ในปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มมีความรอบคอบมากขึ้นในการเลือกทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง สังเกตได้จากกระแสการขยันออกมาฟิตและสร้างกล้ามเนื้อของสาวๆ ที่ไม่ต้องการทำเพื่อลดน้ำหนักแต่เพื่อฟุ่นที่เฟิร์มสวย ซึ่งไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตให้เฮลตี้ขึ้นก็รวมถึงการหันมาเลือกใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของธรรมชาติกันมากยิ่งขึ้นด้วย โดยในปีที่ผ่านมาเครื่องสำอางหลายๆ แบรนด์ก็ได้มีการพัฒนาสูตรและผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อผิว เน้นส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติ และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกันเพื่อตอบรับกับกระแสของผู้บริโภค โดยเฉพาะชาว Gen Z และมิลเลนเนียลที่เริ่มตระหนักถึงที่อาหารที่ทานและส่วนผสมของสกินแคร์ที่ทาลงบนผิวกันมากขึ้น อย่างไรก็ตามคลีนบิวตี้ หรือเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายและส่วนผสมที่อ่านออกเสียงยากนั้นก็ถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มอีกที ซึ่งได้แก่สกินแคร์ที่ส่วนผสมเป็นธรรมชาติ และสกินแคร์ที่มีส่วนผสมเป็นออแกนิค

สกินแคร์ที่ระบุว่าเป็นเนเชอรัล (Natural Skincare) หมายถึงว่าสกินแคร์หรือเครื่องสำอางนั้นๆ มีส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติ โดยแบรนด์จะเลือกใช้ส่วนผสมที่มาจากผืนโลกและพยายามเลี่ยงการนำมาผ่านกระบวนการต่างๆ ให้มากที่สุดเพื่อคงคุณค่าและความเป็นธรรมชาติไว้ แต่สำหรับสกินแคร์ที่เป็นออแกนิค (Organic Skincare) จะหมายถึงสกินแคร์ที่ส่วนผสมมีความบริสุทธิ์และไร้ซึ่งสารเคมีแบบ 100 เปอร์เซนต์ โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกพืชพรรณที่นำมาใช้ในสกินแคร์ที่ต้องปลูกบนพื้นดินที่บริสุทธิ์และจะต้องไม่ถูกดัดแปลงทางพันธุกรรม (GMO)  เพราะเหตุนี้สกินแคร์ที่เป็นออกแกนิคจึงมีราคาสูงเพราะกระบวนการปลูกและสร้างสรรค์นั้นมาจากการดูแลอย่างประณีตและใช้เวลา

ในปัจจุบันการเลือกซื้อสกินแคร์ที่เป็นธรรมชาติ ออแกนิค หรือแม้กระทั้งวีแกน (Vegan) ซึ่งไม่มีส่วนผสมหรือทดลองจากสัตว์ ก็สามารถดูได้จากฉลากที่ระบุว่าเป็น Certified Organic เป็นต้น รวมถึงสามารถเช็คได้ผ่านแอพอย่างเช่น แอพ Skin Deep หรือ Skin Ninja ที่ให้เราสามารถสแกนบาร์โค้ดเพื่อเช็คประเภทของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

 

Organic Skincare:

1 / 3

2 / 3

3 / 3

Natural Skincare:

 

1 / 3

2 / 3

3 / 3