สเปรย์ฉีดผมเนื้อบางเบา ล็อกทรงให้เป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อ

ทำไมต้องเลือกสเปรย์ฉีดผมเนื้อบางเบา?

            สเปรย์ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบามักจะออกแบบมาให้ล็อกทรงผมในแบบที่ยังดูพลิ้วเป็นธรรมชาติ และยังมีข้อดีอีกหลายอย่าง เช่น

• ไม่แข็งทื่อ: ทรงผมจะยังดูมีมูฟเมนต์
• ไม่จับตัวเป็นก้อน: สเปรย์มักระจายตัวได้ดี ไม่ทิ้งคราบขาวหรือทำให้ผมดูมัน
• ช่วยเพิ่มวอลลุ่มเบาๆ: เหมาะสำหรับการม้วนลอนหลวมๆ ที่มีวอลลุ่ม ไม่ทำให้ลอนแข็งเหมือนฉาบกาวเอาไว้

เลือกสเปรย์อย่างไรให้เหมาะกับลุค?

            การเลือกสเปรย์ฉีดผมให้เหมาะสมกับทรงผม ไม่เพียงฟินิชทรงออกมาได้สวยเป็นธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังช่วยล็อกทรงได้พอดีแบบไม่ต้องฉีดเพิ่มระหว่างวันหรือระหว่างออกงานเลย

• ลุคธรรมชาติในชีวิตประจำวัน : สำหรับลุคเบาๆ ที่ดูเป็นธรรมชาติเหมือนไม่ได้เซต แนะนำให้เลือกสเปรย์ที่มีเนื้อบางเบา ปราศจากซิลิโคน หรือใช้โพลิเมอร์ที่ให้การยึดทรงแบบอ่อนๆ เพื่อให้ผมยังคงขยับพลิ้วได้ ไม่แข็งทื่อเกินไป
• ลุคผมลอนคลายๆ : ลอนผมจะสวยยาวนาน ไม่เสียทรงจนเสียฟีล แนะนำให้เลือกสเปรย์ฉีดผมเนื้อบางเบาที่มีระดับล็อกทรงปานกลาง เพื่อช่วยให้ลอนผมพลิ้วสวย ไม่จับตัวเป็นลอนแน่นที่ไม่เป็นธรรมชาติ
• ลุคทางการหรือผมเกล้า : สำหรับลุคสวยเนี้ยบ เช่น ลุคออกงาน หรือไปงานแต่งงาน แนะนำให้เลือกสเปรย์เนื้อบางเบาที่มีพลังการล็อกทรงสูง เพื่อให้ผมอยู่ทรงนาน และเก็บผมได้เรียบกริบ

วิธีการใช้สเปรย์ฉีดผม

1. เว้นระยะห่างให้เหมาะสม : หลังเซตผมเสร็จเรียบร้อย ไม่ว่าจะไดร์ หนีบ หรือม้วนลอน ให้ฉีดสเปรย์ห่างจากศีรษะประมาณ 20–30 ซม. เพื่อให้สเปรย์กระจายตัวอย่างทั่วถึง และไม่กองเป็นจุดเดียว กลับกันการฉีดสเปรย์ใกล้เกินไปจะทำให้ผมจับตัวเป็นก้อน
2. ฉีดสเปรย์เป็นชั้นๆ : แทนที่จะฉีดครั้งเดียวรอบๆ ศีรษะ แนะนำให้แบ่งผมเป็นช่อ และฉีดบางๆ หลายชั้น วิธีนี้จะช่วยควบคุมทรงได้ดีกว่า
3. เลือกฉีดเฉพาะจุด : ไม่จำเป็นต้องฉีดสเปรย์ให้ทั่วเสมอไป สามารถฉีดแค่บางจุดที่อยากเน้นได้ เช่น ปลายผม โคนผม หรือด้านในผมหากอยากเพิ่มวอลลุ่ม
4. ไม่ควรหวีหรือจับผมหลังฉีดสเปรย์ : การจับผมทันทีที่ฉีดสเปรย์จะทำให้เส้นผมแยกช่อและเสียทรงได้ง่าย ดังนั้นควรปล่อยให้สเปรย์ได้เซตตัวก่อนประมาณ 10-15 วินาที