SIGN IN
|
SKINCARE
อัพเกรดรูทีนด้วย G-Beauty แบรนด์สกินแคร์สัญชาติเยอรมัน เน้นส่วนผสมสุดล้ำที่ผ่านงานวิจัยแนะนำแบรนด์สกินแคร์สัญชาติเยอรมันหรือ G-Beauty ที่ฟื้นฟูผิวด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและนวัตกรรมสุดล้ำ |
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมารูปแบบการดูแลผิวแบบฉบับสาวเกาหลีหรือ K-Beauty ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย อย่างการเลเยอร์สกินแคร์เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ 10 สเต็ป ส่วนคนที่ต้องการขั้นตอนที่มินิมัลมากขึ้นต่างหันมาทางฝั่งของ J-Beauty เทคนิคการดูแลผิวแบบฉบับชาวญี่ปุ่นที่เน้นขั้นตอนเรียบง่ายและส่วนผสมที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ อย่างข้าวและชาเขียว จากการดูแลผิวของสาวๆ ในแถบเอเชีย วันนี้โว้กบิวตี้ขอพาตีตั๋วมาที่ฝั่งยุโรปกันบ้างเพราะอีกหนึ่งเทรนด์การดูแลผิวที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน ต้องยกให้กับ G-Beauty หรือแบรนด์สกินแคร์สัญชาติเยอรมัน ที่โดดเด่นเรื่องการนำส่วนผสมจากธรรมชาติมาผสานเข้ากับนวัตกรรมบำรุงผิวที่มีผลการวิจัยรับรอง
ในปัจจุบัน G-Beauty หรือ German Beauty แบรนด์สกินแคร์สัญชาติเยอรมันหลายๆ แบรนด์มีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ โดยเอกลักษณ์ของแบรนด์สกินแคร์เยอรมันหรือ Made in Germany คือการคัดสรรส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติแบบปราศจากสารเคมีและนำมาผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีจนเกิดเป็นนวัตกรรมด้านส่วนผสมที่ผ่านการค้นคว้าและวิจัยว่าช่วยฟื้นบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นไปที่การบำรุงที่ตอบโจทย์และตรงจุดสำหรับแต่ละปัญหาผิวด้วยส่วนผสมแบบมินิมัลแต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
แบรนด์ในกลุ่ม G-Beauty ที่โว้กบิวตี้อยากแนะนำ:
ดูโพสต์นี้บน Instagram
Augustinus Bader
หลังเปิดตัวได้ไม่นานในปี 2018 แบรนด์ Augustinus Bader (ออกัสตินัส บาเดอร์) จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นน้องใหม่ในแวดวงสกินแคร์ระดับลักชัวรีเติบโตอย่างรวดเร็ว ก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์สกินแคร์แถวหน้าที่การันตีด้วยการกวาดรางวัลบิวตี้มามากมายและเป็นสกินแคร์ที่ครองใจเซเลบริตี้ระดับเอลิสต์ของฮอลลีวู้ด อย่าง Victoria Beckham, Kim Kardashian, Brad Pitt และ Gwyneth Paltrow มีจุดเริ่มต้นมาจากคิดค้นเจลที่ช่วยรักษาแผลไหม้จากไฟลวกโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดหรือปลูกถ่ายผิวหนังโดยศาสตราจารย์ Augustinus Bader ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาสาขาสเต็มเซลล์ประยุกต์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับเซลล์ ซึ่งต่อมาได้ถูกนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นนวัตกรรมด้านส่วนผสมที่มีชื่อว่า Trigger Factor Complex 8® หรือ TFC8® ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะที่ผสานเข้ากับสารออกฤทธิ์ต่างๆ กว่า 40 ชนิด เช่น กรดอะมิโน วิตามินคุณภาพสูง ไขมัน โปรตีน โดยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั้งหมดบนแนวคิดที่ว่า "ร่างกายสามารถเป็นนักบำบัดที่ดีที่สุดของตนเอง" หลังจากปล่อยผลิตภัณฑ์อย่าง The Cream และ The Rich Cream มอยส์เจอไรเซอร์ที่หลายคนรีวิวเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ฟื้นฟูผิวได้ครบจบในขวดเดียว ’ รวมถึงมีไอเท็มสำหรับบอดี้และเส้นผมด้วย ล่าสุดทางแบรนด์ขยายไลน์สกินแคร์เปิดตัวเซรั่มและอายครีมมาให้ใช้ร่วมกันในรูทีน
WATCH
ดูโพสต์นี้บน Instagram
Dr. Barbara Sturm
อีกหนึ่งแบรนด์สกินแคร์ที่บอกต่อกันโดยเซเลบริตี้ในแวดวงฮอลลีวูด ก่อตั้งโดยคุณหมอ Barbara Sturm แพทย์ผิวหนังชาวเยอรมันโด่งดังจาก Vampire Facial ทรีตเมนต์ฟื้นฟูผิวด้วยเกร็ดเลือด รวมถึง MC1 ครีมบำรุงผิวแบบ Customized ที่ออกแบบสำหรับแต่ละบุคคล แบรนด์ของคุณหมอเป็น Molecular Cosmetics เน้นการใช้ส่วนผสมแบบคลีนบิวตี้ที่ผ่านการค้นคว้าวิจัยและมุ่งเน้นเรื่องการต่อต้านการอักเสบของผิว (Anti-inflammatory) โดยมีส่วนผสมของสารสกัดจาก “Purslane” เป็นหัวใจของส่วนผสมในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ นอกจากการดูแลผิวภายนอกแล้ว แบรนด์ Barbara Sturm ยังสนับสนุนการดูแลผิวที่เริ่มจาก Self-care หรือการดูแลแบบองค์รวมที่ดูแลตั้งแต่จากการกินและการพักผ่อนให้เพียงพอ
ดูโพสต์นี้บน Instagram
Royal Fern
แบรนด์สกินแคร์โดย Dr. Timm Golueke แพทย์ผิวหนังชาวเยอรมัน โดยมีส่วนผสมของสารสกัดลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์อย่าง Royal Fern Complex เป็นส่วนผสมสำคัญในแต่ละผลิตภัณฑ์ ซึ่งจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าสารสกัดจากเฟิร์นนั้นอุดมด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระและสรรพคุณช่วยต้านการอักเสบ โดยช่วยชะลอการเสื่อมสลายของคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว ช่วยรับมือกับการร่วงโรยแห่งวัยของผิว
ดูโพสต์นี้บน Instagram
Susanne Kaufmann
แบรนด์จากประเทศออสเตรียก่อตั้งขึ้นโดย Susanne Kaufmann ถึงแม้จะไม่ใช่แบรนด์ที่ Made in Germany โดยตรง แต่เป็นนิยมในหมู่สาวฝั่งยุโรป เป็นแบรนด์สกินแคร์ที่เน้นการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ โดยมีปรัญชาการดูแลผิวแบบองค์รวม คือให้พลังจากส่วนผสมของธรรมชาติช่วยฟื้นฟูกลไกการฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติของผิว นอกจากนี้ยังเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรทั้งต่อผิวและสิ่งแวดล้อม
WATCH