‘ไฮไลเตอร์’ เป็นไอเท็มที่จะช่วยเพิ่มความโกลว์ให้ผิวฉ่ำน้ำ ดูมีสุขภาพดี รวมถึงช่วยให้ลุคของเราดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผิวดูมีประกายเล่นแสง ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็ดูสวยเช่นกัน ซึ่งไฮไลเตอร์มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ตามความต้องการของลุค แต่ละแบบก็ให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน ทั้งยังตอบโจทย์กับแต่ละสภาพผิวไม่เหมือนกันอีกด้วย ฉะนั้นการเลือกใช้ไฮไลเตอร์ให้ถูกต้องก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เมกอัปของเราดูโดดเด่นยิ่งขึ้น โว้กบิวตี้พามาทำความรู้จักกับเนื้อสัมผัสต่างๆ ของไฮไลเตอร์ให้มากกว่าเดิม
แป้ง
แป้ง (Powder) เป็นเนื้อสัมผัสสุดเบสิกที่ใครก็มี เพราะใช้งานง่าย สามารถพกไปเติมได้ระหว่างวัน มอบฟินิชลุคบางเบา ดูเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความติดทนอาจจะน้อยกว่าเนื้อสัมผัสแบบอื่น เหมาะสำหรับการแต่งหน้าที่ต้องการความบางเบา เช่น Everyday look หรือ Soft glam มากกว่าลุคที่ต้องการให้ผิวดูฉ่ำโกลว์ สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว แต่ถ้าใครมีผิวแห้งแล้วกลัวเนื้อแป้งไม่ติดผิว แนะนำให้ลงไฮไลเตอร์เนื้อลิควิดก่อน เพราะจะช่วยให้เนื้อแป้งติดทนยิ่งขึ้น
High Glow Mineral Highlighting Powder จาก Catrice (ราคา 265 บาท)
เนื้อบาล์ม
ผิวฉ่ำแบบดูเป็นธรรมชาติต้องยกให้เนื้อสัมผัสนี้ เพราะเนื้อบาล์มจะมาพร้อมกับชิมเมอร์ขนาดเล็กจิ๋วที่เรียกว่าเมื่อเกลี่ยแล้ว สามารถเบลนด์เข้าไปกับผิวได้ดี เมื่อผิวกระทบกับแสง ผิวจะดูฉ่ำโกลว์ เล่นแสงแบบเป็นธรรมชาติสุด แถมเนื้อบาล์มยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวไปในตัวอีกด้วย ใครที่มีผิวแห้งควรลองใช้เนื้อสัมผัสนี้ แนะนำให้วอร์มผลิตภัณฑ์บนนิ้วมือหรือหลังมือก่อน แล้วค่อยใช้นิ้วแตะลงบนผิวหน้า เพราะเนื้อบาล์มจะกลืนไปกับผิวได้ง่าย
True Dimension Radiance Balm จาก Hince (ราคา 1,200 บาท)
เนื้อลิควิด
เนื้อลิควิดสามารถใช้ได้หลายแบบ เช่น นำมาผสมกับรองพื้น เพื่อให้ผิวดูโกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ นำมาใช้เป็นเบสเมกอัปก่อนลงไฮไลเตอร์แบบฝุ่นตามทีหลัง หรือจะนำมาใช้แต่งตาก่อนลงอายแชโดว์ก็ได้เช่นกัน เรียกว่าเป็นเนื้อสัมผัสนานาประโยชน์จริงๆ ทั้งยังให้สีที่ชัดและติดแน่นทนนาน เหมาะกับลุคออกงานจัดเต็มหรือลุคที่ต้องการความติดทนเป็นพิเศษในวันนั้น สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว แต่ถ้าคนที่มีผิวมันหรือรูขุมขนกว้าง อาจจะหลีกเลี่ยงการใช้ผสมกับรองพื้น เพื่อไม่ทำให้รูขุมขนของเราดูโดดเด่นกว่าเดิมนั่นเอง
