ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะสังเกตเห็นว่ามีการจัดอันดับสารสกัดที่กำลังมาแรงและเทรนด์ สารสกัด ใหม่ๆ ออกมาให้สาวๆ อย่างเราได้อัปเดตกันอยู่ตลอดเวลา อย่างที่ผ่านมาก็จะเห็นเป็นพวก Hyaluronic Acid, Retinol, Ceramides ไปจนถึงส่วนผสมตัวดัง อย่าง Bakuchiol ซึ่งสารสกัดเหล่านี้จัดอยู่ในกลุ่ม Active Ingredients หรือสารออกฤทธิ์หลักที่ทำให้ได้ผลรวดเร็วและมีประสิทธิ์ภาพที่สุด และแน่นอนว่าสาวๆ หลายคนก็คงตั้งหน้าตั้งตารอเทรนด์ในปีหน้าว่าอะไรจะมาแรง หรือส่วนผสมตัวไหนเด็ดจนต้องหยิบมาพูดกันถึงอยู่บ่อยครั้งในอนาคต

     ในฐานะที่โว้กบิวตี้อยู่ในวงการความงามมายาวนานพอสมควร ก็ทำให้พอจะคาดการณ์ได้ว่าสารสกัดตัวไหนกำลังมาและสารสกัดตัวไหนที่กำลังเตรียมตัว โบกมือลา ซึ่งหากพูดถึงเทรนด์สารสกัดที่น่าจับตามองในปีหน้า ซึ่งเชื่อว่าหนึ่งในนั่นจะต้องมีชื่อของ "Glycolic Acid" ติดโผอยู่ด้วยอย่างแน่นอน ถ้าอยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไรละก็ เราจะพาไปหาคำตอบกันค่ะ

 

ทำความรู้จัก Glycolic Acid Active Ingredient ตัวใหม่ที่น่าจับตามอง

Glycolic Acid คือ AHA หรือที่ทุกคนรู้จักในชื่อ กรดผลไม้ ซึ่งเป็นสารสกัดที่พบมากในพืชที่สร้างน้ำตาล โดยเป็นสารที่มีอนุภาคเล็กทำให้สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก พร้อมเผยผิวใหม่มาทดแทน นอกจากนี้ Glycolic Acid ยังเป็น Active Ingredient หลักที่แพทย์ผิวหนังยังนิยมนำมาใช้ในคอร์สทรีทเม้นท์หลายคอร์สในคลินิก เพื่อช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว ปรับผิวให้เรียบเนียน และโกลว์กระจ่างใส

 

 

คุณประโยชน์ของ Glycolic Acid ที่มีต่อผิว

• ช่วยผลัดเซลล์ผิว

Glycolic Acid มีคุณสมบัติโดดเด่นในการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออก และขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขน ซึ่งช่วยลดการอุดตัน รวมถึงเปิดผิวให้พร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่ ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาคือ ทำให้ผิวพรรณดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ มักใช้เป็น Ingredient ตัวหลักของแพทย์ผิวหนังในการทำพิลลิ่ง

• ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ

การผลัดเซลล์ผิวไม่เพียงแค่ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ ลดปัญหาการเกิดฝ้า กระ ริ้วรอย จุดด่างดำ และรอยสิวบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งในทางคลินิกก็ได้ใช้ AHA ตัวนี้เป็นส่วนประกอบหลักในการรักษา โดยที่คุ้นเคยกันก็คือการมาส์ก AHA Glycolic เพื่อลดรอยแดงหลังจากรักษาเลอเซอร์ หรือกดสิวนั่นเอง

•  กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว

นอกจากจะช่วยผลัดเซลล์ผิวแล้ว Glycolic Acid ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ดูกระชับเต่งตึง พร้อมลดเลือนริ้วรอยเพื่อผิวดูอ่อนเยาว์ และเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดตัวนี้อย่างสม่ำเสมอยังสามารถป้องกันการเสื่อมสลายของคอลลาเจนได้อีกด้วย โดยทางการแพทย์ Glycolic Acid ยังถือเป็น Ingredient เสริมในคอร์สดูแลผิวจำพวก Youthful Treatment

 

 

เหมาะกับผิวแบบไหนบ้าง ?

Glycolic Acid ถือเป็นกรดที่มีความอ่อนโยนมาก จึงทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็น ผิวมัน ผิวแห้ง และผิวผสม โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวคล้ำเสียสะสม และมีปัญหาเรื่องฝ้า กระ ริ้วรอย รวมถึงจุดด่างดำ รอยสิว ไปจนถึงคนที่มีปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตัน โดยสารสกัดตัวนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวอ่อนๆ ทำให้หัวสิวแห้งไว และกดออกง่ายขึ้น 

 

สรุปเหตุผลที่ทำให้ Glycolic Acid เป็นสารสกัดที่กำลังมาแรง

สำหรับเหตุผลที่ทำให้กรดชนิดนี้ขึ้นแท่นเป็นสารสกัดที่กำลังมาแรง คงเป็นเพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ปราศจากสีและกลิ่น อีกทั้งยังได้รับการพิสูจน์แล้วทางการแพทย์ว่าเป็นสารสกัดที่มีประสิทธิภาพในการลดปัญหาผิวที่เกิดจากการถูกแสงแดดทำร้าย รวมถึงช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และริ้วรอยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เทรนด์ Active Ingredient กับ Home Use Derma Solution ก็กำลังเป็นที่นิยมและสนใจของตลาดในขณะนี้ ด้วยเหตุนี้ Glycolic Acid จึงถือเป็นสารสกัดอีกตัวที่น่าจับตามองและกำลังจะมาในปีหน้าอย่างแน่นอน!