Cryotherapy หมายถึง ความเย็นบำบัดเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่กลายเป็นที่นิยมในปัจจุบันสำหรับทั้งสุขภาพและความงาม โดยเป็นการใช้ความเย็นในระดับอุณภูมิติดลบในการช่วยกระตุ้นเพื่อฟื้นฟูร่างกาย เทคนิคนี้ถูกพัฒนาโดยแพทย์ชาวญี่ปุ่นในปี 1978 ซึ่งในตอนนั้นถูกนำมาใช้รักษาบำบัดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์และต่อมาได้ถูกนำมาพัฒนาใช้สำหรับส่วนอื่นๆ ของร่างกายรวมถึงใบหน้า หรือที่เรียกว่า “Cryotherapy facial” สำหรับส่วนอื่นของร่างกาย การทำบำบัดด้วยความเย็นจะเป็นการนำตัวเองเข้าไปในตู้ทำความเย็นแบบอุณภูมิติดลบในระยะเวลาสั้นๆ โดยในระหว่างนี้ความเย็นแบบติดลบจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและร่างกายจะปล่อยฮอร์โมน อย่างสารเอ็นโดฟินออกมาช่วยกระตุ้นให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเอง อีกทั้งยังช่วยปรับมู้ดให้อารมณ์ดีและลดระดับความเครียดของร่างกาย โดยเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมสำหรับการฟื้นฟูร่างกายเมื่อบาดเจ็บจากกีฬาด้วย

 สำหรับ Cryotherapy facial จะเป็นความเย็นบำบัดที่ผิวหน้าโดยเฉพาะ ซึ่งมาพร้อมประโยชน์มากมายด้านความงาม อย่าง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน คืนความกระชับแก่ผิว ช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์และเปล่งปลั่ง อีกทั้งในแบบเดียวกันกับที่ความเย็นแบบติดลบช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บจากกีฬา ความเย็นจะช่วยลดการอักเสบของผิวหน้า

ในปัจจุบันเทคนิคนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเมนูทรีตเมนต์ยอดนิยมในคลินิกความงามทั่วโลก อย่างไรก็ตามไม่ได้เป็นเพียงบิวตี้ทรีตเมนต์ที่ต้องเข้าคลินิกเสมอไป เพราะความเย็นบำบัดสามารถเป็นบิวตี้ทรีตเมนต์ที่ทำที่บ้านได้ ถ้าพูดถึงเทคนิค D.I.Y ที่ฮอตฮิตกันเชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับการนำช้อนกินข้าวหรือลูกกลิ้งหินหยกมาแช่ช่องฟรีซไว้สำหรับใช้ในตอนเช้าเพื่อช่วยลดอาการบวมใต้ตา  หรือทำ Ice Facial ซึ่งเป็นการจุ่มหรือประคบผิวหน้าในน้ำแข็งเป็นอีกหนึ่งเฟเชียลทิปส์ฉบับ At-Home ที่เซเลปและบิวตี้กูรูหลายคนชื่นชอบ 

 

นอกจากนี้ในปัจจุบัน Cryotherapy มาในรูปแบบของอุปกรณ์บิวตี้และเป็นแรงบันดาลใจที่กลายมาเป็นส่วนผสมและเทคโนโลยีที่ถูกนำมาพัฒนาต่อเพื่อผสานอยู่ในสกินแคร์ วันนี้ทีมบิวตี้เลยขอรวมมาแนะนำกัน

 

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4