ไม่ว่าเราจะทำสีผมเปลี่ยนลุคด้วยการยืดหรือดัดแค่ไหน สุดท้ายสิ่งที่หลายคนเจอก็คือ ‘ผมแห้งเสีย’ ชี้ฟู แตกปลาย หรือถึงขั้นขาดหลุดร่วง ซึ่งบางครั้งอาจไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่เป็นการสะสมจากการทำเคมีอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ‘เราควรพักเส้นผมนานแค่ไหนถึงจะฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง?’ โว้กบิวตี้พาสาวๆ มาทำความเข้าใจถึงสาเหตุของผมเสียและวิธีฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
-
สาเหตุของผมเสียจากการทำสี ทำเคมี
การทำสี ดัด ยืด หรือผ่านเคมีต่างๆ ล้วนเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างธรรมชาติของเส้นผม เพื่อให้สีติดหรือทรงผมอยู่ตัว กระบวนการเหล่านี้จะเริ่มจากการเปิดเกล็ดผม เพื่อให้สารเคมีแทรกเข้าไปลึกถึงแกนผม ส่งผลให้ผมสูญเสียทั้งความชุ่มชื้นและโปรตีนสำคัญอย่างเคราติน ทำให้ผมแห้ง ชี้ฟู เปราะ และขาดง่าย ยิ่งถ้าทำหลายขั้นตอนติดกัน เช่น ฟอกแล้วทำสี หรือยืดแล้วดัดซ้ำ เส้นผมจะยิ่งอ่อนแอ บางคนถึงขั้นผมหักกลางเส้นหรือหลุดร่วงเลยก็มี นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมที่ทำร้ายผมซ้ำๆ หลังจากทำเคมี เช่น ใช้ไดร์หรือหนีบร้อนบ่อยเกินไป, การหวีผมแรงๆ ตอนผมเปียก หรือใช้แชมพูที่มีสารเคมีในปริมาณสูง สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ผมเสียสะสมจนฟื้นตัวยาก
-
ควรพักผมกี่เดือน
โดยทั่วไปควรพักเส้นผมจากเคมีประมาณ 3-6 เดือน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความเสียหายของสภาพผมและการดูแลระหว่างนั้นด้วย หากผมเสียเล็กน้อย เช่น ผมแห้งชี้ฟู ยังไม่ถึงขั้นขาดหรือแตกปลายหนัก แนะนำให้พักประมาณ 2-3 เดือน หากผมเสียปานกลางถึงมาก เช่น ผมแห้งมาก สีเฟดเร็ว เปราะขาดง่าย ควรพักอย่างน้อย 4-6 เดือน และหลีกเลี่ยงเคมีทุกชนิด และหากผมเสียขั้นรุนแรง เช่น ผมหักกลางเส้น หลุดร่วงเยอะ อาจต้องพักผมนานถึง 9 เดือน - 1 ปี ควบคู่กับการบำรุงเชิงลึกและตัดปลายผมเสียออก
-
วิธีฟื้นฟูผมเสียให้กลับมามีสุขภาพดี
- หยุดการทำเคมีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการทำสี ยืด ดัด หรือแม้แต่การฟอก ควรหยุดทันทีเพื่อไม่ให้เส้นผมแย่ลงกว่าเดิม
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นการบำรุงอย่างล้ำลึก เลือกแชมพูและครีมนวดผมที่ไม่มีซัลเฟต (SLS-Free) และใช้มาส์กผมเข้มข้นอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง รวมถึงลง Leave-in หรือเซรั่มบำรุงปลายผมทุกวัน
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเคราติน, ไบโอติน, คอลลาเจน, น้ำมันอาร์แกน และกรดอะมิโน เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างและเพิ่มความยืดหยุ่นให้เส้นผม
