SKINCARE

แนะนำครีมกันแดดที่เป็นมิตรกับทุกสภาพผิว ใช้แล้วไม่ต้องกลัวอุดตันหรือระคายเคือง

แนะนำครีมกันแดดเนื้อเกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับทุกวัน

PLAY Everyday Lotion SPF 50 with Sunflower Extract จาก Supergoop! (1,190 บาท)

ถ้าพูดถึงครีมกันแดดแน่นอนว่าต้องพูดถึง Supergoop! ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่จะทำให้เราเลิกกลัวครีมกันแดด โดยเป็นแบรนด์ที่ตั้งใจสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ตอบโจทย์กับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวบอบบางแพ้ง่าย ซึ่งให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ส่วนผสมที่ปลอดภัยต่อผิวและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างสูตรใหม่ล่าสุดสูตรนี้ ที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องผิวจากรังสียูวีรอบๆ ตัวตลอดทั้งวัน ที่ป้องกันผิวไม่ให้ทรุดโทรมก่อนวัยด้วยผสมส่่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผิวไปด้วย มีกลิ่นหอมและมีเนื้อสัมผัสที่ซึมไว ไม่ทิ้งคราบ เหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งและทุกๆ วัน

 

 

 ซิกเนเจอร์ โลชั่นครีมกันแดด SPF 50 สูตรสำหรับผิวบอบบาง จาก We Are Feel Good Inc. (990 บาท)

เนื้อสัมผัสซึมซาบไว ไม่เป็นคราบขาว ช่วยปกป้องผิวหน้าและผิวกายจากรังสี UVA และ UVB เป็นอีกหนึ่งครีมกันแดดที่อยากบอกต่อเพราะใช้แล้วฟีลกู้ดสมชื่อ

Perfect UV Sunscreen Mild Milk SPF50+ PA++++ จาก Anessa (950 บาท)

กันแดดเนื้อน้ำนมอ่อนโยนต่อผิวแบบไม่ต้องกังวลว่าจะระคายเคืองเพราะทางแบรนด์ว่าผิวเด็กก็ใช้ได้ ถึงแม้จะเป็นมิลค์โลชั่นที่บางเบา ทาแล้วสบาย แต่ไม่จางหายไปง่ายๆ ในระหว่างวันเพราะผสานเทคโนโลยี Aqua Booster EX ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องเมื่อเจอเหงื่อ ความชื้น หรือน้ำ



WATCH



Madagascar Centella Air-Fit Suncream จาก SKIN1004 (790 บาท)

กันแดดสูตร Physical ซึ่งช่วยสะท้อนรังสียูวีออกจากผิว มีเนื้อสัมผัสเป็นน้ำนมเกลี่ยง่ายและซึมไว มาพร้อมส่วนผสมที่เป็นหัวใจของแบรนด์อย่าง Centellar Asiatica ที่ช่วยปลอบประโลมและบำรุงผิว

Clean Vegan Facial Screen SPF 50 PA++++ จาก Akins (1,290 บาท)

กันแดดสายคลีนสูตร Vegan (ไร้สารสกัดจากสัตว์) ที่ปราศจากสารก่อการระคายเคืองและอุดตัน ช่วยปกป้องผิวจากทุกปัจจัยทำร้าย อย่างครอบคลุม อาทิ รังสี UV  อินฟาเรด และแสงสีฟ้า หรือ High Energy Visible Light (HEV) จากหน้าจออุปกรณ์อิเล็คทรอนิค รวมถึงปัจจัยก่ออนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และปัญหาสุขภาพผิวต่างๆ นอกจากยังสามารถปกป้องผิวจากมลภาวะและฝุ่นละอองอย่าง PM2.5 ได้อีกด้วย

UV Water Serum SPF50+ PA++++ จาก Mizumi (890)

กันแดดเนื้อเซรั่มบางเบา ปราศจากสารกันแดดที่เป็นเคมี โดยเป็นสูตร Physical ที่จะช่วยสะท้อนรังสียูวีออกจากผิว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวบอบบางเป็นสิวง่าย

The Total Shield (SPF50 PA++++) จาก EviDenS de Beauté (5,950 บาท)

กันแดดเนื้อครีมเจลที่มอบฟินิชกำมะหยี่ โดดเด่นด้วยส่วนผสมของสารกันแดดที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง สารสกัดจาก Cinnamon Oil ที่ช่วยดูดซับ UVB
และ Octocrylane ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผิวจากแสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์ มลภาวะ และช่วยปลอบประโลมด้วย เรียกได้ว่าเป็นกันแดดที่ปกป้องผิวได้อย่างครอบคลุมสมกับชื่อ Total Shield

Anthelios XL Dry Touch Gel-Cream จาก Laroche-Posay (1,300 บาท)

