เคยไหมที่ยืนงงอยู่หน้าชั้นเครื่องสำอางระหว่างคำว่า ‘Waterproof’ กับ ‘Smudge-proof’ ว่ามันต่างกันตรงไหน ทั้งคู่ดูเหมือนจะกันน้ำได้เหมือนกัน แต่พอใช้จริงกลับไม่เหมือนเลย บางสูตรทนน้ำแต่เลอะง่าย บางสูตรไม่เลอะเมื่อถูแต่กลับหลุดเมื่อเจอน้ำ ความจริงแล้วสองคำนี้มีความหมายและเทคโนโลยีการทำงานที่ต่างกัน โว้กบิวตี้พามาทำความรู้จักกับสองคำนี้ การรู้ความต่างระหว่างทั้งสองแบบจะช่วยให้เราเลือกเมกอัปได้เหมาะกับสถานการณ์มากขึ้น
-
ความหมายสั้นๆ
Waterproof = กันน้ำแบบแท้จริง ทนต่อการสัมผัสน้ำ เหงื่อ น้ำตา หรือละอองน้ำได้ดี จนกว่าจะใช้ตัวล้างชนิดพิเศษ มักต้องใช้ออยล์หรือรีมูฟเวอร์สูตรน้ำมัน ถึงจะล้างออกได้
Smudge-proof = กันเลอะ/กันเลือนจากการถูหรือถ่ายโอน (transfer) ไม่เลอะเมื่อถูกถูหรือถูวน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทนเมื่อน้ำเยอะๆ หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน
-
กลไกการทำงาน
Waterproof: ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มักมีสารกลุ่ม film-forming ฟิล์มที่เคลือบเส้นขนหรือผิวและสารกันน้ำ เช่น ซิลิโคนบางชนิด, ฟิล์มอะคริลิก รวมถึง waxes ที่ช่วยขับไล่น้ำ ทำให้ชั้นสีไม่ละลายเมื่อโดนน้ำ ฟิล์มที่เกิดขึ้นต้องการตัวทำละลายพิเศษ เช่น ออยล์ ในการละลายจึงจะลบออกได้ง่าย
Smudge-proof: ผลิตภัณฑ์จะเน้นให้แห้งเร็วและยึดติดบนพื้นผิว (adhesion) เช่น ใช้พวกพอลิเมอร์ที่ซึมเข้าสู่ผิวหรือขน ทำให้สีไม่ถูกถ่ายโอนเมื่อถูกถู แต่เมื่อโดนน้ำเยอะๆ ฟิล์มเหล่านี้อาจอ่อนตัวและละลายได้

Volum' Express Hypercurl Mascara Waterproof (ราคา 179 บาท) จาก Maybelline New York
-
อธิบายตัวอย่างตามประเภทเมกอัป
1) มาสคาร่า
Waterproof: เหมาะเวลาว่ายน้ำ ฝนตก หรือร้องไห้ แต่ข้อเสียคือล้างยาก ถ้าถูแรงอาจทำให้ขนตาหักหรือหลุดได้ เพราะต้องถูออกด้วยน้ำมัน
Smudge-proof: เหมาะกับคนมีเปลือกตาที่มันหรืออยากกันเลอะระหว่างวัน ไม่ต้องการความทนทานต่อการโดนน้ำ จะทนต่อการถูเล็กน้อยแต่ถ้าเจอน้ำหนักมากก็ไหลได้
2) อายไลเนอร์
Waterproof: อยู่ทนนาน แม้จะมีเหงื่อหรือน้ำตา เหมาะเวลาต้องการลุคเป๊ะทั้งวัน เช่น แต่งหน้าไปทะเลหรือใส่หน้ากันแดดลงสระ
Smudge-proof: ถูกออกแบบไม่ให้ละลายหรือเลอะเมื่อขยี้ตา แต่ถ้าโดนน้ำตรงๆ อาจละลายหรือจางลง
3) ลิปสติก
Waterproof: ค่อนข้างหายากเพราะปากต้องการความยืดหยุ่น แต่มีสูตรที่ทนน้ำ เช่น บางลิปสเตนที่ทนการดื่มน้ำได้ดี
Smudge-proof: ยึดติดดี ไม่เลอะเมื่อกินหรือจูบ แต่เมื่อทาอาหารมันหรือใช้น้ำมันทำความสะอาดอาจจางลง
4) รองพื้น / คอนซีลเลอร์
Waterproof: มีสูตรกันน้ำ เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง แต่บางสูตรอาจทำให้ผิวดูแมตต์หรือรู้สึกหนา
Smudge-proof: เน้นไม่ให้รองพื้นติดบนผ้าหรือเสื้อผ้า แต่อาจไม่ทนน้ำหนักมากๆ

Tinted Smudge Proof Eyeshadow Base (ราคา 1,500 บาท) จาก NARS
-
ข้อดี
Waterproof: ทนน้ำ เหงื่อ และความชื้นได้ดีเยี่ยม เหมาะกับอากาศร้อนหรือกิจกรรมกลางแจ้ง หรือวันที่ต้องเจอเหตุการณ์เปียก เช่น ฝนตก ว่ายน้ำ หรือแต่งหน้าไปงานที่อาจมีน้ำตา นอกจากนี้สีติดทนตลอดวัน ไม่หลุดง่ายแม้ในสภาพอากาศชื้น เหมาะกับคนที่มีผิวมัน หรือเปลือกตาหลุดง่าย เพราะช่วยล็อกเมกอัปให้คงรูป
Smudge-proof: เหมาะสำหรับการใช้ทุกวัน เพราะเนื้อบางเบาและล้างออกง่ายกว่า ป้องกันการถ่ายโอนสี เช่น รองพื้นติดแมสก์ หรือลิปติดแก้วน้ำ ให้ฟินิชที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่หนาหนัก เหมาะกับคนที่ต้องการเมกอัปติดทนแต่ไม่ต้องการความแน่นระดับกันน้ำ สามารถเติมระหว่างวันได้ง่าย ไม่เป็นคราบ
-
ข้อเสีย
Waterproof: ล้างออกยาก ต้องใช้รีมูฟเวอร์สูตรน้ำมันหรือเคลนซิ่งบาล์มโดยเฉพาะ ถ้าเช็ดแรงอาจทำให้ขนตาหรือผิวรอบดวงตาอ่อนแอ สูตรบางชนิดอาจทำให้ผิวรู้สึกแห้งหรือตึง ไม่เหมาะกับการใช้ทุกวันสำหรับคนผิวแพ้ง่าย เพราะอาจเกิดการระคายเคืองจากการล้างซ้ำๆ
Smudge-proof: ไม่ทนน้ำหนักมาก เช่น เหงื่อออกเยอะหรือเปียกน้ำโดยตรง เมื่ออยู่ในอากาศร้อนจัดหรือชื้นมากๆ อาจมีหลุดบ้าง ต้องรอให้ผลิตภัณฑ์เซตตัวแห้งสนิทถึงจะกันเลอะจริง จึงไม่เหมาะกับกิจกรรมที่ต้องโดนน้ำ เช่น ว่ายน้ำ หรือเล่นทะเล

