ไลฟสไตล์ของ ลูกเกด-จิรดา เป็นอย่างไร?

“ทุกวันนี้เกดเป็นพิธีกร แต่ถ้ามีเวลาว่างส่วนใหญ่จะไปซ้อมกอล์ฟและออกกำลังกายซึงที่เกดออกก็คือการยกเวท หลักๆ ก็คือทุกวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ ซึ่งในแต่ละวันก็ไม่ได้ยกโหดเพราะบางทีคนที่ดูในไอจีก็จะคิดว่าโห้พี่เกดยกโหดมาก… ดูยิ่งใหญ่มาก ซึ่งใน 3 วันก็จะไม่ได้ยกหนักแบบนั้นตลอด บางวันก็จะมีการเทรนเสริมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และก็จะมีปรับเปลี่ยนพวก Posture หรือพวก Corrective Exercise บ้าง ซึ่งก็จะผสมกันระหว่างยกเวทหนักๆ เหนื่อยๆ  แล้วก็มีการเทรนเสิรมอะไรทำนองนี้ไป นอกจากยกเวทแล้วถ้าว่างเกดก็จะต้องซ้อมกอล์ฟ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งกีฬาที่อินมาก… ไม่คิดว่าจะอินขนาดนี้ นึกว่ามันจะฉาบฉวย (หัวเราะ) คือว่าเพื่อนเกดเขาตีกอล์ฟ ยอมรับว่าเริ่มจากที่เราเห็นเพื่อนตีก็เลยอยากตีบ้าง เกดไม่ได้อินแค่ตีกอล์ฟนะแต่อินการดูกีฬากอล์ฟด้วยค่อนข้างเชียร์ทุกรายการที่มีแข่งกอล์ฟ แต่จะเชียร์ก็ต่อเมื่อในรายการนั้นมี Tiger Woods ลงแข่ง อันนี้ก็คือไลฟ์สไตล์ของเกดแบบคร่าวๆ แล้วก็ว่าย-ปั่น-วิ่งบ้างถ้าช่วงไหนจะมีลงแข่งกีฬาขำๆ กับเพื่อนๆ แต่ตอนนี้หลักๆ ก็คือต้องเทรนยกเวทหนักนิดนึงเพราะว่าจะลงแข่ง CrossFit ในเดือนหน้า”

อะไรคือจุดเริ่มต้นของ #Lkfitnessdiary?

“สำหรับจุดเริ่มต้นของ #Lkfitnessdiary มาจากการที่เกดออกกำลังกายมาค่อนข้างนานแล้ว ประมาณ 4-5 ปีได้ และทุกครั้งที่เราออกกำลังกายกับเทรนเนอร์เราไม่รู้สึกว่าเขาเป็นแค่คนที่มาเทรนเราตามฟิตเนสแบบสมัย 10 กว่าปีที่แล้วที่ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกัน แต่ได้แลกเปลี่ยนความคิดและก็เรียนรู้เคล็ดลับการออกกำลังกายที่เราสามารถเอามาแชร์กับคนอื่นได้ด้วย สำหรับเกด เป้าหมายของเราไม่ได้เน้นในเรื่องของรูปร่างที่เป๊ะ, ต้องผอมลง หรือว่าไม่กินแป้งเลย ประมาณเนี่ยคือไม่ใช่เรา ซึ่งที่เกดหันมายกเวทก็เพราะว่าพี่จูน – สาวิตรี เป็นคนชวนมาให้ออกกำลังกาย ซึ่งแต่ก่อนเกดก็จะเป็นสายโยคะร้อน จนมาเจอการออกกำลังกายแนวนี้เราก็รู้สึกว่าเวลาที่เราพูดถึงการยกเวทเนี่ย มันไม่ได้มีแค่ Bicep Curl หรือท่าโหดๆ แบบบอดี้บิ้วเดอร์ที่ตัวใหญ่ๆ นะ แต่จริงๆ แล้วการยกเวทมันมีอะไรมากกว่านั้นมาก คือยกเวทไม่ได้มีไว้แค่สำหรับผู้ชายที่ต้องการสร้างกล้ามใหญ่ๆ แต่เกดมองว่ามันมีไว้ให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หรือที่เรียกว่า General Fitness ซึ่งเป็นคำที่เกดชอบมากๆ ที่หมายถึงเราไม่จำเป็นต้องตั้งเป้าว่าจะต้องหุ่นเป๊ะ แต่หมายถึงว่าเมื่อฉันอายุ 70 ฉันยังสามารถตีเทนนิสกับหลานชายฉันได้ หรือว่าอายุ 60 แล้วยังสามารถพาหมาไปวิ่งได้ 5 โลแบบไม่ต้องหอบ มันคือการออกกำลังกายที่ทำให้เราแข็งแรงและสามารถทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่เราอยากทำไปแบบยาวๆ”