กันแดดเนื้อเจล-ครีมช่วยควบคุมความมัน พร้อมปกป้องผิวจากรังสียูวี เป็นสูตร Non-Comedogenic ที่ผ่านการทดสอบว่าปลอดภัยสำหรับผิวหน้า

 

ไม่ว่าช่วงเช้าจะเร่งรีบแค่ไหน ขั้นตอนการดูแลผิวที่ไม่ควรลืมในแต่ละวันก็คือการทาครีมกันแดด การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน นอกจะช่วยปกป้องผิวของเราจากการโดนแสงยูวีและมลภาวะต่างๆ จากภายนอกทำร้ายแล้ว ยังช่วยปกป้องผิวไม่ให้แก่ก่อนวัยอีกด้วย เมื่อเลือกซื้อครีมกันแดดทีมบิวตี้แนะนำว่าควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองเพื่อให้ผิวของเราได้รับการปกป้องที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ผิวแต่แบบเหมาะกับกันแดดแบบไหนบ้าง เรามีทิปส์การเลือกมาฝากกัน

 

  • ผิวผสม-ผิวมัน

ถ้าเป็นคนผิวผสมและผิวมันให้มองหาคำที่ระบุว่า Oil Free ปราศจากน้ำมัน และ Non-comedogenic ที่ทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยส่วนใหญ่เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์จะเป็นแบบฟลูอิดหรือเจลครีม ซึ่งไม่ก่อให้รูขุมขนอุดตัน นอกจากนี้คำว่า Matte หรือ Dry Touch ก็ช่วยการันตีได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ทาลงไปจะไม่ทิ้งคราบหรือความมันเยิ้มบนผิว ถ้ามีส่วนผสมของไดเมทิโคน (Dimethicone) ก็ไม่ต้องกลัวเพราะจะช่วยให้กันแดดติดทนนาน ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนและไม่รู้สึกหนาหนักเมื่อลงเมกอัพในขั้นตอนต่อไป

 

  • ผิวแห้ง

    สำหรับคนที่มีผิวแห้ง พยายามเลี่ยงเนื้อเจลหรือสเปรย์เพราะมักจะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่ทำให้ผิวแห้ง โดย Jessica Wu, M.D. แพทย์ผิวหนังจากเมืองลอสแอนเจลิสแนะนำว่าให้เลือกส่วนผสมยูวีฟิลเตอร์ที่เป็นซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) เพราะจะช่วยสะท้อนรังสียูวีออกจากผิวและช่วยคงความชุ่มชื่นไปในตัวด้วย รวมทั้งส่วนผสมบำรุงเพิ่มเติม อย่าง กรดไฮยาลูรอนิก เซราไมด์ เพป์ไทด์ และไกลโคลิพิด (Glycolipids) ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยให้ผิวอิ่มฟูขึ้น

     

  • ผิวแพ้ง่าย 

    หากมีผิวที่บอบบางและแพ้ง่าย แนะนำว่าให้เลือกสูตรที่ระบุว่า Hypoallergenic และ Fragrance Free หรือปราศจากน้ำหอม และควรเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดสูตรที่เป็น Physical Sunscreen ที่ใช้หลักการสะท้อนรังสียูวีออกไป มีส่วนผสมของซิงก์ออกไซด์และไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) ส่วนผลิตภัณฑ์กันแดดสูตรเคมี (Chemical) จะดูดรังสียูวีเข้าผิวแล้วทำให้อนุมูลอิสระเสื่อมสลายไปซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย

 

ครีมกันแดดไม่น่ากลัวอย่างที่คิด...

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีสภาพผิวแบบไหน สิวอุดตันและอาการระคายผิวจากครีมกันแดดยังคงเป็นความกังวลที่ทำให้หลายคนกลัวการใช้ครีมกันแดด แต่อย่าเพิ่งหมดหวังกันไปนะสาวๆ เพราะในปัจจุบันผลิตภัณฑ์กันแดดได้ถูกพัฒนาสูตรให้มีความปลอดภัยต่อผิวและตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์มากขึ้น อย่างสูตรช่วยปกป้องผิวจากมลภาะและฝุ่น PM 2.5  อีกทั้งยังได้หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย เช่นครีมกันแดดที่ปราศจากสารเคมีที่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมทางทะเล หรือครีมกันแดดสายคลีนบิวตี้ที่ปราศจากสารเคมีทำร้ายผิวและเฟรนลี่กับสิ่งแวดล้อมไปในตัว ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์สกินแคร์ที่หลายคนให้ความสนใจ วันนี้ทีมโว้กบิวตี้เลยขอพาสาวโว้กอัพเดตครีมกันแดดน่าใช้ที่เข้าได้กับทุกสภาพผิว มาพร้อมส่วนผสมไม่ต้องกังวลว่าใช้แล้วจะอุดตันหรือระคายเคือง

WATCH

คีย์เวิร์ด: ครีมกันแดด