2. เลี่ยงเคลนเซอร์ที่มีส่วนผสมทำร้ายผิวอย่าง SLS เป็นต้น 

เมื่อผิวของเราขาดน้ำหรือแห้ง ต่อมผลิตน้ำมันของเราจะทำงานหนักขึ้นและเป็นที่มาของการเกิดน้ำมันส่วนเกินบนผิว ดังนั้นสิ่งที่ควรระวังคือการใช้เคลนเซอร์ที่ล้างแล้วผิวเอี๊ยดและแห้งตึง เพราะแน่นอนว่าผิวสะอาดจริงแต่เนื่องจากในเคลนเซอร์บ้างตัวมักจะมีส่วนผสมของสาร SLS (sodium lauryl sulfate) ที่ช่วยดึงสิ่งสกปรกและสลายคราบน้ำมันแต่อาจดึงความชุ่มชื้นของผิวไปด้วยขณะที่เราล้างหน้า ทางที่ดีควรเลือกเคลนเซอร์ที่ปราศจากสารเคมีทำร้ายผิวและเลือกเคลนเซอร์ที่ช่วยปลอบประโลมและมอบความชุ่มชื้นหลังการทำความสะอาด

3. อย่าลืมผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำ

สำหรับคนที่มีผิวมัน การผลัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างเป็นประจำถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อเซลล์ผิวเก่าและสิ่งสกปรกเกิดการหมักหม่มอาจลงไปอุดตันรูขุมขนได้ และแน่นอนสิวคือสิ่งที่จะตามมา

4. อย่าปล่อยให้ผิวขาดความชุ่มชื้น

สิ่งสำคัญในควบคุมความมันบนผิวก็คือการดูแลผิวให้ชุ่มชื้น โดยคนผิวมันควรใส่ใจในเรื่องการใช้สกินแคร์ที่ช่วยมอบความชุ่มชื้น เพราะเมื่อผิวแห้งหรือขาดน้ำต่อมไขมันจะเริ่มผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมา 

5. เติมสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ linoleic acid เข้าไปในรูทีน

ผลวิจัยพบว่าคนที่มีสภาพผิวมันและเป็นสิวง่ายมักจะมีปริมาณของ กรด linoleic ภายในผิวต่ำ ซึ่งกรด linoleic ก็คือโอเมก้า 6 หรือกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่พบอยู่ตามลิปิด (lipid) ในชั้นผิวของเรา โดยเมื่อผิวของเรามีกรด linoleic ต่ำ น้ำมันในผิวของเราก็จะหนาขึ้นและสามารถไปอุดตันรูขุมขนได้ การเติมกรด linoleic ให้แก่ผิวด้วยการใช้สกินแคร์อย่าง เฟสออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติจะช่วยปรับให้การผลิตน้ำมันในผิวของเราสมดุลขึ้นได้ อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดสิวอีกด้วย

6. มาส์กด้วยมาส์กโคลนเป็นประจำ

เคลย์มาส์กหรือมาส์กโคลนจะช่วยดึงดูดสิ่งสกปรกและคราบน้ำมันออกจากรูขุมขน ช่วยให้ผิวสะอาด อย่างไรก็ตามควรเลือกใช้เคลย์มาส์กที่ช่วยคงความชุ่มชื้นไว้ในผิวด้วยนะสาวๆ