แรงบันดาลใจในการแชร์เรื่องราวของตัวเองผ่านเว็บไซต์ที่ชื่อว่า NO NEED TO MAKE SENSE

“เว็บไซต์นี้มาจากการที่เกดรู้สึกเราอยากมีพื้นที่ที่เอาไว้ดูหรืออ่าน เหมือนเป็นไดอารี่ของเราที่เขียนออกมาจากความรู้สึกที่เราอินมากๆ ในตอนนั้น ซึ่ง No Need To Make Sense เนี่ยเป็นเว็บไซต์ที่เกดตั้งใจจะทำขึ้นมาเพื่อบันทึกทุกอย่างที่ตัวเองชอบ โดยเป็นที่มาของชื่อที่หมายถึงว่าบางครั้งสิ่งที่เราชอบมันก็ไม่จำเป็นต้อง Make Sense สำหรับคนอื่นเสมอไป ในเว็บก็มีเรื่องราวที่เกดอิน อย่างเรื่องที่เกดวิ่งมาราธอนครั้งแรก, บทสัมภาษณ์กับเทรนเนอร์คนสนิทของเกดถึงแง่มุมชีวิตต่างๆ คือส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับฟิตเนส แล้วก็มีเรื่องของ Tiger Woods บ้างนิดหน่อย ซึ่งคิดว่าจะเขียนเพิ่มอีก (หัวเราะ) ”

คำว่า Fitness ในมุมมองของลูกเกดเป็นแบบไหน?

“สำหรับคำว่าฟิตเนส เกดคิดว่าฟิตเนสไม่จำเป็นต้องนิยามว่าเป็นคนไม่ทานหนังไก่ทอด ไม่ดื่มน้ำอัดลม สำหรับเกด ฟิตเนสหมายถึงการทำอะไรที่พอดีๆ คือสามารถจัดการชีวิตตัวเองให้บาลานซ์ได้ ตัวอย่างนะ เกดรู้จักเพื่อนคนหนึ่งที่เขามีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างเฮฮาปาร์ตี้เหมือนวัยรุ่น เขามีครอบครัว เป็นพนักงาน ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการ แต่ก็สามารถจัดสรรเวลาได้ดีมาก ทั้งดูแลครอบครัว สังสรรค์กับเพื่อนๆ ทำงาน และยังมีเวลาซ้อมวิ่งแข่งขัน Ironman หรือไตรกีฬาคนเหล็กที่จบมาด้วยเวลา 14 ชั่วโมง คงไม่ต้องย้ำว่า ฟิตขนาดไหน และจัดการกับชีวิตตัวเองได้ดีขนาดไหน คือเกดคิดว่าฟิตเนสหมายถึงการที่จัดสรรชีวิตได้ลงตัวแบบไม่ต้องฝืนอะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา คือถ้าถามตัวเกดว่าทานคลีนไหม เราก็คงไม่ทานเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำไปได้ยาวๆ อะไรที่ทำไม่ได้นานๆ มันเหมือนเป็นการฝืนตัวเอง ดังนั้นเราก็ควรรู้ว่าอะไรที่มันพอดี อย่างคำพูดที่ว่า 'Everything in moderation is okay ' คืออะไรที่มันมากไปน้อยไปก็ไม่ดี ยกเวทมากไปก็ไม่ดี นอนมากไปก็ไม่ดี (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นอยู่กลางๆ ไว้มันก็สามารถใช้ได้กับทุกอย่างในชีวิตเลย”

ช่วยเล่าถึงกีฬา-กาแฟ-เนื้อย่าง-นอนกลางวัน...

