เรื่องของ ‘ผม’ ที่ไม่ว่าจะหนุ่มๆ หรือสาวๆ ต่างต้องเจอเหมือนกันคือขั้นตอนการเป่าผมหลังสระ หลายคนอาจคิดว่าไดร์เป่าผมทุกชิ้นช่วยให้ผมแห้งในระยะเวลาเท่ากัน จึงอาจใช้ไดร์เป่าผมที่ไม่เหมาะกับผมของเรา จนสุดท้ายต้องถือไดร์อยู่นานแสนนานกว่าผมจะแห้งทั่วหัว โว้กบิวตี้เลยหยิบเอาวิธีเลือกใช้ไดร์เป่าผมที่เหมาะกับแต่ละคนมาแชร์กัน เพื่อลดระยะเวลาให้ผมแห้งไวยิ่งขึ้น
เริ่มต้นด้วยค่า ‘W’ ที่เขียนบนไดร์
หากวันนี้กลับถึงบ้านแล้วลองหยิบไดร์เป่าผมที่มีพลิกดูรอบๆ อาจเห็นค่า ‘W’ หรือค่าวัตต์ ที่บอกการใช้งานกำลังไฟฟ้าของไดร์เครื่องนั้น ยิ่งค่าวัตต์สูงมากเท่าไหร่ ยิ่งใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งไดร์เป่าผมจะมีค่าวัตต์เริ่มต้นที่ประมาณ 600W ซึ่งถือเป็นขนาดเล็กที่ใช้พกพาสะดวก แต่พลังลมอาจเบาและใช้เวลาเป่านาน

ค่า ‘W’ กับการเป่าผม
อย่างที่กล่าวไปว่า ค่าวัตต์ยิ่งสูงขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นเท่านั้น และมากไปกว่านั้นพลังการเป่าที่มากขึ้นย่อมช่วยให้ผมแห้งไวขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นมาดูวิธีเลือกไดร์เป่าผมให้เหมาะกับผมของเราดังนี้
ผมสั้น
ใครที่มีผมสั้น ไม่ว่าจะรองทรง อันเดอร์คัตหรือผมบ๊อบสั้นอาจไม่จำเป็นต้องใช้ไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟฟ้ามาก ไดร์ที่เหมาะกับผมความยาวนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1000W ขึ้นไป
ผมยาว
ผมยาวประบ่าหรือผมยาวกลางหลังที่ต้องใช้เวลานานทั้งการสระและการเป่าผม เหมาะกับไดร์ที่มีกำลังไฟ 2000W ขึ้นไป
อย่างไรก็ตามปัจจัยอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นตามมาเมื่อใช้ไดร์เป่าผมกำลังวัตต์สูงนั่นคือค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น เสียงการทำงานที่อาจดังขึ้น ความใหญ่และหนักมากขึ้น แต่หากแลกกับการลดระยะเวลาเป่าผมก็อาจคุ้มค่าที่จะยอมแลก

เทคโนโลยีเพิ่มเติมในไดร์เป่าผม
ปัจจุบันไดร์เป่าผมถูกใส่เทคโนโลยีเพิ่มเติมเพื่อดูแลเส้นผมไม่ให้ถูกทำร้ายมากเกินไป อย่างประจุไอออนลบช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเงางามของผม อีกทั้งยังลดการเกิดไฟฟ้าสถิตที่เป็นหนึ่งสาเหตุของผมชี้ฟู หรือเทคโนโลยีการควบคุมความร้อนอัตโนมัติของไดร์เป่าผมราคาแพงที่ช่วยทั้งลดเวลาการเป่าผมและยังควบคุมไม่ให้ความร้อนทำร้ายผมจนเกินไป





