“ผมสีแดง” เป็นสีผมที่หาได้ยากที่สุดในบรรดาสีผมตามธรรมชาติทั้งหมด แต่จะแคร์ไปทำไมในเมื่อเราก็มีผมสีแดงด้วยการย้อมได้เช่นกัน แถมยังมีเฉดสีสวยให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสีแดงสด สีแดงเชอร์รี่ สีน้ำตาลแดง และสีแดงไวน์ เป็นต้น โดยข้อดีของผมสีแดงไม่เพียงความสวยเท่านั้น แต่ยังเป็นสีที่ย้อมติดง่ายแม้มีพื้นผมสีเข้ม และยังเป็นสีที่พรางผมเสียได้ดีอีกด้วย เอาเป็นว่าใครที่อยากเพิ่มเสน่ห์ให้กับลุคด้วยผมสีแดง ลองมาเลือกเฉดที่ถูกใจจากไอเดียที่เราเอามาฝากกันนี้ได้เลย

 

 

ผมสีแดงเข้ม (Dark Red Color)

     เริ่มกันที่เฉด “สีแดงเข้ม” เป็นเฉดสีที่เสริมลุคให้ดูเซ็กซี่และน่าค้นหา ในที่ร่มจะเห็นเป็นสีแดงเข้มสม่ำเสมอ แต่จะโดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่อกระทบกับแสงแดด ซึ่งจะเห็นเป็นประกายสีแดงสวย นอกจากนี้ผมสีแดงเข้มยังเป็นเฉดที่ย้อมติดง่ายที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องฟอกผมก่อน ที่สำคัญยังมีความกลมกลืนและดูเป็นธรรมชาติกับผมสีเข้มที่งอกใหม่ของคนเอเชีย จึงเป็นสีที่ทำแล้วไม่ต้องเติมโคนบ่อยๆ แม้ผมยาวขึ้น

 

 

ผมสีแดงสด (Vibrant Red Color)

     มาพร้อมกับลุคสุดป๊อปต้องไม่พลาด “ผมสีแดงสด” ที่ยืนหนึ่งเรื่องความฮอตร้อนแรง ทำแล้วสะดุดตาแน่นอน แต่สิ่งที่ควรู้ในการทำผมสีแดงสดคือ นอกจากต้องฟอกผมให้อ่อนลงก่อนแล้ว สีแดงยังจะเฟดอ่อนลงเรื่อยๆ ทุกครั้งที่สระผม ดังนั้นเพื่อดูแลสีผมให้ติดทนนาน อย่าลืมใช้แชมพูสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ ส่วนการคีพสีแดงให้สดอย่างนี้อยู่ตลอด ก็อาจจะต้องคอยไปเติมสีที่ร้านอยู่บ่อยๆ 

 

 

ผมสีแดงชมพู (Red-Pink Color)

     หากจะให้พูดถึงเทรนด์ผมสีแดงที่กำลังมาแรงคงต้องยกให้ “ผมสีแดงชมพู” จุดเด่นคือเป็นเฉดที่ผสมผสานสีแดงและสีชมพูไว้ด้วยกัน ทำแล้วเสริมลุคให้น่ารักขี้เล่นมากกว่าที่จะดูเซ็กซี่ โดยมีให้เลือกทั้งเฉดป๊อปพิงก์ หรือแดงชมพูหม่นๆ และแน่นอนว่าเป็นเฉดที่ต้องอาศัยการฟอกผมเช่นเดิม ดังนั้นอย่าลืมหมั่นบำรุงอยู่เสมอเพื่อจะได้มีสีผมสวยไปพร้อมกับผมสุขภาพดี

 

 

ผมสีทองแดง (Copper Color) 

     ลักษณะของเฉดสีนี้ตรงตัวตามชื่อ “สีทองแดง” หรือ “สีคอปเปอร์” จุดเด่นคือผมสีแดงที่มีการผสานประกายสีทองอมส้มเอาไว้ด้วย ถือเป็นโทนสีที่คล้ายกับผมสีแดงธรรมชาติมากที่สุด โดยสีนี้เหมาะกับคนที่อยากขับสีผิวให้ดูสว่างสดใสขึ้น ทำได้ทั้งคนผิวขาวและผิวสองสี โดยเฉพาะสาวผิวคล้ำที่ทำแล้วจะยิ่งขับลุคให้ดูสวยอินเตอร์แบบสาวสายฝอ

 

 

ผมสีน้ำตาลแดง / ผมสีแดงมะฮอกกานี (Red Brown Color)

     แค่ชื่อก็รู้ทันทีว่าเป็นเฉดสีแดงที่มีสีน้ำตาลผสานอยู่ด้วย โดยจุดเด่นของสีนี้คือเป็นเฉดสีแดงที่ค่อนข้างเข้มและมีความเป็นธรรมชาติสูง ดูคล้ายกับสีของไม้มะฮอกกานีที่มีสีน้ำตาลอมแดง นอกจากนี้ยังเป็นสีที่ให้ความหวานละมุน ทำแล้วช่วยให้เส้นผมดูสวยเงางามและมีน้ำหนัก จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากกลบผมเสียให้ดูสุขภาพดีขึ้นแบบเฉพาะหน้า

 

ภาพ: @ayagoto_, @isdmika

 

ผมสีไวน์แดง (Red Wine Color)

     ปิดท้ายด้วยสีผมสุดเย้ายวนและมีเสน่ห์ไม่เหมือนสีแดงเฉดไหนนั่นคือ “สีไวน์แดง” ซึ่งจะเป็นเฉดที่มีเม็ดสีม่วงแฝงอยู่ด้วย สีแดงเฉดนี้เหมาะกับคนที่ยังอยากได้ความเป็นธรรมชาติอยู่ ทำออกมาแล้วไม่จัดจ้านหรือดูฉูดฉาดมากเกินไป เป็นสีที่จะเห็นประกายสีแดงอมม่วงชัดเมื่อต้องแสงไฟหรือสะท้อนกับแสงแดด เหมาะอย่างยิ่งกับคนผิวขาวซีดที่อยากให้ผิวดูขาวอมชมพูมากขึ้น 

 

Editor’s tips: สีแดงเป็นสีที่แก้ยากมาก การย้อมเองอาจทำให้สีผมไม่สม่ำเสมอได้ ดังนั้นให้มืออาชีพช่วยย้อมให้จะดีที่สุด และหลังจากที่ทำมาแล้วควรใช้น้ำเย็นสระผมพร้อมกับแชมพูสำหรับทำสีโดยเฉพาะเพื่อรักษาผมสีแดงให้สวยชัดยาวนาน