SKINCARE

Davines แบรนด์บิวตี้รักษ์โลกที่มุ่งมั่นกับก้าวไปข้างหน้าด้วยวิสัยทัศน์ความงามยั่งยืน ‘Pure Beauty’

โว้กบิวตี้พาเจาะลึกหัวใจของแบรนด์บิวตี้รักษ์โลก Davines ผ่านการพูดคุยกับประธานบริหารเครือความงามดาวิเนสกรุ๊ป Davide Bollati ถึงการก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนด้วยผลิตภัณฑ์บิวตี้ที่ดีต่อผม ผิว และธรรมชาติ

เป็นเวลากว่า 40 ที่แบรนด์แฮร์แคร์สายกรีนบิวตี้อย่าง Davines มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงามที่เป็นมิตรต่อเส้นผมและในขณะเดียวกันเดินหน้าดูแลโลกนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นด้วยกระบวนการสร้างสรรค์ที่ใส่ใจต่อธรรมชาติ

“พวกเราคือบริษัท Pure Beauty” Davide Bollati ประธานบริหารแบรนด์ดาวิเนส พูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับโว้กบิวตี้ถึงหัวใจของการเป็นแบรนด์บิวตี้ที่คำนึงถึงอนาคตและมิชชั่นล่าสุดของดาวิเนสขณะเดินทางมาเยี่ยมประเทศไทย โดยพาเราไปรู้จักกับที่มาของแบรนด์ความงามสัญชาติอิตาลีที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมอย่างไม่หยุดนิ่งและแรงบันดาลที่ทำให้ยืนหยัดเพื่อโลกที่น่าอยู่นับตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งแบรนด์ พร้อมเล่าถึงความสำคัญของการได้เป็นแบรนด์ที่รับการรับรอง Certified B Corporation ซึ่งการันตีการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน จวบจนแชร์ถึงไอเท็มบิวตี้ชิ้นเอสเซนเชียลที่อยากให้สาวกบิวตี้ชาวไทยได้ลองกัน

 

4 ทศวรรษของการเป็นผู้นำด้านคลีนบิวตี้และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

สำหรับแบรนด์ดาวิเนสการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เทรนด์หรือคีย์เวิร์ดเพื่อการตลาด แต่เป็นปรัชญาที่แบรนด์ยึดถือมาตลอด 40 ปี  “ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเติบโตมากับคุณปู่คุณย่าที่ทำอาชีพเกษตรกรรมและการได้อยู่ในฟาร์ม ท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งทำให้ผมสนใจการใส่ใจสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่เด็ก พ่อและแม่ของผมสร้างแบรนด์นี้ขึ้นในช่วงยุค 80s และตัวผมเข้ามาดูแลต่อในยุค 90s ซึ่งเริ่มจากการทำงานในแผนกกระบวนการผลิตในแล็บในฐานะนักเคมี และต่อมาเข้ามาช่วยดูแลในแผนกอื่นๆ เรื่อยมาจนเข้ามาบริหารอย่างเต็มตัวและขยายแบรนด์ไปยังตลาดความงามรอบๆ โลก” Davide เล่าให้โว้กฟังถึงจุดเริ่มต้นที่สร้างแรงบันดาลใจให้เขาในการรับช่วงต่อธุรกิจครอบครัวและสานต่อปรัชญาความงามที่เป็นมิตรต่อโลก “ที่ดาวิเนสเรามีแล็บหลากหลายแบบซึ่งมีการใช้นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาผลิตภัณฑ์” Davide อธิบายต่อพร้อมกล่าวถึงกระบวนการผลิตที่เกิดขึ้นภายใน Davide Village หรือหมู่บ้านดาวิเนสซึ่งเป็นศูนย์กลางของการรังสรรค์ทุกๆ ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ในเครือดาวิเนสกรุ๊ป ที่ตั้งอยู่ในเมือง Parma ประเทศอิตาลี โดยผืนดินขนาดใหญ่แห่งนี้ถูกเนรมิตให้เป็นศูนย์กลางที่ประกอบด้วยออฟฟิศ ศูนย์การวิจัย  และสวนพืชพรรณต่างๆ



WATCH



 