Eaze Drop'Lit All-Over Glow Illuminator จาก Fenty Beauty (ราคา 1,490 บาท)
แบบสเปรย์
ไฮไลเตอร์แบบสเปรย์มักถูกนำมาใช้กับผิวกายมากกว่าผิวหน้า แต่เราก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับผิวหน้าได้เช่นกัน โดยเนื้อสเปรย์จะมีขนาดละอองเล็กมาก จึงทำให้ขนาดของชิมเมอร์ที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อไฮไลเตอร์มีความละเอียดสุดๆ ถ้าคิดไม่ออกว่าจะใช้กับลุคไหน ลุคที่เราแนะนำคือลุคแต่งหน้าผิวแทนฉ่ำโกลว์ สำหรับคนที่มีแพลนไปนอนอาบแดดริมทะเล และอีกหนึ่งลุคคืองานผิวฉ่ำวาวที่อยากได้ความดิวอี้ขั้นสุด เพียงแค่แต่งหน้าให้เสร็จตามปกติ แล้วฉีดสเปรย์ไฮไลเตอร์ โดยถือให้ห่างจากใบหน้าประมาณ 1 ไม้บรรทัด เพื่อให้ละอองกระจายอย่างทั่วถึงทั้งหน้านั่นเอง
Major Glow Highlighting Mist จาก Patrick Ta (ราคา 1,390 บาท)
เนื้อเจลลี่
เนื้อเจลลี่เป็นอีกหนึ่งเนื้อสัมผัสน้องใหม่ที่กำลังมาแรง เพราะเป็นเนื้อสัมผัสที่ความนุ่มเด้ง เนียนละเอียดและบางเบา ทำให้สามารถแนบสนิทเนียนไปกับผิว ติดทนนาน นอกจากนี้ยังมักมาพร้อมกับส่วนผสมที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งกร้านระหว่างวันอีกด้วย สามารถใช้เดี่ยวๆ ได้แบบไม่ต้องเซ็ตแป้งตามทีหลัง เพราะเนื้อไม่เหลวจนเกินไป เกลี่ยและเซ็ตตัวกับผิวได้ง่าย แต่ถ้าใครมีผิวมันหรือผิวผสมแล้วกลัวเยิ้มระหว่างวัน สามารถใช้ไฮไลเตอร์แบบแป้งฝุ่น ปัดทับบางๆ ได้เช่นกัน
Munyutto Highlighter จาก Canmake (ราคา 300 บาท)
แบบแท่ง
ไฮไลเตอร์แบบแท่งมีเนื้อสัมผัสที่ไม่เหลวหรือแห้งจนเกินไป มีความบางเบา จึงสามารถใช้ได้ง่าย พกพาไปเติมระหว่างวันก็สะดวก เพราะมีขนาดเล็ก ทั้งยังไม่ต้องพึ่งแปรงแต่งหน้า สามาถใช้ปาดจากแท่งและใช้นิ้วของเราเกลี่ยได้เนียนไปกับผิวได้เลย เป็นอีกหนึ่งประเภทของเนื้อสัมผัสที่ให้ความเป็นธรรมชาติกับผิว ผิวฉ่ำโกลว์เหมือนเพิ่งไปออกกำลังกายมา แถมไม่ทำให้เยิ้มหรือเป็นคราบระหว่างวันอีกด้วย
On-The-Glow Superglow Highlight Moisture Stick จาก PIXI (ราคา 790 บาท)
เนื้อคุชชั่น
รู้หรือไม่ว่าไฮไลเตอร์มีเนื้อสัมผัสแบบคุชชั่นเช่นกัน ซึ่งเนื้อสัมผัสประเภทนี้จะช่วยเน้นเรื่องการมอบความชุ่มชื้นเป็นหลัก ให้การติดทนนานโดยไม่อุดตันรูขุมขน ทั้งยังมาพร้อมกับส่วนผสมจากธรรมชาติที่เป็นเหมือนสกินแคร์ชิ้นหนึ่ง ช่วยบำรุงผิวไปในตัวอีกด้วย เทคนิคการใช้ง่ายๆ คือแนะนำให้จับคู่กับเบสเมกอัปที่มีความเป็นธรรมชาติ ไม่แน่นหรือหนาจนเกินไป เช่น บีบีครีมหรือกันแดดแบบมีสี เพราะเมื่อเราลงไฮไลเตอร์คุชชั่น จะไม่ทำให้ผิวดูหนาหรือเค้กนั่นเอง เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งหรือไม่ต้องการการปกปิดมากนัก