“คือเกิดจากที่เราก็อยากจะมีแคปชั่นเก๋ๆ เกี่ยวกับตัวเองในไอจีแบบคนอื่นเขาบ้าง อยากได้ quote ที่มันเป็นตัวเองที่สุด ก็เลยได้มาเป็น กีฬา-กาแฟ-เนื้อย่าง-นอนกลางวัน (หัวเราะ) ซึ่งคิดว่าสะท้อนตัวตนของเรา อย่างกีฬา-เกดก็ชอบออกกำลังกาย ยกเวทกับตีกอล์ฟ กาแฟ-ก็คือเกดชอบดื่มกาแฟ เนื้อย่าง-ก็คือแทบจะทุกเสาร์อาทิตย์จะต้องนัดแก๊งค์จอมพลังของเกดเนี่ยไปทานเนื้อย่างกัน...คืออยู่กับแก๊งค์ออกกำลังมันสนุกดีเพราะไม่มีใครกังวลเรื่องการนับแคล...คือแบบเนื้อย่างหรอ? ไปกัน! ส่วนนอนกลางวัน-ไม่รู้เพราะว่าอายุที่เพิ่มขึ้นหรือเปล่าคือเกดรู้สึกว่าการนอนกลางวันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก และอีกอย่างเราเป็นคนชอบอยู่บ้าน คือถ้าไม่ได้ซ้อมกอลฟ์หรือไปออกกำลังกายก็จะอยู่บ้าน พอเสาร์อาทิตย์ช่วงบ่ายๆ ก็จะเอาละ... มองหน้ากับสามีว่ามันช่างน่านอนจริงๆ เลย...ไม่รู้สิ นอนกลางวันมันดีนะ (หัวเราะ) เหมือนแบบได้หลับไปแปปนึงแล้วตื่นมาอีกทีก็อ้าวว...ได้เวลากินข้าวเย็นแล้ว (หัวเราะ)”

เคล็ดลับการทานอาหารให้หุ่นฟิตและจิตใจแฮปปี้แบบฉบับของลูกเกดเป็นอย่างไร?

“สำหรับเกดนะ การทานอาหารให้หุ่นฟิตเลยเนี่ยอยู่ที่ว่าอยากฟิตมากฟิตน้อย ถ้าอยากฟิตมากแบบมีซิกแพ็คหรือลดน้ำหนักเร็วๆ แนะนำว่าไม่ต้องลดแป้งนะ แต่ให้ลดน้ำตาลรวมถึงพวกของเค็ม ของทอดด้วย แล้วจะเห็นผลเลย แล้วก็ออกกำลังกาย แนะนำว่าให้วิ่งเพราะเป็นคาร์ดิโอที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ดี ส่วนเรื่องของจิตใจแฮปปี้ คือเกดเป็นคนที่มีความสุขง่าย คือแค่ตื่นนอนมาเจอหน้าสามีแล้วได้แชร์กับเขาว่าเมื่อคืนฝันว่าอะไร หรือแม้แต่การได้เดินไปซื้อกาแฟใกล้คอนโดกันสองคนก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่แฮปปี้แล้ว คือบางคนอาจจะต้องซื้อของให้ตัวเองถึงจะมีความสุข แต่เกดเป็นคนที่ไม่ได้มีข้อแม้อะไรมากมายถึงจะมีความสุข เราก็เลยมีความสุขได้ง่ายๆ”

ออกกำลังทุกวันหรือไม่?

“ไม่ทุกวันนะคะ ถ้ายกเวทก็จะเป็นจันทร์ พุธ ศุกร์ อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ขึ้นอยู่กับว่าเราว่างช่วงไหนบ้าง”

สังเกตว่าลูกเกดไม่ค่อยใช้เมกอัพเยอะ ช่วยแชร์ไอเท็มบิวตี้หรือสกินแคร์ที่ขาดไม่ได้

“เกดไม่ค่อยใช้เมกอัพ ถ้าวันธรรมดาก็จะทาแก้มทาปากแค่นั้น ส่วนสกินแคร์ที่ขาดไม่ได้เลยคือกันแดดซึ่งจะใช้เป็นประจำเพราะเจอแดดบ่อยมาก เวลาตีกอล์ฟจะต้องเติมทุกๆ 2 ชั่วโมง แล้วถ้าในส่วนของเมกอัพก็น่าจะเป็นมาสคาร่าเพราะเวลาปัดแล้วช่วยให้เราดูสดใสขึ้น”

ข้อคิดที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่อยากแชร์

ในส่วนของฟิตเนสก็คือ “You don’t have to be fit to workout , you have to workout to be fit!” และสำหรับชีวิตประจำวันที่เกดอยากแชร์ก็คือ “You get what you focus on so focus on what you want”