้วยเลเซอร์มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างจากการแว็กซ์ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วมองว่าการเลเซอร์มีข้อดีในระยะยาวมากกว่า เพราะเป็นวิธีที่จะหยุดการเจริญเติบโตของเส้นขนไม่ให้ขึ้นมาอีกในอนาคต

ข้อดี:

1. เลเซอร์เป็นวิธีการกำจัดขนที่ดีที่สุดหากต้องการผลลัพธ์ระยะยาว อยู่ได้นานเป็นเดือนหรือเป็นปี และบางคนขนจะหายไปอย่างถาวร

2. การเลเซอร์แต่ละครั้งใช้เวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น จึงช่วยประหยัดเวลาได้ดี

3. มีความปลอดภัยและไม่ทำลายผิวหนังในระยะยาว แม้แต่คนที่มีผิวแพ้ง่ายก็สามารถทำได้

4. สามารถกำจัดขนได้ทุกส่วนของร่างกาย

5. ไม่เจ็บเท่าการแว็กซ์ คนส่วนใหญ่จะบอกว่ารู้สึกเหมือนหนังยางดีดผิวเบาๆ

ข้อเสีย:

1. เลเซอร์มีราคาแพงกว่าเมื่อเทียบกับการแว็กซ์เพียงครั้งเดียว แต่เนื่องจากเป็นวิธีการกำจัดขนในระยะยาว แท้จริงแล้วจึงประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า

2. เลเซอร์จะสามารถทำลายรูขุมขนได้อย่างสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อทำหลายครั้ง 

3. ระหว่างรอทำเลเซอร์ครั้งถัดไปจะต้องปล่อยให้ขนงอกเป็นตอขึ้นมาก่อน เพราะฉะนั้นผิวจะไม่สามารถเรียบเนียนตลอดเวลา