SKINCARE

สกินแคร์ที่มี 'ซัลเฟอร์' หรือ 'กำมะถัน' ช่วยดูแลผิวโดยเฉพาะปัญหาสิวได้ดีอย่างไร

เจาะเรื่องจริงของ ‘ซัลเฟอร์’ กับประโยชน์ที่ดีต่อผิวมากกว่าที่คิด

     แม้ว่าชื่อของ ‘ซัลเฟอร์’ หรือ ‘กำมะถัน’ ฟังดูแล้วเป็นแร่ธาตุที่น่ากลัว แต่จริงๆ แล้วตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันซัลเฟอร์ถูกนำมาใช้เพื่อรักษาสิว รวมถึงจัดการปัญหาผิวอื่นๆ มาเป็นเวลานาน เพราะซัลเฟอร์มีความสามารถในการเปิดรูขุมขนและต่อต้านแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว รวมถึงช่วยผลัดเซลล์ผิวและสมานผิวได้ดี ซัลเฟอร์จึงเป็นส่วนผสมอย่างหนึ่งที่พบได้ในสกินแคร์ ซึ่งวันนี้โว้กบิวตี้จะพาไปทำความรู้จักกับ ‘ซัลเฟอร์’ กันให้มากขึ้นว่าดีต่อผิวจริงหรือไม่และมันทำงานอย่างไร

 

 

ซัลเฟอร์คืออะไร

     ซัลเฟอร์ หรือ กำมะถัน เป็นแร่ธาตุอย่างหนึ่งในธรรมชาติที่เป็นส่วนประกอบจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิต และพบได้ในร่างกายของคนไม่ว่าจะในผิวหนังและเส้นผม คุณสมบัติของกำมะถันที่รู้จักกันดีคือต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ เมื่อใช้ในการดูแลผิวกำมะถันจะช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินออกจากผิวที่เป็นสาเหตุของสิวและทำให้รูขุมขนไม่อุดตัน

 

 

ประโยชน์ของซัลเฟอร์ที่ดีต่อผิว

     คุณสมบัติของซัลเฟอร์นั้นเรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยรักษาสิวได้ดี เพราะมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรีย รวมถึงยังมีประโยชน์ต่อการดูแลผิวอย่างอื่นอีกดังนี้

     ขจัดสิว: ซัลเฟอร์ช่วยลดน้ำมันส่วนเกินบนผิว เมื่อนำไปทาบริเวณสิว ซัลเฟอร์จะทำงานให้ผิวแห้งลงจึงทำให้สิวหลุดลอกออกมา

     ส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิว: ซัลเฟอร์ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมขจัดสิ่งสกปรกและป้องกันรูขุมขนอุดตัน

     ต่อสู้กับแบคทีเรีย: ซัลเฟอร์มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งแพทย์ผิวหนังมักนำมาใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราต่างๆ

     รักษาโรคผิวหนัง: เนื่องจากซัลเฟอร์มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ซึ่งนอกจากจะนำมาใช้รักษาสิว ยังสามารถรักษาโรคผิวหนังอื่น เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคเซ็บเดิร์ม และโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง

 

 

 



WATCH



 

วิธีใช้สกินแคร์ที่มีซัลเฟอร์

     เนื่องจากซัลเฟอร์อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้สำหรับบางคน ซัลเฟอร์จึงมีอยู่ในรูปแบบ Short-Contact Cleanser หรือคลีนเซอร์ที่ใช้เพียงวันละครั้งและสัมผัสกับผิวหน้าในระยะเวลาสั้นๆ โดยปกติแล้วก็จะใช้ช่วงก่อนนอนเพราะมีกลิ่นที่แรง และควรหลีกเลี่ยงการทาผลิตภัณฑ์ที่มีซัลเฟอร์ซ้ำซ้อนกับผลิตภัณฑ์รักษาสิวอื่นๆ ที่อาจทำให้ผิวแห้งหรือผลัดเซลล์ผิว เช่น เรตินอยด์ เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ และกรดซาลิไซลิก เพราะไม่งั้นอาจทำให้ผิวแห้งและอักเสบได้

 

 

ผลข้างเคียงของการใช้ซัลเฟอร์

     เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน และถึงแม้ว่าซัลเฟอร์จะได้ผลดีกับคนส่วนใหญ่ แต่ซัลเฟอร์ก็อาจทำให้ผิวแห้งและเกิดความระคายเคืองต่อผิวบอบบาง เพราะฉะนั้นแนะนำให้ใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของซัลเฟอร์อย่างระมัดระวัง หากใช้แล้วมีผื่นขึ้น หรืออาการคันและแดง ควรหยุดใช้ทันที ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อขอคำแนะนำก่อนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบ

 

สกินแคร์ที่มีซัลเฟอร์ที่โว้กบิวตี้แนะนำ

1 / 3

Drying Lotion จาก Bye Bye Blemish for Acne 29.5 ml (ราคา 420 บาท)

โลชั่นชนิดน้ำทำมาจากซัลเฟอร์ 10% ใช้รักษาสิวหัวดำ สิวหัวขาว และสิวอักเสบที่มีเลือดคั่ง วิธีใช้ง่ายๆ เพียงใช้คอตตอนบัดจุ่มในโลชั่น และนำมาแตะเบาๆ ให้ทั่วบริเวณสิว

2 / 3

Acne Lotion จาก Clearogen 55 ml (ราคา 1,790 บาท)

โลชั่นแต้มสิวที่มีส่วนประกอบของซัลเฟอร์ ใช้รักษาสิว อ่อนโยนต่อผิว ป้องกันการเกิดสิวเห่อในอนาคต สามารถช่วยควบคุมการผลิตความมันตามธรรมชาติ ช่วยเปิดรูขุมขน และกำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ใช้เพียงวันละครั้งหลังจากล้างหน้าและเช็ดด้วยโทนเนอร์

3 / 3

Saturn Sulfur Spot Treatment Mask จาก Sunday Riley 15 ml (1,300 บาท)

ทรีตเมนต์มาส์กรักษาเฉพาะจุดที่ช่วยขจัดสิวในขณะที่ป้องกันไม่ให้เกิดสิวใหม่ ช่วยขจัดความมันส่วนเกินที่อุดตันรูขุมขน และขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น วิธีใช้เพียงนำมามาส์กหน้าทิ้งไว้ 20-30 นาที จนกว่าจะแห้ง และล้างออกด้วยน้ำเปล่า

ข้อมูล : Newbeauty, Byrdie

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Sulfur