TREATMENTS

‘คีลอยด์’ ที่มักเกิดหลังศัลยกรรม จะมีวิธีรับมือและดูแลได้อย่างไร

ทำความรู้จักกับแผลคีลอยด์ให้มากขึ้น พร้อมสาเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้หลายส่วนทั่วร่างกายไม่ใช่แค่บริเวณจมูก และวิธีรักษาที่ช่วยให้คีลอยด์หายได้จริง

     หนึ่งในปัญหาที่สร้างความหนักใจของคนที่ทำศัลยกรรมคงหนีไม่พ้นเรื่องของแผลเป็น หรือ ‘คีลอยด์’ แผลเป็นที่มีลักษณะขยายใหญ่ นูนขึ้นเรื่อยๆ แม้จะไม่สร้างความเจ็บปวดแต่ก็ส่งผลต่อความมั่นใจได้ไม่น้อย นอกจากคีลอยด์ที่จมูกแล้ว ยังสามารถเกิดได้ตามส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้อีกด้วย  วันนี้โว้กบิวตี้เลยขอพามาทำความรู้จักกับแผลเป็นคีลอยด์ ทั้งสาเหตุการเกิดและวิธีการรักษาดูแลที่ถูกต้อง

 

 

คีลอยด์เกิดจากอะไร

     แผลคีลอยด์ (Keloid) คือแผลที่เกิดจากการผ่าตัด การโดนของมีคม หรือการเจาะตามร่างกายมีลักษณะนูนและขยายกว้างกว่าบาดแผล เนื่องจากร่างกายมีกลไกที่มีการสมานแผลตามธรรมชาติ โดยคีลอยด์จะเกิดขึ้นหลังจากที่แผลหายสนิทแล้ว ทั้งเกิดได้ทันทีหลังแผลหายหรือหลังจากที่แผลหายไปแล้วสักพัก

ชนิดของคีลอยด์

โดยทั่วไปสามารถแบ่งประเภทของแผลที่เกิดได้จากหลังผ่าตัด เป็น 2 ชนิด คือชนิดขนาดเล็กและขนาดใหญ่

  • แผลเป็นขนาดเล็ก

เรียกว่า Hypertrophic Scar มีขนาดเล็ก ลักษณะเป็นไตแข็งๆ ไม่สร้างความเจ็บปวด หรือคันน้อยกว่าแบบชนิดใหญ่

  • แผลเป็นขนาดใหญ่

เรียกว่า คีลอยด์ (Keloid) คือลักษณะของแผลที่นูน ใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน และไม่สามารถจางหายได้เอง ควรรับการรักษาอย่างเฉพาะจุด

 

 

 

อาการของคีลอยด์

โดยทั่วไปแล้วลักษณะภายนอกของแผลคีลอยด์จะมีลักษณะเป็นแผลนูนแดง ขยายใหญ่ โดยสามารถสังเกตได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น

  • บริเวณแผลมีลักษณะนูนกว่าผิวปกติ
  • บริเวณแผลมีลักษณะเงา ไม่มีขนขึ้น
  • มีสีที่แตกต่างจากผิวบริเวณอื่น เช่น สีชมพู แดง ม่วง สีคล้ำหรือซีดลง
  • มีอาหารคัน ระคายเคือง หรือมีอาการเจ็บเล็กน้อย

 

 



WATCH



 

สาเหตุการเกิดคีลอยด์ในปัจจัยอื่นๆ 

     นอกจากคีลอยด์ สามารถเกิดได้จากการรับการผ่าตัดแล้ว ยังสามารถเกิดได้จากปัจจัยอื่นๆ ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

  • การดูแลหลังผ่าตัดไม่ดี

 เช่น ทำความสะอาดไม่ดี หรือเกิดจากการไปยุ่งหรือสัมผัสแผลมากเกินไป

  • พันธุกรรม

สามารถเกิดได้จากเกิดจากพันธุกรรม ที่ทำให้เกิดแผลได้ง่ายและส่งผลให้เป็นคีลอยด์

 

คีลอยด์รักษาอย่างไร

  • ใช้ยารักษาแผลเป็น

     การใช้ยาทาสำหรับแผลเป็นคีลอยด์มีทั้งรูปแบบเจลและครีมโดยในส่วนผสมของยาจะมีส่วนผสมของเรตินอยด์วิตามิน A C และ E มีคุณสมบัติช่วยลดการบวมอักเสบและช่วยให้แผลเป็นนูนอ่อนนุ่มและยุบลงได้ แต่ในกรณีนี้จะได้ผลกับแผลคีลอยด์ที่มีขนาดเล็กเท่านั้น 

  • ใช้แผ่นแปะแผลคีลอยด์

     แผ่นแปะลดคีลอยด์ มักมาในรูปแบบเจลหรือซิลิโคน โดยเป็นการใช้วิธีแปะแผลเพื่อไม่ให้แผลเป็นสัมผัสกับอากาศภายนอก สามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้แผลเป็นคีลอยด์ยุบลงได้

  • การฉีดแผลคีลอยด์

     การฉีดแผลคีลอยด์ จะช่วยรักษาอาการอักเสบ ช่วยลดการระคายเคืองให้ลดลง แนะนำให้ฉีดเป็นประจำสม่ำเสมอภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประสิทธิภาพการรักษาให้ได้ผล

  • การเลเซอร์

     หากใครที่มีปัญหาแผลคีลอยด์ และต้องการรักษาด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง แนะนำการเลเซอร์ โดยแพทย์จะใช้วิธีการเลเซอร์เพื่อลดการสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่จะช่วยลดการอักเสบและลดขนาดของแผลคีลอยด์ให้เล็กลงได้อย่างได้ผล แต่ก็แลกมากับค่ารักษาที่ค่อนข้างสูง

 

 

 

นอกจากแผลที่จมูก ยังพบได้ที่ไหนบ้าง

     แผลคีลอยด์ยังสามารถเกิดได้อีกหลายแห่งบนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้า หู หน้าอก หลัง หน้าท้อง แขน ขา หรือบริเวณอื่นๆ ที่เกิดบาดแผล นอกจากวิธีการรักษาข้างต้นยังสามารถเข้ารับการปรึกษาหาวิธีการรักษาที่ตรงจุดและตอบโจทย์กับแผลเป็นจากผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้คีลอยด์แม้จะสามารถเกิดได้ขึ้นบ่อย แต่หากรักษาอย่างถูกวิธี งดการสัมผัสกับแผลก็ช่วยให้แผลกลับมาเป็นปกติได้

 

ภาพ : Canva

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Keloid #KeloidScar