BODY

น้ำมันหอมระเหย (Essential Oil) กับประโยชน์ที่มากกว่ามอบความหอมสดชื่น

รู้จักคุณประโยชน์และทิปส์ในการใช้ Essential Oil ที่ใครหลายคนอาจยังไม่รู้

หากพูดถึง "น้ำมันหอมระเหย" หรือ "Essential Oil" หลายคนคงนึกถึงน้ำมันที่มีกลิ่นหอม ช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย และยังเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ด้วย แต่ประโยชน์ของ Essential Oil ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีวิธีใช้อีกมากมายที่หลายคนอาจยังไม่รู้ วันนี้โว้กบิวตี้เลยจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Essential Oil ให้มากขึ้น พร้อมทิปส์ในการใช้ที่เป็นได้มากกว่าไอเท็มมอบความหอมสดชื่น

 


Essential Oil คืออะไร? 

Essential Oil หรือ น้ำมันหอมระเหย เป็นน้ำมันจากธรรมชาติที่พืชผลิตขึ้น สามารถสกัดได้จากทั้งดอก ใบ ผล ลำต้น หรือยาง โดยจะสกัดได้จากการใช้ความร้อนและได้เป็นของเหลวออกมา จนได้มาเป็นน้ำมันหอมระเหยนั่นเอง

นิยมใช้ Essential Oil ทำอะไรบ้าง

1) ด้านเครื่องสำอาง: น้ำมันหอมระเหยนิยมนำมาใช้เพื่อเป็นสารกันเสียตามธรรมชาติในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งมีประสิทธิภาพช่วยลดการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ นอกจากนี้ในน้ำมันหอมระเหยจากน้ำมันมะพร้าว ขมิ้น อะโวคาโด ยังนิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในสกินแคร์เพื่อให้ความชุ่มชื่นและลดเลือนริ้วรอย

2) ด้านอาหาร: ในน้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงถูกนิยมนำมาเป็นสารกันเสียทั้งในผัก ธัญพืช ซีเรียล เป็นต้น

3) ด้านเกษตร: น้ำมันหอมระเหยนิยมนำมาใช้ประโยชน์ในด้านของการเกษตร คือ ใช้เป็นยาต้านแมลง เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย 

4) ด้านการรักษา: นอกจากเรื่องของความหอมแล้ว น้ำมันหอมระเหยยังถูกนำมาใช้ในการรักษาได้สารพัดอาการป่วย ตามคุณสมบัติของพืชนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันหอมระเหยคาโมมายล์ มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ต้านการแพ้ รักษาและลดอาการคัดจมูก หรือ น้ำมันหอมระเหยจากส้มหวาน มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ ใช้เป็นยากล่อมประสาท ยาขับลม แก้ท้องอืด เป็นต้น


วิธีการใช้ Essential Oil

1) ใช้นวดผ่อนคลาย: เลือกใช้น้ำมันหอมระเหยจาก ส้ม, โรสแมรี่, ลาเวนเดอร์ หรืออื่นๆ มาผสมกับน้ำเปล่า และนำมานวดลงบนผิวหลังอาบน้ำ จะช่วยให้ผิวสดชื่น ผ่อนคลาย และช่วยรักษาสมดุลให้ผิว พร้อมบำรุงให้ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้าน

2) ใช้ผสมสกินแคร์หรือสครับ: น้ำมันหอมระเหยสามารถนำมาผสมกับสกินแคร์ ไม่ว่าจะเป็น ครีม โลชั่น หรือสครับ เพื่อช่วยให้มีกลิ่นหอม และช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นขึ้น

3) ใช้ลดความเครียด รักษาอาการนอนไม่หลับ: สำหรับใครที่มีอาการนอนไม่หลับหรือหลับยาก แนะนำให้ใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์, ไม้ซีดาร์ หรือน้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นหอม ช่วยในการผ่อนคลาย นำมาหยดใส่เครื่องพ่นไอน้ำ ตั้งไว้บริเวณหัวนอน จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับง่าย และลดความเครียด

4) ใช้เป็น Body Oil: นำน้ำมันหอมระเหยมาผสมกับน้ำมันชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น โจโจ้บา ออยล์, สารสกัดจากเมล็ดอัลมอนด์ ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิว วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้กลิ่นหอมติดทนยาวนาน ยังเพิ่มการบำรุงให้ผิวชุ่มชื่นและดูสุขภาพดีขึ้นได้

 



WATCH



"Essential Oil" ที่โว้กบิวตี้แนะนำ

น้ำมันหอมระเหย

1 / 3

กลิ่น Almond Vanilla จาก DONNA CHANG (ราคา 1,200 บาท)

น้ำมันหอมระเหยกลิ่นอัลมอนด์ผสมกับกลิ่นวานิลลา ด้วยคุณสมบัติของวานิลลาจะช่วยบรรเทาความเครียด สร้างความผ่อนคลาย ส่วนกลิ่นอัลมอนด์จะช่วยให้จิตใจสงบและช่วยให้หลับสบายขึ้น

 

น้ำมันหอมระเหย

2 / 3

กลิ่น Peppermint จาก Phutawan (ราคา 220 บาท)

น้ำมันหอมระเหยกลิ่นสะระแหน่ มีกลิ่นหอมเย็น ช่วยฆ่าเชื้อในอากาศ ดูแลระบบทางเดินหายใจ และช่วยให้รู้สึกสดชื่น ตื่นตัว

 

น้ำมันหอมระเหย

3 / 3

Purity Essential Oil Blend กลิ่น Peppermint และ Camomile จาก LALIL (ราคา 540 บาท)

น้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นความเย็นของสะระแหน่ผสมกับกลิ่นหอมของดอกคาโมมายล์ มีคุณสมบัติช่วยให้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า สร้างความสดชื่น ลดความเครียด เพิ่มสมาธิ และลดความวิตกกังวล

 

สำหรับใครที่ต้องการความหอมไปพร้อมๆ กับการผ่อนคลายและการดูแลร่างกาย ก็ลองนำน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบไปลองทำตามวิธีข้างต้น หรือสามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้อีกที่ ทิปส์การใช้เอสเซนเชียล ออยล์ 

เรื่อง : ชลดา คร่ำมา
เรียบเรียง : วราภรณ์ หงส์วรางกูร
ภาพ : Courtesy of the brands

WATCH