HAIR

แจก 5 ผมสีแดงอมม่วง เฉดสีผมสวยที่สร้างเสน่ห์ให้ลุคดูน่าค้นหา

เมื่อผมสีแดงอมม่วงยังแบ่งได้อีกหลายเฉด ไม่ว่าจะเป็นสีไวน์แดง สีพลัม สีเบอร์รี่ และสีเบอร์กันดี มาดูกันว่าแต่ละเฉดมีเสน่ห์แตกต่างกันอย่างไร

     “ผมสีแดงอมม่วง” เป็นสีสันสะดุดตาที่ผสมผสานเฉดสีแดงและสีม่วงไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทว่าผมสีแดงอมม่วงไม่ได้มีเพียงเฉดเดียว หากแต่ยังแบ่งย่อยได้อีกหลายเฉด ตั้งแต่โทนสีสว่างไปจนถึงโทนสีที่เข้มขึ้น รวมถึงสามารถใช้เทคนิคการย้อมแบบต่างๆ ร่วมด้วย อาทิ บาลายาจ หรือออมเบร ซึ่งจะทำให้สีผมยิ่งดูสวยมีเอกลักษณ์มากขึ้น อ่านมาถึงตรงนี้หากใครที่กำลังสนใจอยากย้อมผมสีแดงอมม่วงเพื่อเปลี่ยนลุคใหม่ โว้กบิวตี้ก็อยากให้มาดูไอเดียเหล่านี้เพื่อการตัดสินใจเลือกเฉดสีที่ถูกใจและเหมาะกับตนเองมากที่สุด

 

ภาพ: @conversasdebeleza

สีไวน์แดง (Red Wine)

     เริ่มต้นกันที่ “ผมสีไวน์แดง” หนึ่งในเฉดผมสีแดงอมม่วงที่นิยมทำกันมากที่สุด เอกลักษณ์ของเฉดสีนี้คือสีแดงเข้มที่ชวนให้นึกถึงสีอันหอมหวานของไวน์แดงชั้นดี โดยทั่วไปแล้วผสานกันระหว่างสีแดง สีม่วง และอาจมีสีน้ำตาลแดงแทรกอยู่เล็กน้อย ซึ่งด้วยอันเดอร์โทนที่เข้มข้นและร้อนแรง จึงทำผมสีไวน์แดงมีความสง่างาม ดูลึกลับ น่าค้นหา สร้างแรงดึงดูด และหรูหรา ที่สำคัญยังเข้ากันได้ดีกับโทนสีผิวต่างๆ อีกด้วย 

 

ภาพ: @qtran

สีเบอร์กันดี (Burgandy)

     หนึ่งในเฉดสีแดงอมม่วงที่คลาสสิกที่สุดคือ “สีเบอร์กันดี” เรียกว่าเป็นสีผมที่สามารถทำได้ตลอดกาลแบบไม่ต้องกลัวหลุดเทรนด์ โดยลักษณะเด่นของสีเบอร์กันดีคืออันเดอร์โทนสีแดงที่มาพร้อมประกายสีม่วงลึกๆ สามารถปรับระดับความสว่างได้ตั้งแต่สีอ่อนไปจนถึงความเข้มจนเกือบดำ ถือเป็นเฉดสีที่ทำแล้วจะสร้างลุคให้ดูลึกลับ เย้ายวน และเสริมความงามตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะจับคู่กับลุคการแต่งหน้าหรือการแต่งตัวสไตล์ไหนก็พร้อมที่จะสร้างเสน่ห์อย่างล้นเหลือ

 



WATCH



ภาพ: @jewil_iwa

สีแครนเบอร์รี่ (Cranberry)

     หากต้องการสีผมที่สร้างสไตล์ให้ดูสนุกสนานและมีชีวิตชีวามากขึ้น แนะนำเป็นผมเฉด “สีแครนเบอร์รี่” ซึ่งเป็นเฉดสีแดงอมม่วงที่มีความสดใสขึ้น โดยผสมผสานโทนสีแดงเข้มเข้ากับสีม่วงเล็กน้อย ชวนให้นึกถึงผลของแครนเบอร์รี่ที่สุกฉ่ำกำลังดี นอกจากนี้ด้วยการเป็นโทนสีที่ลึกและเข้ม ฉะนั้นเมื่อสะท้อนกับแสงจะยิ่งสวยงามมากขึ้น ที่สำคัญยังเข้าได้กับหลายสีผิว สีตา และไม่ว่าจะอยู่บนทรงผมสไตล์ไหน ผมสีแครนเบอร์รี่ก็พร้อมเพิ่มเสน่ห์ให้กับทุกลุค

 

ภาพ: @_idbeauty

สีพลัม (Plump)

     หากชอบให้สีผมดูออกสีม่วงเป็นส่วนใหญ่ “สีพลัม” ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด โดยเฉดสีนี้จะผสมผสานสีม่วงเข้มกับอันเดอร์โทนสีแดง ชวนให้นึกถึงผลลูกพลัมที่น่ารับประทาน ทั้งนี้ผมสีพลัมยังแบ่งย่อยไปได้อีก ตั้งแต่เฉดสีเข้มจนเกือบดำ ไปจนถึงเฉดสีที่สว่างและสดใสกว่า นอกจากนี้ผมสีพลัมยังไม่ได้มีดีที่ความสวยงามเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสีที่ทำแล้วปรับมิติการมองเห็นให้ผมดูหนามากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทำร่วมกับผมดัดลอน อีกทั้งยังช่วยพรางผมเสียให้ดูสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย

 

ภาพ: @krystalmirelys

สีเชอร์รี่ (Cherry)

     ปิดท้ายด้วย “สีเชอร์รี่” อีกหนึ่งเฉดสีแดงอมม่วงที่มีความคล้ายกับโทนเบอร์กันดีแต่จะดูอ่อนกว่า ซึ่งจุดเด่นของเฉดสีนี้คือโทนสีแดงเข้มที่ชัด และมีประกายเงางาม ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาและแฝงความร้อนแรงให้กับลุค เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความโดดเด่นและดูแตกต่างจากผู้อื่น ทั้งนี้เฉดสีเชอร์รี่ที่มีทั้งเข้มและสดใส จึงแนะนำว่าใครที่มีผิวโทนอุ่นควรเลือกเฉดสีเชอร์รี่เข้ม ในขณะที่เฉดสีเชอร์รี่ที่สว่างกว่าจะเหมาะกับผิวอันเดอร์โทนเย็นมากกว่า 

 

     “ผมสีแดงอมม่วง” แต่ละเฉดสีสร้างลุคที่แตกต่างกัน ตั้งแต่โทนสีเข้มที่สร้างความลึกลับน่าค้นหา หรือโทนสว่างที่ดูน่ารักขี้เล่นที่แฝงความร้อนแรง ที่สำคัญยังเป็นเฉดสีผมที่ดีมากสำหรับคนที่มีปัญหาผมบางหรือผมเสีย เพราะผมเฉดสีแดงอมม่วงเป็นสีที่ย้อมแล้วช่วยเพิ่มมิติให้ผมดูหนานุ่มมากขึ้นและช่วยพรางผมเสียให้ดูสุขภาพดีอีกด้วย 

 

WATCH

คีย์เวิร์ด: #RedHair