ออกแบบภาพ: ภาวัต นภาธร 

Step 1: ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก

การทำความสะอาดด้วยโฟมล้างหน้าธรรมดาๆ อาจจะไม่ช่วยกู้สถานการณ์ผิวหน้าในช่วงนี้ให้เราได้ เนื่องจากอาจจะมีคราบสกปรกฝังลึก สารตกค้าง รวมทั้งเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วกองทับถมกันอยู่ ทำให้เซลล์ผิวใหม่ที่ดูเปล่งปลั่งสดใสกว่า ไม่สามารถโผล่ออกมาให้ใครๆ เห็นได้ ฉะนั้นลองหาคลีนซิ่งบาล์มมาใช้ในช่วงนี้ก็น่าจะดีนะ 

Step 2: ขัดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน

ช่วงนี้การใช้แต่เคลนเซอร์ทำความสะอาดผิวหน้าเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ อาจจำเป็นต้องใช้สครับขัดผิวหน้าให้บ่อยขึ้นด้วย (คือจากปกติสัปดาห์ละครั้ง ก็เพิ่มเป็นสัปดาห์ละสองถึงสามครั้ง) เพื่อช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต และขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไปด้วย ฉะนั้นอย่าลืมหาสครับดีๆ สำหรับผิวหน้ามาใช้จะดีกว่า

Step 3: ดีท็อกซ์ผิวให้สวยใสด้วยมาส์ก

นอกจากนี้ก็อย่าลืมหาเวลาซักสัปดาห์ละสองถึงสามครั้ง ทำการดีท็อกซ์ผิวด้วยมาส์ก เพื่อช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึก รวมทั้งช่วยดีท็อกซ์สารพิษออกไป เพื่อช่วยกู้ผิวให้กลับมาดูเปล่งปลั่งสดใสได้เร็วขึ้น 

Step 4: กระหน่ำเติมความชุ่มชื้น

ผิวหน้าที่แห้งหรือขาดน้ำ...จะไม่สามารถฉายความเปล่งปลั่งสดใสออกมาได้ เราจึงไม่ควรปล่อยให้ผิวหน้าเกิดอาการแห้งเด็ดขาด ช่วงนี้จึงควรกระหน่ำเติมความชุ่มชื้นลงไปเยอะๆ เพื่อที่ผิวหน้าจะสามารถฟื้นคืนจากสภาพยับเยินได้เร็วขึ้น งานนี้ไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุงเนื้อหนาๆ หรือแม้แต่ออยล์บำรุงผิวหน้าเนื้อเริ่ดๆ ก็ควรรีบหามากู้ผิวหน้าตัวเองด่วน 

Step 5: มาส์กหน้าก่อนเข้านอน

ก่อนที่คุณจะกระโดดขึ้นเตียงนอน แล้วนอนหลับตาพริ้มให้สาสมกับที่อดหลับอดนอนมาหลายคืนนั้น ก็อย่าลืมทามาส์กบำรุงผิวแบบไม่ต้องล้างออกลงไปหนาๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้คืนความชุ่มชื้น และสารบำรุงต่างๆ ให้กับผิวหน้าได้อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว เพื่อที่ตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้า ผิวหน้าจะได้ดูใสเด้งขึ้นได้ทันที!

1 / 5

2 / 5

3 / 5

4 / 5

5 / 5