SKINCARE

เผย 5 สิ่งที่จะได้จากการอบไอน้ำใบหน้า ที่ไม่ใช่ผิวเท่านั้นที่ได้ประโยชน์!

‘อบไอน้ำใบหน้า’ เคล็ดลับที่เป็นได้มากกว่าการเปิดผิวให้พร้อมสู่การบำรุงในขั้นตอนต่อไป

     หลายคนรู้จักการอบไอน้ำใบหน้าเพื่อความผ่อนคลาย แต่จริงๆ แล้วหากเราทำการอบไอน้ำใบหน้าด้วยวิธีที่ถูกต้อง มันจะมีประโยชน์ต่อผิวหน้าได้มากกว่าที่คิด ทั้งนี้ต้องเน้นย้ำว่าต้องใช้วิธีที่ “ถูกต้องและปลอดภัย” จริงๆ รวมถึงไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น รอยแดง ผิวแห้ง หรือการอักเสบ วันนี้โว้กบิวตี้จะมาแนะนำวิธีการอบไอน้ำใบหน้าที่ถูกต้อง พร้อมพาไปรู้จักกับประโยชน์ที่จะได้รับจากการทำสิ่งนี้

 

 

วิธีการอบไอน้ำใบหน้าที่ถูกต้อง

     สำหรับใครที่อยากจะใส่การอบไอน้ำใบหน้าเข้าไปในรูทีนดูแลผิว อย่างแรกที่อยากแนะนำคือไม่จำเป็นต้องทำทุกวัน แต่ทำแค่สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว โดยในการอบไอน้ำแต่ละครั้งควรจำกัดอยู่ที่ 10 นาที และสูงสุดแค่ 15 นาทีเท่านั้น รวมถึงเว้นระยะใบหน้าจากภาชนะใส่น้ำอย่างน้อย 12-16 นิ้ว และควรใช้มือทดสอบอุณหภูมิของน้ำก่อนว่าไม่ร้อนจนเกินไป หรือเย็นไปจนไม่เกิดไอน้ำเลย จากนั้นค่อยทำการคลุมผ้าบนศีรษะและปล่อยให้ไอน้ำสัมผัสกับผิวหน้า ด้วยการวางภาชนะใส่น้ำร้อนลงบนโต๊ะ จากนั้นก้มหน้าลงเพื่ออังหน้ากับไอน้ำ เพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุดแนะนำให้ใช้น้ำกลั่นสะอาดที่ได้จากการกรอง และมั่นใจได้ว่าไม่มีแร่ธาตุหรือแบคทีเรียปะปน เมื่อได้ทราบถึงวิธีการอบไอน้ำใบหน้าที่ถูกต้องแล้ว ต่อไปเราจะพาไปรู้จักกับประโยชน์ของมันกันให้มากขึ้น

 

 

1. ช่วยคลายสิ่งสกปรกในรูขุมขนและขจัดออกได้ง่ายขึ้น

     การอบไอน้ำใบหน้าจะช่วยให้ผิวหน้านุ่มขึ้น และทำให้สิ่งใดก็ตามที่อยู่ในรูขุมขนคลายตัวออกมาและขจัดออกได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้อย่าลืมล้างหน้าก่อนทำการอบไอน้ำและใช้เคลนเซอร์ที่มีคุณสมบัติในการขัดผิว เพื่อเป็นตัวช่วยในการกำจัดสิ่งสกปรกและสิ่งตกค้างออกจากรูขุมขนได้ทั้งหมด จริงอยู่ว่าทุกสภาพผิวสามารถอบไอน้ำใบหน้าได้ แต่ก็ไม่แนะนำเท่าไหร่สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายและผิวที่มีปัญหาเรื่องรอยแดงอยู่แล้ว

 



WATCH



2. ช่วยบูสต์การทำงานของผลิตภัณฑ์ให้บำรุงได้ดียิ่งขึ้น

     หลังจากการอบไอน้ำใบหน้า รูขุมขนย่อมถูกล้างออกและปรับผิวให้นุ่มขึ้น ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ก็จะสามารถเจาะลึกและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นสูงหลังอบไอน้ำทันที เพราะผิวจะไวกับส่วนผสมและอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ควรเลี่ยงพวก Retinoids หรือผลิตภัณฑ์ประเภท Exfoliator ที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว แนะนำให้ไปใช้ครีมบำรุงผิวหรือมาส์กที่ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้ผิวแทนจะดีกว่า 

 

3. เพิ่มการไหลเวียนของเลือดเพื่อใบหน้ากระจ่างใส

     การอบไอน้ำหน้าแบบรวดเร็วเป็นหนึ่งในวิธีที่เร็วและง่ายที่สุดในการทำให้ผิวกระจ่างใสแลดูเปล่งปลั่ง นั่นก็เพราะไอน้ำจะทำหน้าที่ไปขยายหลอดเลือดบนผิวหน้า และไปเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปสู่ผิวหนัง รวมถึงนำออกซิเจนและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวมากขึ้น นั่นจึงส่งผลให้ผิวหน้าดูโกลว์สว่างกระจ่างใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น

 

4. ช่วยต่อสู้กับอาการบวมได้

     หนึ่งในประโยชน์ที่ถือว่าสำคัญที่สุดที่ได้จากการอบไอน้ำใบหน้าคือช่วยล้างไซนัส (โพรงจมูก) ที่มีอาการคั่ง ซึ่งมันทำให้ใบหน้าบวมโดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา การอบไอน้ำจะช่วยให้ของเหลวและสารพิษที่ถูกกั้นไว้ในช่องต่อน้ำเหลืองถูกปล่อยออกมาจากไซนัส แนะนำเพิ่มเติมว่าให้กระตุ้นการไหลของน้ำเหลืองด้วยการนวดใบหน้าเบาๆ ไปพร้อมกับอบไอน้ำด้วย

 

5. ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

     แม้ว่าการอบไอน้ำใบหน้าจะไม่ได้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนกับไปนวดหน้าหรือทำสปา แต่เมื่อผิวหน้าได้สัมผัสกับไอน้ำที่มีความอุ่น ก็ช่วยให้ผ่อนคลายและลดความเครียด อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าความเครียดส่งผลเสียจนทำให้ผิวแก่กว่าวัยได้ แนะนำให้ใช้ไอเท็มเสริมด้วยการเติมสมุนไพรหรือน้ำมันหอมระเหยลงในน้ำด้วย สิ่งนี้จะช่วยให้ความผ่อนคลายเพิ่มขึ้นอีกระดับ 

 

     การอบไอน้ำใบหน้าถือเป็นอีกหนทางหนึ่งเพื่อการมีผิวสวยสุขภาพดี สามารถทำได้ด้วยวิธีพื้นฐานที่เราแนะนำไปข้างต้น หรืออีกวิธีที่ใช้ผ้าขนหนูเป็นตัวช่วย โดยนำผ้าขนหนูที่เปียกหมาดด้วยน้ำอุ่นประคบหน้าให้ทั่ว และคลุมหน้าไว้ประมาณ 5 นาที แต่ถ้าหากต้องการความสะดวกที่สุด ปัจจุบันก็มีเครื่องอบไอน้ำหน้าให้เลือกใช้ด้วยเช่นกัน

 

ภาพ : Vedix
ข้อมูล : Byrdie, Healthline

WATCH