ความงามที่ยั่งยืนด้วยพลังงานหมุนเวียน

คลีนบิวตี้เป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจในอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหัวใจของการเป็นคลีนบิวตี้คือการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติไปจนถึงการใช้แพ็กเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยดาวิเนสเป็นอีกหนึ่งแบรนด์คลีนบิวตี้ที่นำหน้ามาไกลในแง่ของการให้ความสำคัญกับการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกๆ กระบวนการผลิต ซึ่งคำนึงตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุสำหรับบรรจุภัณฑ์ “สำหรับผมคลีนบิวตี้คือเราสามารถเข้าใจแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ ว่าส่วนผสมแต่ละชนิดสามารถนำมาหมุนเวียนได้หรือไม่ แพ็กเกจของผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อโลกแค่ไหน สามารถลดการสร้างขยะพลาสติกอย่างไรได้บ้าง” Divide นิยามคลีนบิวตี้ในมุมมองของเขากับโว้ก พร้อมแชร์กับเราถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานสะอาด (Green Energy) ในทุกๆ มิติของแบรนด์ดาวิเนสที่ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงพลังงานที่ใช้รอบๆ Divines Village

 

 

 

 

 

Certified B Corporation การันตีแบรนด์บิวตี้ที่เป็นมิตรต่อผิวและฟีลกู้ดเพราะได้คืนกำไรให้สังคม

นอกจากผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ที่เน้นส่วนผสมธรรมชาติและเป็นมิตรต่อเส้นผมและโลกแล้ว ในเครือดาวิเนสกรุ้ปยังมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์สายคลีนบิวตี้ที่ล้ำหน้าด้วยนวัตกรรมมาให้คอมพลีตรูทีนบิวตี้ ได้แก่ Skin Regimen และ Comfort Zone โดยกระบวนการผลิตของแต่แบรนด์ได้ยึดถือคอนเซปต์ความงามที่ยั่งยืนมาตั้งแต่ปี 2006 และไม่นานมานี้ดาวิเนสได้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นในฐานะแบรนด์บิวตี้รักษ์โลกจากการได้รับการรับรอง มาตรฐาน Certified B Corporation สังเกตง่ายๆ ได้จากสัญลักษณ์ตัวอักษร B บนผลิตภัณฑ์  “B-Corp คือการที่แบรนด์หรือองค์กรได้มีโอกาสมอบประโยชน์และสิ่งดีๆ คืนกลับให้สังคม” Davide อธิบายกับโว้กพร้อมแชร์ว่าการมีตราประทับนี้อยู่บนผลิตภัณฑ์ถือเป็นความภาคภูมิใจของดาวิเนสเพราะต้องผ่านกระบวนการวัดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 80 คะแนนถึงจะผ่านและได้รับการรับรอง โดยจะถูกประเมินใหม่ทุกๆ 3 ปี และในปี 2023 ที่ผ่านมาคะแนน B-Corp ของดาวิเนสนั้นอยู่ที่ 123.5 ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนจุดยืนและวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในด้านความงามที่ยั่งยืน

ผลิตภัณฑ์ที่โว้กบิวตี้อยากบอกต่อ

 Recharging Mist จาก Skin Regimen ราคา 1,900 บาท

สเปรย์บำรุงผิวหน้าช่วยปลุกความสดชื่น เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว มาพร้อมคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและปกป้องผิวจากแสงบลูไลท์ที่มาจากหน้าจอคอมฯ และมือถือ

 

Sublime Skin Intensive Serum จาก Comfort Zone ราคา 5,200 บาท

เซรั่มเข้มข้นแต่เบาสบายผิว ช่วยฟื้นบำรุงให้ดูอิ่มเอิบและชุ่มชื่น อัดแน่นด้วยสารสกัดทางชีวภาพที่คิดค้นมาเพื่อช่วยตอบโจทย์การถนอมความอ่อนเยาว์ของผิวหน้า

 

OI Hair Oil จาก Davines ( ราคาสอบถามได้ที่ตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ทั่วประเทศ )

ออยล์เข้มข้นสำหรับบำรุงเส้นผมให้ชุ่มชื่นและเงางาม โดยไม่ทำให้ผมหนักหรือลีบแบน ไลน์ OI ถือเป็นหนึ่งในไอเท็มยอดนิยมของดาวิเนสที่สาวกบิวตี้ทั่วโลกชื่นชอบ

WATCH