ในยุคที่เรื่องสิ่งแวดล้อมกลายเป็นประเด็นที่เราไม่พูดถึงไม่ได้ วงการความงามเองก็เริ่มหันกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า เรากำลังใช้ทรัพยากรเกินไปหรือเปล่า? หนึ่งในเทรนด์ที่น่าสนใจในวงการความงามก็คือ ผลิตภัณฑ์บิวตี้แบบไร้น้ำ หรือที่หลายคนเรียกกันว่าผลิตภัณฑ์ Waterless
วันนี้โว้กบิวตี้เลยอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับคำว่าผลิตภัณฑ์ไร้น้ำ หรือ 'Waterless' ว่าคืออะไร ทำไมมีหลายแบรนด์ทั่วโลกถึงหันมาใส่ใจ และผลิตภัณฑ์ประเภทนี้สามารถช่วยโลกของเราได้จริงไหม?
'Waterless' หรือ ผลิตภัณฑ์ไร้น้ำ คืออะไร?
คือผลิตภัณฑ์บิวตี้ที่ไม่มีน้ำเป็นส่วนประกอบในสูตร หรือมีในปริมาณน้อยมากเท่าที่จำเป็น โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้น้ำสะอาดที่ไม่จำเป็นในอุตสาหกรรมความงาม ซึ่งหากพูดตรงๆแล้ว อุตสาหกรรมความงามถือว่าเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ใช้น้ำจำนวนมากทั้งในกระบวนการเพาะปลูกวัตถุดิบ การผลิต และการปรุงสูตร
โดยแนวคิดการทำผลิตไร้น้ำเริ่มต้นจากประเทศเกาหลีใต้ และได้รับความสนใจมากขึ้นในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ก่อนจะกลายเป็นอีกหนึ่งคอนเซปต์หลักของ "Clean Beauty" หรือวงการบิวตี้ที่คำนึงถึงการรักษ์สิ่งแวดล้อม

โดยปกติแล้วน้ำเป็นส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์บิวตี้ทั่วไปในอัตราสูงถึง 70-80% เพราะน้ำมักใช้เป็นตัวทำละลายหลักเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากัน ทว่าในผลิตภัณฑ์แบบไร้น้ำ น้ำกลับถูกแทนที่ด้วยส่วนผสมเข้มข้น อาทิ น้ำมันธรรมชาติ บัตเตอร์ หรือสารสกัดจากพืชที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ด้วยความเข้มข้นที่สูงกว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถใช้ในปริมาณน้อยแต่ให้ผลลัพธ์ที่เด่นชัด ทั้งยังยืดอายุการใช้งาน ลดการใช้บรรจุภัณฑ์ และลดการพึ่งพาสารกันเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ทำไมผลิตภัณฑ์ไร้น้ำถึงมีผลดีต่อโลก?
ปัญหาการใช้น้ำเกินจำเป็น (Overconsumption of Water) เป็นประเด็นสิ่งแวดล้อมระดับโลกที่น่าวิตก
ตามข้อมูลจาก UNICEF ระบุว่ากว่า 2 พันล้านคนทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำสะอาดและสถานการณ์นี้มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นทุกปี ส่วนหนึ่งมาจากการใช้น้ำมหาศาลในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงในอุตสาหกรรมความงามที่ต้องพึ่งพาน้ำในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเพาะปลูกวัตถุดิบ การสกัดสารสำคัญ การผลิต จนถึงสูตรผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่น้ำมักเป็นส่วนประกอบหลัก
การทำผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ Waterless จึงไม่ใช่แค่กิมมิกทางการตลาด หากแต่เป็นแนวทางใหม่ที่สะท้อนจิตสำนึกของวงการบิวตี้ร่วมสมัยที่เคารพต่อธรรมชาติมากขึ้น ทั้งการลดหรือหลีกเลี่ยงการใช้น้ำในผลิตภัณฑ์มีประโยชน์ลดการใช้น้ำสะอาดในกระบวนการผลิต ลดคาร์บอนฟุตพรินต์เพราะผลิตภัณฑ์มีขนาดเล็ก เบา ขนส่งง่าย รวมถึงลดขยะบรรจุภัณฑ์ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้ขวดใหญ่ๆ หรือพลาสติกจำนวนมาก และยืดอายุการเก็บรักษา โดยไม่ต้องใช้สารกันเสียหนักๆ
