@freshbeauty

สกินแคร์ตระกูลน้ำตบสามารถช่วยบำรุงผิวหน้าได้อย่างไร

“ด้วยความที่โมเลกุลของน้ำในเนื้อสกินแคร์มีขนาดเล็กกว่าโมเลกุลของเนื้อครีมหรือเซรั่ม โมเลกุลน้ำเหล่านี้จึงสามารถซึมสู่ผิวได้ล้ำลึกเพื่อช่วยให้เซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าอ่อนนุ่ม เมื่อลงสกินแคร์ขั้นต่อไปจึงซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้น” Joshua Zeichner, Director of Cosmetic and Clinical Research จาก Mount Sinai Medical Center ในนิวยอร์กกล่าว ปัจจุบันสกินแคร์ประเภทนี้ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้มากขึ้นเพราะมีการใช้สารสกัดและเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้สกินแคร์เนื้อน้ำมีคุณสมบัติหลากหลายยิ่งขึ้นไม่ใช่แค่ให้ความชุ่มชื้นเพียงอย่างเดียว

และแน่นอนว่าสาวๆแต่ละคนมีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์น้ำตบที่เลือกใช้ก็ควรจะตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด เหล่านี้คือตัวเลือกที่เราแนะนำสำหรับผิวแต่ละประเภท

White Brightening Even Tone Lotion จาก Elemis

Sensitive Skin มองหาโลชั่นสูตรไร้น้ำหอมจากสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยปลอบประโลมผิวแพ้ง่ายอย่างสารสกัดดอกเดซี่หรือสาหร่ายทะเล

 Intensive Infusion Treatment Essence จาก Tom Ford

Normal Skin โลชั่นสูตรซึมซาบเร็วแต่ให้ความชุ่มชื้นสูงเหมาะสำหรับใช้เตรียมผิวหน้าก่อนแต่งหน้าจะช่วยให้รองพื้นติดทนนาน

Activating Essence จาก Aviance

Sagging Skin สิวที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกและความหย่อนคล้อย เลือกโลชั่นเนื้อชุ่มชื้นที่เน้นประสิทธิภาพการฟื้นฟูและสร้างปราการปกป้องผิว

The Treatment Lotion จาก La Mer

Dull Skin ปัญหาผิวหมองคล้ำแก้ได้ด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและเติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกให้เซลล์ผิวดูอิ่มน้ำ

Le Lift Firming Smoothing Lotion จาก Chanel

Dry & Aging Skin ผิวแห้งมักเกิดริ้วรอยง่ายกว่าผิวมัน เลือกโลชั่นสูตรให้ความชุ่มชื้นสูงพร้อมสารสกัดช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน

Genius White Brightening Moisture Softener จาก Algenist

Skin with Early Wrinkles ผิวที่เริ่มมีริ้วรอยสามารถชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ได้ด้วยโลชั่นพร้อมสารสกัดแอนตี้ออกซิแดนต์เพื่อช่วยปกป้องผิวจากสภาพแวดล้อม

Botanical Kinetics Toning Mist จาก Aveda

Oily Skin ผิวมันหรือเป็นสิวง่ายเหมาะกับโลชั่นพร้อมสารสกัดที่ช่วยควบคุมและปรับสมดุลการผลิตน้ำมันในรูขุมขนอย่างวิตช์เฮเซลหรือไวต์โอ๊ก