วันนี้โว้กบิวตี้มี 5 ผลิตภัณฑ์บิวตี้ Waterless ที่น่าสนใจ มาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกัน
5 ผลิตภัณฑ์บิวตี้ที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำ
1 / 5
Solid Shampoo Bars จาก LUSH
แชมพูในรูปแบบก้อนหนึ่งที่สามารถใช้แทนแชมพูเหลวได้ถึง 2–3 ขวด ประหยัดพื้นที่ เก็บง่าย บำรุงผมด้วยส่วนผสมอย่างมีประสิทธิภาพ มีหลากหลายกลิ่นแตกต่างกัน เต็มไปด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ และ น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ ที่ถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน
2 / 5
Honey Glow Balm จาก Pinch of Colour
บาล์มแบบแท่งที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและมอบผิวโกลว์สุขภาพดี ใช้ได้ทั้งบนใบหน้า ริมฝีปาก หรือบริเวณที่ต้องการความเปล่งประกายอุดมด้วยเชียบัตเตอร์ น้ำมันคาเมลเลีย วิตามินอี และสารสกัดจากน้ำผึ้ง ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มนวลโดยไม่เหนียวเหนอะ เหมาะสำหรับผิวแห้ง ผิวบอบบาง หรือผู้ที่มองหาบาล์มมัลติฟังก์ชันในแท่งเดียว
3 / 5
Hydrating Seafoam Cleanser จาก Seadrop
คลีนเซอร์แบบใช้เม็ดแห้งผสมน้ำนิดหน่อยเพื่อเปลี่ยนเป็นโฟมฟองนุ่มๆ คลีนได้ล้ำลึกด้วย kaolin clay เอนไซม์จากมะละกอ และน้ำมันโอ๊ต ที่ช่วยทำความสะอาดพร้อมคงความชุ่มชื้นพกพาง่าย ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับนักเดินทาง และผู้ที่ต้องการคลีนเซอร์อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองเลย
4 / 5
Moondust Hair Conditioner จาก Susteau
คอนดิชันเนอร์สูตรผงแบบ powder‑to‑liquid ที่เติมน้ำเล็กน้อยตอนใช้แล้วกลายเป็นเนื้อครีมนุ่ม ลื่น
มีส่วนผสมหลักอย่าง น้ำมันอาร์แกน ว่านหางจระเข้ สควาเลน และโปรตีนจากข้าว (Rice Protein) เหมาะสำหรับทุกสภาพผม โดยเฉพาะคนที่ต้องการดูแลผมแห้งเสียหรือทำสี
5 / 5
Waterless Vitamin C Ampoule จาก Vegreen
เซรั่มวิตามินซีสูตรไม่มีน้ำ เสริมประสิทธิภาพด้วย Ascorbic Acid และ Ethyl Ascorbyl Ether ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของวิตามินซีที่เสถียรสูง ช่วยลดการเจือจางจากน้ำและออกซิเดชัน ผิวดูสว่างกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ เหมาะกับผู้ที่มองหาผลลัพธ์ฟื้นฟูเข้มข้น
ข้อควรระวังเล็กน้อยสำหรับผลิตภัณฑ์ Waterless หรือไร้น้ำ
ผลิตภัณฑ์ไร้น้ำ (Waterless) เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับทั้งแบรนด์ที่ต้องการลดการใช้น้ำและผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน
สำหรับผู้บริโภคแล้ว เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักมีความเข้มข้นสูง อาจทำให้ผิวบางคน โดยเฉพาะผิวบอบบางหรือแพ้ง่ายเกิดการระคายเคืองได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ ควรศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดและทดลองใช้ทีละน้อยเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะกับสภาพผิวของคุณ
อ้างอิง : Unicef
รูปภาพ : Unsplash+, Courtersy of Brands

